ข่าวลึกปมลับ : "พรรคกล้า" เปรี้ยงหรือแป๊ก อยู่ที่ "กรณ์" ใจเสาะไม่ได้

รายการ “ข่าวลึก ปมลับ” ออกอากาศทาง NEWS1 ล้วงปมลึก คลายปมลับ ตีแผ่ประเด็นร้อน กับ นพรัฐ พรวนสุข บก.ข่าวการเมือง และกระบวนการยุติธรรม วันจันทร์ที่ 17 กุมภาพันธ์ 2563 ตอน "พรรคกล้า" เปรี้ยงหรือแป๊ก อยู่ที่ "กรณ์" ใจเสาะไม่ได้    



 จังหวะเดินทางการเมือง ของพรรคการเมืองใหม่ป้ายแดง อย่างพรรค"กล้า" พรรคการเมืองตั้งใหม่ของนาย กรณ์ จาติกวณิช อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง อดีตรองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ที่ชูสโลแกนพรรค“ เรามาเพื่อลงมือทำ “

มีสัญลักษณ์พรรค เป็นรูป มือและสีน้ำเงิน ที่กลุ่มผู้ร่วมก่อตั้งพรรค บอกว่า แทนความมุ่งมั่นที่จะลงมือทำจริง เพื่อสร้างการเปลี่ยนแปลงให้กับประเทศ

ความเป็นไปของ พรรค กล้า นับจากนี้น่าจะสนใจยิ่ง ว่าเอาจริงแล้วพรรค กล้า จะสามารถยืนระยะบนถนนการเมืองไทยได้นานแค่ไหน ? โดยเฉพาะในยามเมื่อกรณ์ ไม่มีร่มเงา ของพรรคประชาธิปัตย์ คอยเกื้อหนุน

สำหรับกรณ์ ยังมีคนมองว่า เป็นคนที่มีบารมี ทีความเป็นดาวฤกษ์อยู่ในตัวเองระดับหนึ่ง ในฐานะอดีตนักการเงิน ผู้ประสบภาคเอกชน ที่ประสบความสำเร็จในทางธุรกิจอย่างรวดเร็ว แล้วออกมาเล่นการเมืองในวัย40 ปี

 ด้วยการเข้าสู่ชายคาพรรคประชาธิปัตย์ และลงสมัครส.ส.ระบบเขต กรุงเทพมหานคร ครั้งแรกก็ได้รับการเลือกตั้ง กรณ์ผ่านมาหมดแล้วทั้งส.ส.เขตและระบบบัญชีรายชื่อ จนขึ้นสู่เก้าอี้ รมว.คลังในยุครัฐบาลอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ชนิดไม่มีแรงต้านจากคนในพรรค 

ในปี2553 เป็นรมว.คลัง ที่เคยได้รับเลือกจากนิตยสาร The Banker นิตยสารชั้นนำของประเทศอังกฤษ ให้เป็น"รัฐมนตรีคลังโลก ปี 2010" และ "รัฐมนตรีคลังเอเชียแห่งปี 2010”มาแล้ว

และล่าสุดกับการเลือกตั้งที่ผ่านมา กรณ์ เป็นทั้งรองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ และประธานคณะกรรมการยกร่างนโยบายในการหาเสียงของพรรคประชาธิปัตย์ แต่อย่างไม่มีใครคาด กรณ์ลาออกจากการเป็นสมาชิกพรรคประชาธิปัตย์ ทำให้พ้นจากการเป็นส.ส. 

ออกมาก็ประกาศตั้งพรรค  กล้า ของตัวเอง   ที่เปิดตัวและยื่นเรื่องขอจดแจ้งการตั้งพรรคกับสำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้งอย่างเป็นทางการไปแล้ว เมื่อวันวาเลนไทน์ 14ก.พ.ที่ผ่านมา

หนทางการเมืองของกรณ์ และพรรคกล้า จะเดินไปได้ไกลแค่ไหน จะเป็นแค่พรรคเฉพาะกิจ หมุนไปตามกระแสการเมืองเป็นช่วงๆ หรือจะเป็นพรรคที่ปักหลัก ยืนระยะได้ยาว เป็นประเด็นที่น่าติดตาม

เพราะที่ผ่านมา ในทางการเมือง กรณ์ อาจจะได้รับความสนใจจากหลายฝ่าย ในหลาย ๆความเคลื่อนไหว ถึงแม้กรณ์ มีโปรไฟล์ส่วนตัวที่ไม่ธรรมดา  แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่า ส่วนหนึ่งที่คนให้ความสนใจก็เป็นเพราะ กรณ์ อยู่ใต้เงาของพรรคประชาธิปัตย์  ที่ผลักดัน กรณ์ อย่างเต็มที่

โดยเฉพาะในยุค อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ เป็นหัวหน้าพรรคและเป็นนายกฯ ที่สนับสนุนให้เป็นทั้งรองหัวหน้าพรรค  -รมว.คลัง -ผู้สมัครส.ส.ปาร์ตี้ลิสต์อันดับต้นๆ -การให้บทบาทในการเป็นหัวหน้าทีมเขียนโยบายพรรค

มาวันนี้ ที่ กรณ์ ต้องออกมายืนสู้บนถนนการเมือง ด้วยลำแข้งตัวเอง โดยไม่มีเครือข่ายความเป็นพรรคใหญ่ พรรคเก่าแก่ มีสมาชิก มีสาขาพรรค มีฐานเสียงอย่างพรรค ประชาธิปัตย์ คอยเกื้อหนุน ส่งเสริม จะเป็นปัญหาอย่างหนัก

การขับเคลื่อน พรรค กล้า ของกรณ์  แม้จะได้ความสนใจในฐานะเป็นพรรคใหม่ ยังสดชั่วไม่มีความดีไม่ปรากฏ คนก็จะเลิกเห่อ แต่นานไปจะเลิกเห่อเลิกติดตาม ถ้า พรรคกล้า ไม่ได้มีอะไรมาเป็นจุดขายทางการเมืองที่ต่อเนื่อง และออกมาเรื่อยๆอย่างจับต้องได้

ยิ่งถึงขณะนี้ วันเลือกตั้งยังห่างไกลอยู่หลายปีการเปิดตัวเร็วจำเป็นต้องเลี้ยงกระแส ทำให้คนสนใจติดตาม ในความเป็นไปของพรรค ให้ต่อเนื่องไปจนถึงสนามการเลือกตั้งจะเปิดฉาก  ดูแล้วก็เป็นงานหนักของกรณ์ และทีมงาน ไม่น้อย

เหตุผลอะไรพรรคกล้าถึงการเปิดตัวเร็ว คงมองได้ว่า ส่วนหนึ่ง กรณ์และทีมงาน ก็คงรู้ดีว่า ด้วยกลไกของกฎหมายพรรคการเมืองฉบับปัจจุบัน ในเรื่องการหาผู้ร่วมก่อตั้งพรรค-การหาสมาชิกพรรค- การตั้งสาขาพรรค-การหาตัวแทนพรรคระดับจังหวัด

ตลอดถึงการทำไพรมารีโหวตเพื่อส่งคนลงเลือกตั้งทั้งระบบเขตและปาร์ตี้ลิสต์  ที่เคยถูกเว้นวรรคไม่มีการนำมาใช้ในการเลือกตั้งที่ผ่านมา จากการที่พลเอกประยุทธ์ใช้อำนาจหัวหน้าคสช.ออกคำสั่งมาตรา 44

องค์ประกอบละเอียดอ่อน และไม่มีการยกเว้นทำให้ พรรคการเมืองที่จะลงเลือกตั้งรอบหน้า ทำพรรคไม่ง่าย ต้องมีการเตรียมตลอดเวลา  โดยต้องจัดการทุกประเด็นตามกฎหมายพรรคการเมืองให้สะเด็ดน้ำแต่เนิ่นๆ จะมั่วซั่วไม่ได้

 ดังนั้น คนทำพรรคตั้งใหม่ หากออกสตาร์ทช้า คิดช้า ทำช้า และหากทุนไม่หนาพอ ไม่มีอำนาจรัฐเกื้อหนุน โอกาสประสบความสำเร็จได้ส.ส.เป็นกอบเป็นกำ ก็ยาก สู้ลุยตั้งแต่มีเวลาดีกว่า

ปัจจัยทั้งหมด จึงเป็นจุดที่ทำให้ กรณ์ และทีมงาน เลยต้องรีบตัดสินใจตั้งพรรค เปิดตัว พรรคกล้า แต่เนิ่นๆ ตั้งแต่ตอนนี้  

 รวมถึง การจัดเลือกตั้งท้องถิ่นทุกระดับ เกิดขึ้นแน่ จนถึงเลือกผู้ว่าฯกทม.ซึ่งในช่วงที่ กรณ์ วางแผนระดมการทำพรรค ก็มีข่าว ธรรศพลฐ์ แบเลเว็ลด์ ประธานกรรมการบริหารกลุ่มบริษัทไทยแอร์เอเชีย ได้แสดงตัวต่อสาธารณชนชัดเจนว่าสนใจจะลงสมัครผู้ว่าฯกทม. ก็ไปร่วมวง ทีมงาน พรรค กล้าด้วย

ทำให้ มีความเป็นไปได้ ที่ พรรคกล้า จะส่งคนของตัวเองลงชิมลาง ในสนามการเมือง เพื่อเช็คกระแส ดูความพร้อมไปพลางๆก่อน  โดยเฉพาะกับสนามผู้ว่าฯกทม. ที่จะมีขึ้น

พรรคกล้า จะเปรี้ยง หรือจะแป๊ก  จะยืนระยะจนถึงวันเลือกตั้งรอบหน้า ได้หรือไม่ บอกได้เลยว่า กรณ์ จะใจเสาะไม่ได้ ต้องใจนิ่ง และหายใจยาวๆ  เข้าไว้