แสนสิริดันยอดขายเดอะเบส สุขุมวิท 50 ชูจุดขายคุณภาพ ออกแบบ บริการหลังการขาย คาดปิดการขายภายใน 2 ปี ระบุปี 63 มีแต่ปัจจัยลบ โครงการใหม่ตั้งราคาสะท้อนความเป็นจริงหวังเข้าถึงลูกค้ามากสุด
นายปิติ จารุกำจร รองกรรมการผู้จัดการฝ่ายพัฒนาโครงการแนวสูงและบริหารกลยุทธ์โครงการ บริษัท แสนสิริ จำกัด (มหาชน) หรือ SIRI เปิดเผยว่า ภาพรวมของตลาดอสังหาริมทรัพย์ในปี 63 เป็นปีที่มีแต่ปัจจัยลบทั้งภายในและปัจจัยภายนอกประเทศ จากเดิมที่เศรษฐกิจก็ยังไม่ฟื้นตัวชัดเจน ทำให้ตลาดอสังหาฯ ได้รับผลกระทบไปด้วย โดยเฉพาะตลาดคอนโดมิเนียม ทำให้ในปีนี้บริษัทต้องวางแผนกลยุทธ์ให้มีความสอดคล้องต่อสถานการณ์ความเป็นจริง โดยโครงการใหม่ที่จะเปิดในปีนี้จะสะท้อนความจริงด้านราคาขายในปัจจุบันมากที่สุด เพื่อให้เข้าถึงลูกค้าได้มากขึ้น แต่โครงการของบริษัทยังคงต้องสร้างจุดขายและความแตกต่างด้านดีไซน์และคุณภาพ รวมถึงบริการหลังการขายที่แสนสิริสามารถทำได้เป็นอย่างดีจากโครงการที่ผ่านมา โดยจะนำจุดขายเหล่านี้ใช้ในการดึงดูดลูกค้า
ล่าสุด แสนสิริได้นำโครงการคอนโดมิเนียม THE BASE สุขุมวิท 50 มาทำการตลาดอีกครั้งหลังเปิดตัวไปได้ 2 ปี ปัจจุบัน มียอดขายแล้วประมาณ 50% โครงการดังกล่าวที่มีจำนวน 415 ยูนิต มูลค่าโครงการ 1,575 ล้านบาท ตั้งอยู่ในทำเลย่านอ่อนนุช-พระโขนง ซึ่งเป็นทำเลที่มีศักยภาพสูง และมีการเติบโตอย่างต่อเนื่อง เป็นโครงการที่บริษัทร่วมทุนกับพันธมิตรญี่ปุ่น คือ โตคิว คอร์ปอเรชั่น และเป็นโครงการล่าสุดที่ก่อสร้างแล้วเสร็จ เตรียมทยอยโอนให้แก่ลูกค้า
ปัจจุบัน มีลูกค้าโอนแล้ว 60% ของจำนวนยูนิตที่ขายได้ ขณะเดียวกัน มีสัดส่วนลูกค้าต่างชาติที่ซื้อโครงการดังกล่าวที่ 20% ส่วนใหญ่เป็นลูกค้าฮ่องกง จีน และไต้หวัน โดยที่โครงการดังกล่าวได้เปิดการขายมาตั้งแต่ปี 61 ซึ่งราคาขายเริ่มต้นในปัจจุบันยังไม่เปลี่ยนแปลงจากช่วง 2 ปีก่อนที่ขายเริ่มต้น 100,000 บาท/ตารางเมตร หรือเริ่มต้น 2.59 ล้านบาท สำหรับห้องขนาด 25 ตารางเมตร
ทั้งนี้ บริษัทคาดว่าจะสามารถปิดการขายได้ภายใน 2 ปี โดยได้จัดแคมเปญ “แสนสิริผ่อนให้ฟรี 1 ปีเต็ม” พร้อมฟรีค่าจดจำนอง ฟรีค่าใช้จ่ายในการโอน และฟรีส่วนกลางอีก 1 ปี พร้อมตกแต่งให้ครบเข้าอยู่ได้ทันที ฟรีเฟอร์นิเจอร์ เครื่องใช้ไฟฟ้า ผ้าม่าน ไปตลอดจน Home Automation
เดอะ เบส สุขุมวิท 50 ออกแบบสไตล์บูติกรีสอร์ต ผ่านคอนเซ็ปต์ “Camouflage” หรือการพรางตัวซ่อนพื้นที่มุมส่วนตัว เสมือนการหลีกหนีความวุ่นวายในเมืองหลวง เพียงก้าวแรกที่สัมผัสเข้าโครงการก็เปรียบดั่งการเปิดประตูบานใหญ่ให้เราได้พักผ่อน ส่งผ่านงานออกแบบในสไตล์การพรางตัวมายังลวดลายการออกแบบตัวที่เหนือกฎเกณฑ์ โดดเด่นด้วยคู่สี Smoky Orange และ Green Mint เพิ่มความสร้างสรรค์ด้วยแพตเทิร์นของศิลปะ Op Art ตอบรับรสนิยมของผู้อาศัยที่มีตัวตนชัดเจน
นอกจากนี้ ยังเลือกใช้วัสดุ เช่น “Terrazzo” จากอิตาลี มาเป็นส่วนหนึ่งในการรังสรรค์พื้นที่อาคาร โดดเด่นด้วยดีไซน์โคมไฟจาก Tom Dixon ศิลปินระดับโลกชาวอังกฤษที่ขึ้นชื่อในการออกแบบโคมไฟและเครื่องใช้ตกแต่งบ้าน พร้อมตอกย้ำแนวคิดของชีวิตสร้างสรรค์ที่เหนือกฎเกณฑ์กับเฟอร์นิเจอร์แปลกใหม่ บ่งบอกคาแร็กเตอร์ที่ไม่เคยตามใครให้มากกว่าด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกที่มากกว่าความครบครันแต่มาพร้อมดีไซน์การออกแบบเหนือระดับที่ได้แรงบันดาลใจจากศิลปะแนว Optical Art อย่างสระว่ายน้ำดีไซน์สวยที่ดีไซน์ผ่านเส้นสายพรางตา มอบบรรยากาศที่ผ่อนคลายกับเวลาที่เดินไปช้าๆ ระหว่างแช่ Jacuzzi ท่ามกลางพื้นที่สีเขียว และสวนสวยที่เชื่อมต่อกับ Hidden Courtyard สุดชิลที่ซ่อนตัวอยู่ใต้ต้นไม้ใหญ่ร่มรื่น พร้อมเปิดประสบการณ์ใหม่ของการออกกำลังกายที่ Extraordinary Gym ฉีกกฎเดิมๆ ด้วยอุปกรณ์สุดล้ำ ทั้งเครื่องพายเรือเสมือนจริง (row HX) ลูกบอลเรืองแสง (fluid ball) เครื่องชกมวย (nexersys) และ Functional Training Floor นวัตกรรมจัดเต็มเพื่อการดูแลสุขภาพที่แปลกใหม่ที่มาพร้อมดีไซน์แปลกตา
สำหรับทำเลอ่อนนุช-พระโขนง ในปีที่ผ่านมายังมีความต้องการซื้อที่อยู่อาศัยประเภทคอนโดมิเนียมในระดับสูง โดยพบว่ามีจำวน 6,800 ยูนิต หรือเพิ่มขึ้น 14% จากปี 61 ในขณะที่มีปริมาณซัปพลายอยู่ที่ 9,600 ยูนิต ซึ่งถือว่าเป็นทำเลที่มีอัตราการดูดซับในระดับสูง ส่วนของราคาที่ดินในย่านดังกล่าวยังมีการเติบโตสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยในปี 61 มีราคาที่ดินซื้อขายอยู่ที่ 850,000-900,000 บาท/ตารางวา หรือเพิ่มขึ้นราว 8% ต่อปี ขณะที่อัตราผลตอบแทนที่ได้จากการปล่อยเช่าอยู่ที่ 5.3% หรือมีราคาปล่อยเช่า 500-800 บาท/ตารางเมตร ซึ่งถือว่าให้ผลตอบแทนที่ดี
ทั้งนี้ การพัฒนาโครงการในปีนี้จะตั้งราคาที่ลูกค้าเข้าถึงได้มากขึ้น แบรนด์ THE BASE ถือเป็นหนึ่งแบรนด์ที่สามารถนำมารุกตลาดได้ดี เนื่องจากในช่วงที่ผ่านมาโครงการ THE BASE ถือเป็นโครงการที่ได้รับการตอบรับจากลูกค้าเป็นอย่างดีมาตลอด และสามารถขายได้หมดอย่างรวดเร็ว ซึ่งพัฒนามาทั้งหมด 17 โครงการ มากกว่า 10,000 ยูนิต มูลค่ารวมกว่า 30,000 ล้านบาท ปัจจุบันมีโครงการคอนโดมิเนียมภายใต้แบรนด์ The BASE เหลือขายอยู่เพียง 3 โครงการ ใน 3 ทำเล ได้แก่ THE BASE เพชรเกษม THE BASE สะพานใหม่ และ THE BASE สุขุมวิท 50