xs
xsm
sm
md
lg

ซักฟอก 3 ป.เสียงโหวตแตกแถว-ซวยแน่ !!

เผยแพร่:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์


พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา - พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ
เมืองไทย 360 องศา



หลังจากที่พรรคร่วมฝ่ายค้านยื่นญัตติขอเปิดอภิปรายทั่วไปเพื่อลงมติไม่ไว้วางใจรัฐมนตรีเป็นรายบุคคลไปแล้วเมื่อวันที่ 31 มกราคมที่ผ่านมา ทำให้ขั้นตอนหลังจากนี้ก็จะเป็นการเตรียมรับมือการอภิปรายของบรรดารัฐมนตรีที่มีรายชื่อถูก ซักฟอก รวมไปถึงการกำหนดความพร้อมในชี้แจงและกำหนดวันอภิปราย ซึ่งจะเป็นหน้าที่ของประธานสภาผู้แทนราษฎร คือ นายชวน หลีกภัย รวมไปถึงรัฐมนตรีที่ต้องมีความพร้อมในโอกาสต่อไป

เพื่อทบทวนความจำกันอีกครั้งว่ามีรัฐมนตรีที่ถูกฝ่ายค้านยื่นญัตติ “ซักฟอก” คราวนี้มีด้วยกัน 6 คนดังนี้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย นายดอน ปรมัตถ์วินัย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ และ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์

แน่นอนว่าหากพิจารณาจากเป้าหมายแล้วก็ย่อมมองออกได้ไม่ยากว่าต้องการพุ่งเป้าไปที่ “พี่น้อง 3 ป.” เป็นหลัก นั่นคือ ป.ประยุทธ์ ป.ป้อม และ ป.ป๊อก พล.อ.อนุพงษ์ เป็นหลัก โดยเฉพาะอย่างยิ่งสองคนแรกคือ “ประยุทธ์-ประวิตร” นั่นแหละ เพราะถือว่าเป็นแกนหลักของรัฐบาลต่อเนื่องมาจากยุครัฐบาลคณะรักษาความสงบแห่งชาติ(คสช.)

ขณะเดียวกันสำหรับเบื้องหลังการยื่นญัตติซักฟอกของฝ่ายค้านจากพรรคเพื่อไทยคราวนี้เมื่อได้ฟังจากการโพสต์ล่าสุดของ ภูมิธรรม เวชยชัย อดีตเลขาธิการพรรคเพื่อไทย คนใกล้ชิดของครอบครัว ทักษิณ ชินวัตร ก็เปิดเผยออกมาชัดเจนแล้วว่า จะมีการอภิปราย “ย้อนอดีต” ไปในยุคของรัฐบาลคสช.โดยเฉพาะการ “ยึดอำนาจรัฐบาล น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร เมื่อปี 2557

ความหมายก็คือ “ยังแค้นไม่หาย”ที่ทำให้รัฐบาลพรรคเพื่อไทยต้องตกจากอำนาจรัฐมาจนถึงปัจจุบันนี้ อย่างไรก็ดีหากเป็นไปตามการเปิดเผยออกมาของอดีตเลขาธิการพรรคเพื่อไทยคนนี้ และมีการอภิปราย “ย้อนยุค” แบบที่ว่าจริง มันจะเป็นไปได้ หรือ มีปัญหาหรือไม่ จะเกิดการประท้วงวุ่นวายจากพรรคฝ่ายรัฐบาล โดยเฉพาะพรรคพลังประชารัฐที่ประกาศเอาไว้ตั้งแต่ต้นแล้วว่า ไม่ยอมแน่ โดยย้ำว่าหากจะอภิปรายก็ต้องอภิปรายเฉพาะผลงานและการทำงานของรัฐบาลใหม่ที่เข้ามาบริหารในช่วง 5-6 เดือนนี้เท่านั้น

อย่างที่รับรู้กันแล้วว่าเมื่อเป้าหมายหลักเป็น “พี่น้อง 3 ป.”ก็ย่อมเข้าใจได้ไม่ยากว่า ต้องการทำลาย “เสาหลัก” เพราะรู้กันดีว่าหากสามารถโค่นลงได้ หรือทำให้เกิดอาการ “ซวนเซ” มันก็ย่อมส่งผลสะเทือนต่อรัฐบาลชุดนี้โดยรวมไปด้วย

อย่างไรก็ดีมันก็ไม่ใช่เรื่องง่าย เพราะต้องมีรายการประท้วงกันวุ่นวาย เพื่อขัดขวางกันอย่างเต็มที่ ซึ่งที่ผ่านมาฝ่ายรัฐบาลก็ยืนยันมาตลอดแล้วว่าหากจะอภิปรายก็ต้องอภิปรายเฉพาะการทำงานของรัฐบาลปัจจุบันเท่านั้น จะไม่มีการอภิปราย “ย้อนยุค” เป็นอันขาด แต่ขณะเดียวกันก็ต้องขึ้นอยู่กับการวินิจฉัยของประธานสภาผู้แทนราษฎร คือ นายชวน หลีกภัย เป็นหลักว่าจะมีความเห็นอย่างไรด้วย

และแม้ว่าพอจะคาดเดาล่วงหน้าได้ไม่ยากว่า บรรยากาศการอภิปรายไม่ไว้วางใจที่กำลังจะมีขึ้นในอีกไม่กี่วันข้างหน้าน่าจะออกมาในแบบ “กร่อย” หากพิจารณาจากการคาดเดาในเนื้อหา และบรรดารายชื่อของ “ขุนพล”ฝ่ายค้านที่จะถูกวางตัวมาอภิปราย เพราะหากพิจารณาตามความเป็นจริงแล้วมันก็ปฏิเสธไม่ได้ล้วนแล้วแต่เป็นพวก “แถวสองแถวสาม” กันทั้งนั้น เนื่องจากพวกแกนหลักหรือ “แถวหนึ่ง” ล้วนแล้วแต่ตกเก้าอี้ไม่ได้เป็น ส.ส.อย่างเห็นกันอยู่ มันก็ย่อมส่งผลต่อน้ำหนักในการทำหน้าที่ในสภาของฝ่ายค้านและพรรคเพื่อไทยอย่างเห็นได้ชัด

และแน่นอนว่าการซักฟอกคราวนี้ฝ่ายค้านคงหวังเพียงแค่ “แซะ” เสาหลักของรัฐบาล โดยพิจารณาจากเป้าหมายคือ “พี่น้องสามป.” โดยเฉพาะทั้ง “บิ๊กตู่” พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา และ “บิ๊กป้อม” พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ เป็นหลัก โดยไม่มีรัฐมนตรีจากพรรคร่วมรัฐบาลอื่นๆนอกเหนือจากพรรคพลังประชารัฐที่เป็นพรรคแกนนำรัฐบาล  
 
เมื่อเป็นแบบนี้ก็ต้องจับตาเพียงแค่ว่า “เสียงโหวตจะออกมาเท่ากันหรือไม่” โดยเฉพาะในกลุ่ม “ 3 ป.” รับรองว่าเป็นเรื่องแน่ ซึ่งที่เน้นๆก็ต้องเป็น “บิ๊กตู่กับ บิ๊กป้อม” หากคนใดคนหนึ่งหรือทั้งสองคนมีเสียงโหวตสนับสนุนน้อยกว่ารัฐมนตรีคนอื่น

แม้ว่าในความเป็นจริงแล้วโอกาสเป็นไปได้น้อยก็ตาม เพราะยังเชื่อว่าถึงอย่างไรพรรคร่วมรัฐบาลจะต้องเทเสียงสนับสนุนเป็นเอกภาพค่อนข้างแน่ เพราะเชื่อว่าทุกพรรคยังต้องการอยู่ร่วมรัฐบาลกันต่อไป ขณะเดียวกันในมุมของพรรคแกนนำอย่างพรรคพลังประชารัฐ รวมไปถึง “พี่ใหญ่” พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ ที่ย้ำอย่างหนักแน่นแบบ “ส่งเสียงเข้ม”ออกมาแล้วว่าทุกพรรคร่วมรัฐบาลต้องลงมติไปในทิศทางเดียวกัน ความหมายก็คือห้ามแตกแถว แต่หากมีรายการแตกแถวลองดีออกมา โดยเฉพาะในบางพรรคที่มักถูกจับตามองมานานอย่างเช่นพรรคประชาธิปัตย์ใน “บางปีก” ที่มักเขย่ารัฐบาลอยู่เป็นระยะจะออกมาทางเดียวกันหรือไม่

ดังนั้นหากพิจารณาจากรายชื่อรัฐมนตรีที่ถูกยื่นญัตติซักฟอกที่พุ่งเป้ามาที่ 3 ป.นำทีมโดย พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา และ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ และช่วงเวลาที่ถูกบีบให้ต้องอภิปรายในช่วงเวลา 5-6 เดือนของรัฐบาลชุดนี้ห้ามอภิปรายย้อนยุค ทำให้คาดการณ์ไว้ล่วงหน้าว่าเนื้อหาคงกร่อย
 
เมื่อพิจารณาจากตัวขุนพลของฝ่ายค้านที่อยู่ในระดับ “แถวสอง”หรือ “แถวสาม” ในตอนนี้ แต่ที่น่าจับตามากกว่าก็คือเสียงโหวตสนับสนุนของพรรคร่วมรัฐบาลว่าจะออกมาเป็นเอกภาพเต็มร้อยหรือไม่ โดยเฉพาะเสียงของ 3 ป.ถ้ามีรายการแตกแถวรับรองเป็นเรื่องแน่ !!


กำลังโหลดความคิดเห็น