SCGP เผยผลประกอบการปี 62 โต 6.1% มองไวรัสโควิด-19 เป็นปัจจัยเสี่ยงระยะสั้น มั่นใจธุรกิจยังขยายตัวตามการเติบโตของตลาดอี-คอมเมิร์ซ พร้อมทุ่มงบลงทุนปี 63 อีกกว่า 7,600 ล้านบาท ขยายการลงทุนเพิ่มในภูมิภาคอาเซียน
นายวิชาญ จิตร์ภักดี ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เอสซีจี แพคเกจจิ้ง จำกัด (มหาชน) หรือ SCGP เปิดเผยผลประกอบการปี 2562 มีรายได้จากการขาย 89,070 ล้านบาท โต 6.1% และมีกำไร 5,268 ล้านบาท โดยสัดส่วนรายได้ส่วนใหญ่ 57% มาจากภายในประเทศ และอีก 43% มาจากประเทศในภูมิภาคอาเซียน เช่น เวียดนาม อินโดนีเชีย ฟิลิปปินส์ และมาเลเซีย
ขณะที่ปัจจัยเสี่ยงปี 2563 เช่น ไวรัสโคโรนา หรือโควิด -19 มองว่าเป็นปัจจัยเสี่ยงระยะสั้น เช่นเดียวกับการแข็งค่าของเงินบาทที่บริษัทยังสามารถบริหารจัดการได้ จึงมั่นใจว่าธุรกิจยังเติบโตได้ดี จากปัจจัยหนุนการเพิ่มขึ้นของประชากรวัยหนุ่มสาวที่มีรายได้ระดับปานกลางในไทย เวียดนาม อินโดนีเชีย และฟิลิปปินส์ ซึ่งเป็นตลาดหลัก รวมทั้งผลดีจากการที่ธุรกิจอี-คอมเมิร์ซเติบโตอย่างมากเฉลี่ย 20% ต่อปี จึงมองว่าภาพรวมของธุรกิจบรรจุภัณฑ์ทุกประเภทในภูมิภาคอาเซียนในช่วง 6 ปี (ปี 2561-2567) จะมีอัตราการเติบโตเฉลี่ย 6.1% ต่อปี โดยปี 2567 คาดจะมีมูลค่าตลาดรวมประมาณ 72,700 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เพิ่มขึ้นจากปี 2561 ที่มีมูลค่าตลาดรวมอยู่ที่ 51,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ
สำหรับปี 2563 SCGP ยังเดินหน้าขยายการลงทุนต่อเนื่อง โดยจะเน้นภูมิภาคอาเซียนเป็นหลัก เช่น เวียดนาม ฟิลิปปินส์ และอินโดนีเชีย ด้วยงบลงทุนกว่า 7,600 ล้านบาท นอกจากนี้ ภายในปีนี้ SCGP เตรียมเปิดระดมทุนในตลาดหุ้น ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการพิจารณาของตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.)