เย็นวันเสาร์นี้ คลังเปิดให้แรงงานได้รับผลกระทบ COVID-19 ลงทะเบียนรับเงิน 5 พันบาท 3 เดือน ภายใน 7 วัน หลังลงทะเบียน พร้อมเสนอ ครม.จัดสรรงบเพิ่ม หากผู้เดือดร้อนเกินเป้าหมาย
นายอุตตม สาวนายน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง แถลงความพร้อมมาตรการชดเชยรายได้ลูกจ้างของสถานประกอบการที่ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนา (COVID-19) หรือ “มาตรการเยียวยา 5,000 บาท (3 เดือน)” เป็นมาตรการภายใต้ชุดมาตรการดูแลและเยียวยาผลกระทบจาก COVID-19 ต่อเศรษฐกิจไทยทั้งทางตรงทางอ้อม ระยะที่ 2 ตามที่ ครม.เห็นชอบ จึงเปิดให้กลุ่มแรงงาน ลูกจ้างชั่วคราวและอาชีพอิสระ เป็นกลุ่มคนถูกปลดออกจากงาน เลิกจ้าง จากปัญหาร้านค้า หรือกิจการปิดลง ทำให้มีรายได้น้อยลง โดยต้องชี้แจงเหตุผลรายละเอียดให้ได้จากการมีปัญหาได้รับผลกระทบ หากไม่ได้รับผลกระทบ ไม่ควรลงทะเบียน ยอมรับว่าขณะนี้เป็นช่วงวิกฤตการแพร่ระบาดเชื้อโรค จึงต้องดูแลผู้ได้รับความเดือดร้อนจริงๆ หากไม่เดือดร้อนไม่อยากให้เข้ามาแข่งรับเงินกับผู้เดือดร้อน
ด้านธนาคารกรุงไทยเตรียมเปิดระบบลงทะเบียนรับเงินตั้งแต่วันเสาร์ที่ 28 มีนาคม 2563 เวลา 18.00 น.เป็นต้นไป ผ่านเว็บไซต์ www.เราไม่ทิ้งกัน.com ตลอด 24 ชั่วโมง ขอย้ำให้ผู้ลงทะเบียนควรใช้โทรศัพท์มือถือประจำตัวที่สามารถติดต่อสื่อสารถึงผู้ใช้สิทธิ เพื่อระบบจะได้แจ้งผลการลงทะเบียนและสิทธิตามมาตรการตอบกลับมายังผู้ลงทะเบียน ผ่านทางข้อความ SMS จากนั้นจะโอนเงินให้บัญชีพร้อมเพย์ที่ผูกกับเลขบัตรประจำตัวประชาชนผ่านบัญชีธนาคารที่มีชื่อและนามสกุลเจ้าของบัญชีตรงกับชื่อและนามสกุลนำมาลงทะเบียน ขอเน้นย้ำว่าไม่ต้องการให้เดินทางมาสาขาของธนาคารกรุงไทย เพื่อลดการแพร่ระบาดของเชื้อโรค จึงเปิดให้ลงทะเบียนผ่านเว็บไซต์
นายลวรณ แสงสนิท ผู้อำนวยการ สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) เปิดเผยว่า คุณสมบัติของผู้ลงทะเบียน มีอายุตั้งแต่ 18 ปีขึ้นไป เป็นผู้ไม่อยู่ในระบบประกันสังคม เป็นแรงงาน ลูกจ้างชั่วคราว อาชีพอิสระ ให้เตรียมหลักฐานบัตรประจำตัวประชาชน ข้อมูลส่วนบุคคล ข้อมูลประกอบอาชีพ ข้อมูลนายจ้าง โดยกระทรวงการคลังไม่อยากให้ทุกคนแห่มาลงทะเบียนเผื่อโชคดีอาจผ่านการตรวจสอบ อยากให้คนเดือเร้อนจริงๆ เข้ามาลงทะเบียน โดยจะมีการตรวจสอบคุณสมบัติตามหลักเกณฑ์ที่กระทรวงการคลังกำหนดจะได้รับเงินช่วยเหลือรายละ 5,000 บาทต่อเดือน เป็นระยะเวลา 3 เดือน
เมื่อลงทะเบียนแล้วระบบพร้อมจ่ายเงินเยียวยาเข้าบัญชีเร็วสุดภายใน 7 วันทำการ หากผู้ลงทะเบียนและผ่านการตรวจสอบคุณสมบัติมากกว่า 3 ล้านคน จากเป้าหมายที่กำหนดไว้ กระทรวงการคลังพร้อมจะนำเสนอคณะรัฐมนตรีพิจารณาจัดสรรงบประมาณเพิ่มเติมจากเดิมเสนอขอไว้ 45,000 ล้านบาท นอกจากนี้ กระทรวงการคลังยังจัดตั้งศูนย์เครือข่ายช่วยเหลือ เพื่อรับร้องเรียนจากประชาชนมอบหมายให้กรมบัญชีกลาง ธนาคารออมสิน ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) ร่วมกัน เพื่อประสานแนวทางแก้ปัญหาหนี้ ทั้งเงินกู้ฉุกเฉิน สินเชื่อพิเศษ ต้องการให้ติดต่อผ่านระบบออนไลน์ เพื่อสอบถามทั้ง 3 องค์กร แต่ไม่อยากให้เดินทางมาติดต่อกับเจ้าหน้าที่
นายผยง ศรีวณิช กรรมการผู้จัดการใหญ่ ธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ผู้เดือดร้อนตามที่กำหนดไว้ให้ลงทะเบียนผ่านเว็บไซต์ www.เราไม่ทิ้งกัน.com เพื่อกรอกรายละเอียดตามขั้นตอน ธนาคารกรุงไทยจะมีระบบ AI สำหรับการตรวจสอบผู้ได้รับผลกระทบ รองรับการลงทะเบียนได้ถึง 58,000 รายการต่อวินาที หรือ 3.48 ล้านคนต่อนาที และเปิดให้ลงทะเบียนต่อเนื่องตลอด 24 ชั่วโมง จึงไม่ต้องแห่มาลงทะเบียนตั้งแต่วันแรก เพราะยังมีเวลาให้ทุกคนเตรียมข้อมูลส่วนตัว
หากประชาชนไม่สามารถลงทะเบียนออนไลน์ได้ด้วยตนเองอาจขอความร่วมมือให้บุคคลใกล้ชิดหรือญาติช่วยลงทะเบียนออนไลน์ สามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับการลงทะเบียนออนไลน์ได้ที่ Call Center ของธนาคารกรุงไทย หมายเลขโทรศัพท์ 0-2111-1144
