xs
xsm
sm
md
lg

หุ้นไทยคลายกังวลบวก 40 จุด เชื่อมั่นมาตรการกระตุ้นรัฐเอาอยู่

เผยแพร่:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์

ผู้จัดการรายวัน 360-ตลาดหุ้นไทยรีบาวนด์ บวกเกือบ 40 จุด หรือ 2.94% ปิดที่ 1,375.02 จุด หลังนักลงทุนคลายกังวล การแพร่ระบาดไวรัสโควิด-19 ในจีนลดลง พร้อมให้ความเชื่อมั่นมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจและการท่องเที่ยวของรัฐบาลไทยช่วยพยุงเศรษฐกิจได้ บล.ทรีนีตี้ เผยเดือนมี.ค. โอกาสเหมาะที่นักลงทุนระยะยาวทยอยสะสมหุ้น หลังรูดยาว เหตุ P/E ลดต่ำใกล้ค่าเฉลี่ยปี 49 แล้ว พร้อมกำชับให้ติดตามการประชุมเฟด-กนง. ที่จะกำหนดทางอัตราดอกเบี้ย

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า บรรยากาศการลงทุนในตลาดหุ้นไทย วานนี้ (3 มี.ค.) ดัชนีตลาดหุ้นไทย ปรับตัวยืนแดนบวกอีกครั้ง หลังจากนักลงทุนเริ่มคลี่คลายการแพร่ระบาดไวรัสโควิด-19 ในจีนลง และเชื่อมั่นรัฐบาลจะออกมาตรการมาช่วยบรรเทาและพยุงเศรษฐกิจที่จะได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ดังกล่าว รวมถึงการปรับตัวเพิ่มขึ้นของดัชนีดาวโจน์ ตลาดหุ้นนิวยอร์คในวันที่ผ่านมาด้วย

โดยดัชนีตลาดหุ้นปรับตัวแตะระดับสูงสุดที่ 1,380.39 จุด ต่ำสุดที่ 1,352.22 จุด ก่อนจะปิดการซื้อขายที่ 1,375.02 จุด เพิ่มขึ้น 39.30 จุด หรือคิดเป็น 2.94% มูลค่าการซื้อขายคึกคักรวมกว่า 70,048.53 ล้านบาท

ทั้งนี้ นักลงทุนต่างชาติ ขายสุทธิ 5,324.64 ล้านบาท สถาบันในประเทศ ซื้อสุทธิ 8,888.81 ล้านบาท บัญชีบริษัทหลักทรัพย์ ขายสุทธิ 347.06 ล้านบาท และนักลงทุนทั่วไปในประเทศ ขายสุทธิ 3,217.11 ล้านบาท

สำหรับหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 3 อันดับแรก ได้แก่ บริษัทบริหารสินทรัพย์ กรุงเทพพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) หรือ BAM ราคาปิดที่ 24.00 บาท เพิ่มขึ้น 1.40 บาท หรือ 6.19% มูลค่าซื้อขาย 5,448.26 ล้านบาท บริษัท ซีพีออลล์ จำกัด (มหาชน) ปิดที่ 70.00 บาท เพิ่มขึ้น 3.50 บาท หรือ 5.26% มูลค่า 3,443.82 ล้านบาท และบริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) หรือ PTT ปิดที่ 40.75 บาท เพิ่มขึ้น 1.50 บาท หรือ 3.82% มูลค่าซื้อขาย 3,311.32 ล้านบาท

ส่วนตลาดหุ้นสำคัญๆ ในภูมิเอเชีย เช่น ตลาดหุ้นโตเกียว ดัชนีนิกเกอิ ปิดที่ 21,082.73 จุด ลดลง 261.35 จุด หรือ 1.22% ตลาดหุ้นฮ่องกง ดัชนีฮั่งเส็ง ปิดที่ 26,284.82 จุด ลดลง 6.86 จุด หรือ 0.03% ตลาดหุ้นจีน ดัชนีเซี่ยงไฮ้คอมโพสิต ปิดที่ 2,992.90 จุด เพิ่มขึ้น 21.97 จุด หรือ 0.74% ตลาดหุ้นเกาหลีใต้ ดัชนีคอมโพสิต (KOSPI) ปิดที่ 2,014.15 จุด เพิ่มขึ้น 11.64 จุด หรือ 0.58%

นักวิเคราะห์หลักทรัพย์ ให้ความเห็นว่า ตลาดหุ้นไทยปรับตัวเพิ่มขึ้นแรง หลังจากปรับตัวลงมาต่อเนื่องหลายวัน ซึ่งสอดคล้องตลาดหุ้นโลก โดยเฉพาะดัชนีดาวโจนส์ปรับตัวเพิ่มขึ้นกว่า 5% ที่ขานรับคาดการณ์ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะผ่อนผันนโยบายการเงิน รวมถึงมีการอัดฉีดเงินเข้าระบบเพื่อต่อสู้กับไวรัสโควิด-19 ขณะที่ตลาดหุ้นไทย ได้รับแรงหนุนจากหุ้นกลุ่มพลังงาน และหุ้นกลุ่มท่องเที่ยว ที่สถานการณ์การแพร่ระบาดไวรัสโควิด-19 ในจีนดีขึ้น บวกกับรัฐบาลไทยเตรียมออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ และการสนับสนุนการท่องเที่ยว

ส่วนแนวโน้มการลงทุนวันนี้ (4 มี.ค.) ตลาดหุ้นไทยมีโอกาสปรับตัวขึ้นได้ต่อเนื่อง หลังจากก่อนหน้าได้ปรับตัวลดลงค่อนข้างมาก แต่ต้องขึ้นอยู่กับสถานการแพร่ระบาดไวรัสโควิด-19 นอกประเทศจีน ที่เริ่มมีการแพร่ระบาดมากขึ้น รวมถึงสถานการณ์ในประเทศไทยด้วย โดยให้แนวรับไว้ที่ 1,360 จุด และแนวต้าน 1,380-1385 จุด

นายณัฐชาต เมฆมาสิน ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ ฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.ทรีนีตี้ กล่าวว่า ตลาดหุ้นช่วงเดือนมี.ค.63 นี้ นับเป็นโอกาสที่น่าสนใจเข้ามาสะสมหุ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งนักลงทุนระยะยาว เนื่องจากปัจจุบันหุ้นไทยปรับลดลง P/E อยู่ที่ 14 เท่า ใกล้เคียงกับค่าเฉลี่ยตั้งแต่ปี 49 ที่ 13.8 เท่าแล้ว ทั้งนี้ หากใช้ P/Eที่ 13.8 เท่านี้ในการคำนวณระดับดัชนีที่เหมาะสมจะได้ว่าดัชนีที่เป็นโอกาสเข้าสะสมหุ้นที่สำคัญจะตรงกับระดับ 1,310 จุด

ส่วนปัจจัยที่นักลงทุนต้องติดตามอย่างใกล้ชิด คือ การประชุมของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ในช่วงวันที่ 17-18 มี.ค.2563 ซึ่งล่าสุดนักลงทุนในตลาดพันธบัตรให้น้ำหนักเกิน 100% แล้วว่า จะมีมติลดดอกเบี้ยนโยบายลงในการประชุมดังกล่าวและการประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) ในวันที่ 25 มี.ค.2563 ซึ่งนักลงทุนในตลาดก็ให้น้ำหนัก 100% เช่นกันว่าจะมีมติปรับลดดอกเบี้ยเป็นครั้งที่ 2 ติดต่อกัน


กำลังโหลดความคิดเห็น