ข่าวลึกปมลับ : ส้มหวาน จะเน่า หรืออยู่ มีแต่ข่าวไม่ดี เสียวระทึก

รายการ “ข่าวลึก ปมลับ” ออกอากาศทาง NEWS1 ล้วงปมลึก คลายปมลับ ตีแผ่ประเด็นร้อน กับ นพรัฐ พรวนสุข บก.ข่าวการเมือง และกระบวนการยุติธรรม วันพุธที่ 19 กุมภาพันธ์ 2563 ตอน ส้มหวาน จะเน่า หรืออยู่ มีแต่ข่าวไม่ดี เสียวระทึก    



อีกไม่กี่ชั่วโมงนับจากนี้ คนไทยจะได้รู้กันเสียทีว่า พรรคอนาคตใหม่ ที่แวดวงการเมืองเรียกกันว่า พรรคส้มหวาน จะมีอยู่ในสารบบทะเบียนพรรคการเมืองของสำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้งต่อไปหรือไม่

โดยวันศุกร์ที่21ก. พ. นี้ ศาลรัฐธรรมนูญจะมีการอ่านคำวินิจฉัยผลคดียุบพรรคอนาคตใหม่ ในคดีเงินกู้ 191 ล้านบาท ปมเหตุมาจากพรรคอนาคตใหม่ ทำนิติกรรมกู้ยืมเงินจากธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ในช่วงเลือกตั้ง

ที่ต่อมา กกต.มีความเห็นว่า การกู้เงินดังกล่าว เป็นการกระทำที่ผิด ม.72 ตาม พรป.ประกอบ รธน. ว่าด้วยพรรคการเมือง 2560 ซึ่งมีหัวใจสำคัญก็คือ ห้ามมิให้พรรคการเมืองและผู้ดำรงตำแหน่งในพรรคการเมือง

รับบริจาคเงินทรัพย์สิน หรือประโยชน์อื่นใด โดยรู้หรือควรจะรู้ว่า ได้มาโดยไม่ชอบด้วยกฎหมาย หรือมีเหตุอันควรสงสัยว่า มีแหล่งที่มาโดยไม่ชอบด้วยกฎหมาย

การกู้เงิน191 ล้านบาทกลายเป็นคำร้องคดีความที่คณะกรรมการการเลือกตั้ง มีความเห็นให้ส่งคำร้องให้ศาลรัฐธรรมนูญยุบพรรคอนาคตใหม่ ตามพรบ.พรรคการเมือง ฯ มาตรา 92 และ มาตรา 93

กกต.ใช้เวลาพิจารณาเรื่องดังกล่าว 89 วัน โดยฝ่ายพรรคอนาคตใหม่ก็สู้ในประเด็นหลักว่า นิติกรรมทั้งหมดทำโดยเปิดเผย ไม่ใช่นิติกรรมอำพราง และที่สำคัญ กฎหมายพรรคการเมืองไม่ได้ห้ามพรรคการเมืองที่เป็นนิติบุคคลกู้เงิน เมื่อกฎหมายไม่ห้าม จึงย่อมทำได้ไม่ผิด ตามหลักปรัชญากฎหมายมหาชน

คดีนี้ ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ นัดประชุมกันตั้งแต่ช่วงเช้า 9 โมง เพื่อให้ตุลาการศาลรธน.ทั้งหมดเก้าคนได้มาแถลงคำวินิจฉัยส่วนตัว เพื่อออกเป็นมติของศาลรัฐธรรมนูญ และนำไปอ่านต่อคู่ความ ตั้งแต่บ่ายสามโมง

นัยว่า เพื่อให้ประชาชนทั้งประเทศได้ร่วมลุ้นกันว่า พรรคอนาคตใหม่จะโดนยุบหรือไม่โดนยุบ และกรรมการบริหารพรรคจะโดนตัดสิทธิ์การเมืองหรือไม่ โดยคาดว่าไม่เกิน 16.30 น. ก็จะได้รู้ผลอย่างเป็นทางการ

แน่นอนว่าความเป็นไปของพรรคอนาคตใหม่ ที่ตั้งขึ้นมาแค่ 2ปีกว่า แต่ประสบความสำเร็จทางการเมืองระดับหนึ่ง กับการลงเลือกตั้งครั้งแรก ก็ได้คะแนนจากประชาชนทั่วประเทศ ถึง 6.3 ล้านเสียง

ส่งผลให้ ได้ส.ส.บัญชีรายชื่อมากถึง 50 คน และได้ส.ส.เขต 31 คน รวมแล้วได้ส.ส.ร่วม 81 คน จนกลายเป็นพรรคมีเสียงส.ส.อันดับสาม มากกว่าพรรคเก่าแก่อย่างประชาธิปัตย์ และพรรคภูมิใจไทยเสียอีก

มีส.ส.ปาร์ตี้ลิสต์ ที่เป็นกรรมการบริหารพรรค 10 คน ไม่นับรวมธนาธร ที่ไม่ได้เป็นส.ส.แล้ว ดังนั้น หากศาลรธน.ตัดสิทธิ์กรรมการบริหารพรรค จะทำให้ ส.ส.ซีกฝ่ายค้านเสียงจะ หายไปอีก 10 ที่นั่ง ทันทีในช่วงก่อนการเปิดอภิปรายไม่ไว้วางใจ ในวันจันทร์ที่24ก. พ. นี้

เพราะถือว่าอนาคตใหม่โดนยุบพรรคไปแล้ว ไม่สามารถเลื่อนผู้สมัครส.ส.ปาร์ตี้ลิสต์อนาคตใหม่ ในลำดับถัดๆไปขึ้นมาแทน 10 คนที่โดนตัดสิทธิ์ได้

กรรมการบริหารพรรคที่ต้องลุ้นว่าจะถูกเว้นวรรคการเมืองหรือไม่ ล้วนแล้วแต่คนดังพรรคส้มหวานทั้งสิ้น ไม่ว่าจะเป็นดร.ปิยะบุตร แสงกนกกุล เลขาธิการพรรค , น.ส.พรรณิการ์ วานิช หรือโฆษกพรรค,

เสธโหน่ง พลโทพงศกร รอดชมภู รองหัวหน้าพรรค ที่โดนถล่มหนักเรื่องชูธงปฏิรูปทหาร ล้างระบบอภิสิทธิ์ในกองทัพ เกษียณไม่ได้เป็นทหารมาแล้วหลายปี แต่ยังพักอาศัยบ้านทหารอยู่ รวมทั้ง ชำนาญ จันทร์เรืองรองหัวหน้าพรรค อดีตนักวิชาการอิสระ นางสาวกุลธิดา รุ่งเรืองเกียรติ คนดังแห่งวงการการศึกษาทางเลือก เป็นต้น

ส่วนส.ส.ระบบบัญชีรายชื่อและส.ส.เขต อนาคตใหม่ ที่ไม่ได้เป็นกรรมการบริหารพรรค ก็ต้องตัดสินใจทางการเมืองกันต่อไปว่า จะเอาอย่างไร จะเกาะกลุ่มกันต่อไป เพื่อไปอยู่พรรคสำรอง ที่ตอนนี้มีการเตรียมการไว้หมดแล้ว และพร้อมเปิดตัวทันที หากอนาคตใหม่ไม่รอด โดนยุบพรรค

ไม่แน่ สุดท้าย อนาคตใหม่ อาจจะแพแตกก็ได้ คือไม่ได้เกาะกลุ่มไปอยู่กับพรรคสำรองด้วยกันทั้งหมด โดยอาจมีส.ส.บางคน อาจไป อยู่กับพรรคการเมืองที่มีส.ส.ในสภาฯแล้ว

แต่หากสุดท้าย ศาลรธน.หรือตุลาการศาลรธน.เสียงข้างมาก มีมติและคำวินิจฉัยว่าการกู้เงินดังกล่าวของอนาคตใหม่ ไม่ได้ทำผิด หรือเป็นการฝ่าฝืนพรบ.พรรคการเมือง ก็เท่ากับ อนาคตใหม่ ก็ได้เฮอีกรอบ เพราะไม่โดนยุบพรรค กรรมการบริหารพรรคไม่โดนตัดสิทธิ์

โค้งสุดท้าย ก่อนถึงวันชี้ชะตาพรรคอนาคตใหม่ศุกร์นี้ จะพบว่า แกนนำพรรคอนาคตใหม่และกองเชียร์ มีการเคลื่อนไหวอย่างหนัก จนถูกมองว่า อาจเป็นเพราะแกนนำพรรคและกองเชียร์ ประเมินว่า คดีนี้อาจไม่มีข่าวดี เหมือนคดีล้มล้างการปกครอง

จุดสำคัญของคำตัดสินคดีนี้ ก็คือ คำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ ไม่ว่าจะตัดสินว่าการกู้เงินดังกล่าว ผิดหรือไม่ผิด ตามพรบ.พรรคการเมือง ที่ศาลรธน.จะนำมาอ่านให้ประชาชนทั้งประเทศรับรู้

ต้องเคลียร์ทุกประเด็น ทั้งในข้อเท็จจริงและข้อกฎหมาย หากศาลเห็นว่า กรรมการบริหารพรรคอนาคตใหม่ทำผิด และควรต้องยุบพรรคเพราะเป็นเงินที่ได้มาโดยไม่ชอบตามกฎหมาย คำวินิจฉัยก็ต้องอธิบาย ลำดับเหตุการณ์ ความผิดปกติในการกู้เงินดังกล่าว ให้ประชาชนเข้าใจอย่างสิ้นสงสัย

และหากศาลมีมติว่า การกู้เงินดังกล่าว ทำได้ ไม่มีความผิด จึงไม่ตัดสิทธิ์กรรมการบริหารพรรค ไม่ยุบพรรคอนาคตใหม่ คำวินิจฉัยของศาลรธน. ก็ต้องอธิบายเหตุผลให้สาธารณชนเข้าใจโดยละเอียดเช่นกัน

ชะตากรรมของกรรมการบริหารพรรคอนาคตใหม่และพรรคอนาคตใหม่ สุดท้าย จะได้ไปต่อทางการเมืองหรือจะสิ้นสุดแค่ช่วงเย็นวันศุกร์นี้ ต้องติดตามด้วยใจระทึก