รายการ “ข่าวลึก ปมลับ” ออกอากาศทาง NEWS1 ล้วงปมลึก คลายปมลับ ตีแผ่ประเด็นร้อน กับ นพรัฐ พรวนสุข บก.ข่าวการเมือง และกระบวนการยุติธรรม วันอังคารที่ 4 กุมภาพันธ์ 2563 ตอน "มิ่งขวัญ" บนชีวิตการเมือง ทาง 3 แพร่ง รอวันตัดสินใจ
เส้นทางและจังหวะการเดินทางการเมืองของ มิ่งขวัญ แสงสุวรรณ์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคเศรษฐกิจใหม่ น่าสนใจไม่น้อย ว่านับจากนี้จะเดินไปทางไหน กับสถานภาพที่มิ่งขวัญ ได้กลายเป็นส.ส.ฝ่ายค้าน ในขณะที่ เพื่อนส.ส.เศรษฐกิจใหม่อีก 5 คน ประกาศตัวแยกออกจากพรรคฝ่ายค้านไปแล้ว
การกลับลำของพรรคเศรษฐกิจใหม่ เป็นไปตาม มติกรรมการบริหารพรรคเศรษฐกิจใหม่ ที่ขอถอนตัวจากการเป็นพรรคร่วมฝ่ายค้านไปแล้วอย่างเป็นทางการ
ก่อนที่พรรคฝ่ายค้านจะยื่นญัตติขอเปิดอภิปรายไม่ไว้วางใจ พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและอีก 5 รัฐมนตรี เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา
มิ่งขวัญ จะเดินไปทางไหน มีแผนการเมืองอะไรอยู่ในใจ ? เมื่อประเมิน วิเคราะห์และคาดการณ์บนสมมุติฐานทางการเมืองและความน่าจะเป็น
ก็พอจะแกะรอยความน่าจะเป็นทางการเมือง พอเห็นทางเดินคร่าวๆ ได้ว่า
จังหวะเดินการเมืองของมิ่งขวัญ ผู้มีดีกรีทางการเมือง ไม่นับรวมสมัยทำงานภาคเอกชน เช่น อดีตรมว.พาณิชย์ อดีตรมว.อุตสาหกรรม สมัยรัฐบาลสมัคร สุนทรเวช อดีตส.ส.ปาร์ตี้ลิสต์สามสมัย พลังประชาชน -เพื่อไทย-เศรษฐกิจใหม่ นับจากนี้ จะอยู่ในช่วงที่อาจต้องตัดสินใจครั้งสำคัญ เสมือนอยู่บนทางสามแพร่งทางการเมือง
เส้นทางแรก คือ ยังเป็นส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคเศรษฐกิจใหม่ไปเรื่อยๆ อาจจะเป็น ส.ส.งูเห่า ไม่ปฏิบัติตามมติพรรคในมติสำคัญๆ จนสุดท้าย ถ้าถึงขั้นแตกหัก ผีไม่เผาเงาไม่เหยีบ จนกลุ่มแกนนำพรรคเศรษฐกิจใหม่ สาย มนูญ สิวาภิรมย์รัตน์ และสุภดิช อากาศฤกษ์ เกิดแตกหักกับมิ่งขวัญ
จนมีการใช้มติที่ประชุมใหญ่พรรคขับ มิ่งขวัญ ออกจากสมาชิกพรรค จนทำให้ต้องพ้นจากการเป็นส.ส.เหมือนกับที่พรรคอนาคตใหม่เคยทำกับอดีตส.ส.ของพรรคอนาคตใหม่ก่อนหน้านี้
หากจบแบบนี้ ไม่แน่ มิ่งขวัญ อาจแฮปปี้ก็ได้ เพราะโดนขับเนื่องจาก การรักษาจุดยืนทางการเมืองของตัวเอง ที่เคยพูดไว้ และที่สำคัญ มิ่งขวัญ จะได้เป็นอิสระ ไม่ต้องอยู่ร่วมพรรคกับเพื่อนส.ส.เศรษฐกิจใหม่ แบบมองหน้ากันไม่ติด แบบทุกวันนี้
โดยอาจจะเลือกไปเป็นส.ส.ของ พรรคที่มีส.ส.อยู่ในสภาแล้วในปัจจุบัน หรือจะเป็นพรรคใหม่หรือพรรคที่เคยส่งคนลงเลือกตั้งเมื่อปีที่แล้ว แต่ไม่ได้เป็นส.ส.เป็นต้น
เมื่อดูจากเจตจำนงหรือ political will ของ มิ่งขวัญ ที่ขอยืนหยัดแนวทางไม่เอาด้วยกับขั้วรัฐบาลพลังประชารัฐ ก็ย่อมหมายถึง มิ่งขวัญ ก็ต้องไม่อยู่กับพรรคขั้วรัฐบาลเวลานี้ ถ้าเดินไปเส้นทางนี้ มีสิทธิ์เสียคน อาจจบชีวิตทางการเมืองไม่สวย
คาดได้ว่า หากมิ่งขวัญ โดนขับออกจากพรรค แล้วยังต้องการเป็นส.ส.ต่อ ก็อาจจะไปอยู่กับพรรคร่วมฝ่ายค้านปัจจุบัน ที่พอคุยกันรู้เรื่อง และพร้อมให้บทบาทกับมิ่งขวัญเต็มที่
เมื่อดูพรรคร่วมฝ่ายค้าน ปัจจุบันก็จะพบว่า ส่วนใหญ่ก็ให้ราคากับมิ่งขวัญ มีเช่น พรรคอนาคตใหม่ ที่ท่าทีของธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรค ก็ดูจะค่อนข้างไปด้วยกันได้กับมิ่งขวัญ และหากอนาคตใหม่ได้มิ่งขวัญมาเสริมทัพ ก็ดูจะเป็นผลดีกับพรรคส้มหวานไม่น้อย
ส่วนพรรคอื่นๆ ก็มีโอกาสที่มิ่งขวัญอาจไปอยู่ด้วยได้เช่น พรรคประชาชาติ ของวันมูหะมัดนอร์ มะทา ที่คุ้นเคยกับมิ่งขวัญดีอยู่แล้วตั้งแต่สมัยอยู่พรรคพลังประชาชนด้วยกัน ซึ่งช่วงนั้น วันนอร์ช่วยงานพรรคพลังประชาชนอยู่ข้างหลังตอนช่วงโดนเว้นวรรคการเมือง
และก่อนหน้านี้ก็เคยมีกระแสข่าวอยู่แล้วว่า มิ่งขวัญ กับแกนนำพรรคประชาชาติอย่าง พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง เลขาธิการพรรค ก็เคยเชื่อมคอนเน็คชั่นการเมืองกันอยู่ห่างๆ
สำหรับโอกาสที่ มิ่งขวัญ จะกลับไปอยู่พรรคเพื่อไทย หลังเคยลาออก จากสมาชิกพรรคเพื่อไทย ตอนช่วง ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ยุบสภาฯ ตอนม็อบกปปส. แล้วกำลังจะมีการเลือกตั้ง แต่มิ่งขวัญ ลาออกจากพรรคเสียก่อนในช่วงการเมืองกำลังสับสนวุ่นวาย
ก่อนหน้านั้น มิ่งขวัญ ถูกทักษิณ ชินวัตร จับแช่แข็ง ให้เป็นแค่ส.ส.ปาร์ตี้ลิสต์ เพื่อไทยอันดับหก มาร่วมสองปี โดยไม่เคยให้ มิ่งขวัญ ได้ลุ้นเก้าอี้รัฐมนตรีสักครั้งในรัฐบาลยิ่งลักษณ์
ทำให้มองว่า แม้ประตูเพื่อไทย พร้อมต้อนรับมิ่งขวัญกลับมา แต่เจ้าตัว คงไม่อยากกลับบ้านเก่า ที่ต้องไปต่อแถวใหม่ และยังมีความหลังบางอย่างกับเจ้าของบ้านตัวจริง ทักษิณ ชินวัตร อยู่
จึงทำให้เชื่อกันว่า โอกาสที่ มิ่งขวัญ จะคัมแบ็คกลับเพื่อไทย แทบเป็นไปไม่ได้
ส่วนเส้นทางที่สอง ก็คือ มิ่งขวัญ อาจจะขอทิ้งทวน เตรียมแสดงบทบาทเลคเชอร์อภิปรายกลางสภาฯ ในเรื่องความล้มเหลวในการแก้ปัญหาเศรษฐกิจของรัฐบาล พลเอกประยุทธ์ ในช่วงการอภิปรายไม่ไว้วางใจปลายเดือนนี้
ซึ่งวิปฝ่ายค้านบอกว่าพร้อมจะกันเวลาให้ มิ่งขวัญ โซโลเดี่ยวไปเลย 2 ชั่วโมง แล้วจากนั้น มิ่งขวัญ ถึงค่อยตัดสินใจ ที่อาจเลือกทางเดินใดทางเดินหนึ่ง อย่างเช่น ลาออกจากส.ส. ไปเลย เพื่อเตรียมไปทำงานการเมืองบางอย่าง
เช่น ลาออกไปเตรียมทำพรรคการเมืองของตัวเอง สร้างบ้านใหม่ทางการเมืองที่ตัวเอง เป็นคนเขียนแบบบ้าน ตอกเสาเข็มเอง ในแบบเดียวกับที่ กรณ์ จาติกวณิช กำลังทำเวลานี้
ไม่ใช่ เป็นนั่งร้านให้คนอื่น แบบที่เคยทำให้กับพรรคเศรษฐกิจใหม่ที่ต้องพบความช้ำใจ แทบจะหลั่งน้ำตาบนโพเดียมในวันประกาศแยกทางกับพรรค
สำหรับ เส้นทางที่สาม มิ่งขวัญ อาจต้องตัดสินใจทางการเมือง ครั้งสำคัญในการหาพื้นที่ให้กับตัวเองเพื่อให้ ได้แสดงบทบาททางการเมือง และบทบาทนักบริหารที่มิ่งขวัญสร้างชื่อมา เช่น การเข้าสู่สนามเลือกตั้งท้องถิ่น ลงสมัครชิงเก้าอี้ ผู้ว่าฯกทม.
ทางสามแพร่งกำลังอาจรอให้ มิ่งขวัญ เลือกตัดสินใจหลังจากนี้ แต่หากมิ่งขวัญไม่คิดตัดสินใจอะไร ขอเป็นส.ส.หัวเดียวกระเทียมลีบ แบบนี้ไปเรื่อยๆ ไม่คิดสร้างพื้นที่ให้ตัวเองได้แสดงศักยภาพ กาลเวลา ก็จะทำให้คนลืมชื่อ มิ่งขวัญ แสงสุวรรณ
