xs
xsm
sm
md
lg

ถ้าฝรั่งยังทุบ..หุ้นหมดสิทธิฟื้น / สุนันท์ ศรีจันทรา

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



จำแทบไม่ได้แล้วว่า ครั้งสุดท้ายที่ดัชนีหุ้นพุ่งขึ้นแรงระดับ 40 จุดเกิดขึ้นเมื่อไหร่ เพราะตั้งแต่เกิดวิกฤตไวรัสโควิด-19 หุ้นทรุดหนักอย่างต่อเนื่อง รูดลงวันเดียวเกือบ 80 จุดก็เห็นมาแล้ว เพิ่งจะดีดตัวกลับอย่างคึกคักเมื่อวันอังคารที่ผ่านมานี่เอง

ดัชนีอุตสาหกรรมดาวโจนส์ของตลาดหุ้นสหรัฐฯ เมื่อวันจันทร์ที่กระเด้งขึ้นกว่า 1,293 จุด เพราะแรงกระตุ้นจากความคาดหมาย ธนาคารกลางสหรัฐฯ หรือเฟดจะใช้ยาแรงอัดฉีดเศรษฐกิจ โดยลดดอกเบี้ยมากกว่า 0.5% กลายเป็นปัจจัยชี้นำ ผลักดันให้ตลาดหุ้นไทยทะยานขึ้น

จากอาการร่อแร่ ทำท่าจะหลุดระดับ 1,300 จุด พลิกฟื้นขึ้นมายืนที่ระดับ 1,375.02 จุด โดยบวก 39.30 จุด ในวันอังคารที่ผ่านมา

แม้สถานการณ์ตลาดหุ้นจะดูดีขึ้น แต่นักลงทุนยังหวั่นไหวว่า ตลาดหุ้นอาจฟื้นไม่จริง ดัชนีหุ้นอาจไปไม่ไกล เพราะตัวเลขการซื้อขายหุ้นของนักลงทุนรายกลุ่มส่งสัญญาณไม่น่าไว้วางใจ

ดัชนีหุ้นที่พุ่งทะยาน เกิดจากแรงซื้อของนักลงทุนสถาบันในประเทศ ซึ่งส่วนใหญ่คือ กองทุนรวม โดยมียอดซื้อสุทธิ 8,888.81 ล้านบาท ขณะที่นักลงทุนกลุ่มอื่นขายหมด โดยเฉพาะนักลงทุนต่างประเทศที่ขายหนัก 5,324.64 ล้านบาท

ถ้าต่างชาติยังขายไม่เลิก ทุบไม่เลี้ยง ตลาดหุ้นอาจฟื้นตัวเพียงระยะสั้นเท่านั้น และดัชนีฯ อาจไม่สามารถตีฝ่าทะลุระดับ 1,400 จุดขึ้นไปได้

เพราะกองทุนมีกำลังซื้อจำกัด ไม่สามารถเก็บหุ้นเข้าพอร์ตได้ต่อเนื่อง ส่วนนักลงทุนรายย่อย นับตั้งแต่ต้นปีเป็นผู้ซื้อรายใหญ่ รับหุ้นมาตลอด จนพอร์ตเละไปตามๆ กัน และคงไม่ลุยไล่ซื้อหุ้น ขณะที่บัญชีซื้อขายของบริษัทหลักทรัพย์ก็เอาแน่เอานอนไม่ได้ เพราะซื้อหรือขายในลักษณะเก็งกำไรระยะสั้นมากกว่า

หุ้นดิ่งลงมาลึกมาก จากระดับ 1,600 จุด เหลือเพียง 1,375 จุด ลงมา 225 จุด นับจากข่าวการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัส เมื่อมีปัจจัยบวกจากการฟื้นของดัชนีดาวโจนส์ อาจเป็นจังหวะที่กองทุนจุดพลุแรงซื้อนำ แต่ปรากฏว่า นักลงทุนกลุ่มอื่นไม่แห่ซื้อตาม

กองทุนจึงลุยเพียงกลุ่มเดียว กลายเป็นผู้แบกหุ้นต้นทุนสูง

ต่างชาติอาจมีมุมมองตลาดหุ้นนด้านลบ เมื่อหุ้นขึ้นจึงเป็นโอกาสที่ดีในการขาย และเทขายออกมาอีกระลอกใหญ่ ทำให้ยอดขายหุ้นสุทธิสะสมของต่างชาตินับจากต้นปี จนสิ้นสุดวันที่ 3 มีนาคมที่ผ่านมา พุ่งขึ้นเป็น 46,602.82 ล้านบาท

และถือเป็นการขายต่อเนื่องเป็นปีที่ 3 หลังจาก 2 ปีก่อนหน้าเทขายหุ้นแล้วกว่า 3 แสนล้านบาท

การแพร่ระบาดเชื้อไวรัสโควิด-19 ยังไม่สามารถควบคุมได้ ยังไม่มีวัคซีนป้องกัน ไม่มียารักษา ผลกระทบจากเชื้อร้ายจึงลุกลามต่อไปในวงกว้าง

สำหรับตลาดหุ้นไทย ยังมีปัจจัยเสี่ยงจากปัญหาภายใน ไม่ว่าผลกระทบจากภัยแล้ง ภาวะเศรษฐกิจที่ซบเซาสุดขีด และยังมี สถานการณ์การเมืองที่ระอุขึ้นมา จากการเคลื่อนไหวของกลุ่มนักศึกษาที่ลุกขึ้นมาต่อต้านรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา

บรรยากาศการลงทุนในตลาดหุ้นยังไม่สดใสนัก การดีดตัวอย่างร้อนแรงของดัชนีหุ้นเมื่อวันอังคาร อาจเกิดขึ้นเพียงระยะสั้น ไม่ใช่สัญญาณการฟื้นตัวในระยะยาว

และถ้าต่างชาติยังไม่ขนเงินกลับเข้าตลาดหุ้น ดัชนีฯ คงเดินหน้าต่อลำบาก พุ่งขึ้นไปไม่ได้ไกล

นักลงทุนรายย่อยที่ชิงจังหวะขาย คงประเมินทิศทางหุ้นได้ดีว่า ถ้าสถานการณ์รอบด้านยังไม่นิ่ง จำเป็นต้องระมัดระวังตัว

หุ้นขึ้นแรงจึงไม่ใช่เวลาที่จะเข้าไปไล่ซื้อ แต่ถือเป็นโอกาสขายหุ้นออก ลดน้ำหนักหุ้นในพอร์ต ลดความเสี่ยงการลงทุน ในยามที่ไม่อาจประเมินแนวโน้มตลาดหุ้นได้






กำลังโหลดความคิดเห็น