เหลืออีกเพียง 6 วันทำการ ตลาดหุ้นจะปิดฉากปี 2562 แต่ไม่อาจทำนายได้ว่า ดัชนีหุ้นจะจบปีนี้ลงในระดับใด และช่วงโค้งสุดท้าย ควรช้อนซื้อหุ้นเก็บเพื่อดักทำกำไรในปีหน้าหรือไม่ เพราะทิศทางการลงทุนในระยะสั้นและระยะยาวไม่อาจทำนายได้
แม้สงครามการค้าจะมีข้อยุติ โดยจะมีการลงนามในข้อตกลงระหว่างสหรัฐฯ กับจีนในเดือนมกราคมปีหน้า แต่ ปัจจัยในเชิงบวกชิ้นนี้ถูกซึมซับไปแล้ว และยังไม่มีข่าวดีชิ้นใหม่เข้ามา หุ้นจึงหยุดชะงักอีกครั้ง
ดัชนีหุ้นเมื่อวันศุกร์ปิดลงที่ระดับ 1,572.92 จุด เพิ่มขึ้นเพียง 5.04 จุดเท่านั้น เมื่อเทียบกับจุดปิดเมื่อสิ้นปี 2561 ที่ระดับ 1,563.88 จุด ซึ่งหมายถึงเกือบ 1 ปีที่ผ่านมา นักลงทุนแทบไม่มีผลตอบแทนจากตลาดหุ้น
ส่วนนักเก็งกำไรระยะสั้น ซื้อขายรายวัน คงขาดทุนกันถ้วนหน้า เพราะมีต้นทุนจากค่านายหน้าซื้อขายหุ้น แต่ทำกำไรได้ไม่คุ้ม
ปกติในช่วงปลายปี นักลงทุนจะรอจังหวะเก็บหุ้นตุนไว้ในพอร์ต โดยหวังว่า ปีต่อไปตลาดหุ้นจะสดใส หรือช่วงต้นปี นักลงทุนต่างชาติจะกลับเข้ามาไล่ซื้อหุ้น
แต่ปลายปีนี้ แม้หุ้นจะทรุดตัวลงมาในระดับราคาที่น่าสนใจ แต่นักลงทุนส่วนใหญ่ก็ยังไม่กล้าเก็บหุ้นเท่าไหร่นัก เพราะไม่มั่นใจว่า บรรยากาศการลงทุนในปีหน้าจะสดใส
ส่วนต่างชาติไม่มีสัญญาณว่าจะกลับมา แม้จะขายต่อเนื่องมา 2 ปีติดแล้วก็ตาม โดยปี 2561 ขายทั้งสิ้น 2.87 แสนล้านบาท ปีนี้ขายหุ้นออกมียอดสะสมสุทธิ 43,031.16 ล้านบาท
เคยมีความเชื่อกันว่า หลังจากวันที่ 15 ธันวาคมของทุกปี ต่างชาติจะพักการลงทุน ชะลอการซื้อขาย แต่ระยะหลังความเชื่อว่า ฝรั่งจะหยุดพักในช่วง 2 สัปดาห์สุดท้ายของแต่ละปี เป็นเพียงทฤษฎีเท่านั้น
เพราะฝรั่งยังเคาะซื้อขายต่อเนื่อง มูลค่าซื้อขายไม่ได้ลดฮวบอย่างมีนัย เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมายังถล่มขายหนักกว่า 3.39 พันล้านบาท และเป็นผู้ขายรายใหญ่สัดส่วน 54.44% ของมูลค่าขายหุ้นทั้งตลาด
แม้เหลือเพียงไม่กี่วันจะส่งท้ายปี 62 แต่ยังไม่อาจคาดเดาได้ว่า ต่างชาติจะวางกลยุทธ์การลงทุนอย่างไร เพราะขณะที่ขายหุ้นในตลาดหลักทรัพย์ แต่กลับซื้อสัญญา LONG SET FUTURE หรือซื้อสัญญาดัชนีเซท 50 ล่วงหน้าขึ้น โดยวันศุกร์ซื้อถึง 6,022 สัญญา
นักลงทุนหลายคนจะติดตามสัญญาซื้อขายเซท 50 ฟิวเจอร์สของต่างชาติในช่วงปลายแต่ละไตรมาส เพราะสัญญาฟิวเจอร์ส จะเป็นสิ่งบ่งชี้ว่า ต่างชาติจะทุบหุ้นลงหรือลากหุ้นขึ้น
ถ้าถือสัญญา SHORT FUTURE สะสมไว้จำนวนมาก ปลายไตรมาสฝรั่งจะทุบหุ้นลง โดยเทขายหุ้นขนาดใหญ่ เพื่อกดดัชนีหุ้นและทำกำไรจากสัญญาฟิวเจอร์ส แต่ถ้าถือสัญญา LONG FUTURE ไว้ จะลุยซื้อหุ้น ลากดัชนีหุ้น เพื่อทำกำไรจากสัญญาฟิวเจอร์ส
แต่ยอดสัญญาฟิวเจอร์สสะสมของต่างชาตินับจากต้นปี มีสัญญา LONG เพียง 19,803 สัญญาเท่านั้น โดย 1 สัญญา เมื่อเทียบกับดัชนีเซท 50 ขึ้นลง 1 จุด จะมีมูลค่าเท่ากับ 200 บาท
ส่วนสัญญาสะสมช่วงไตรมาสสุดท้าย หรือตั้งแต่เดือนตุลาคมจนถึงวันที่ 20 ธันวาคมที่ผ่านมา จะเป็นสัญญา SHORT ประมาณ 50,000 สัญญา ซึ่งสัญญาจะหมดอายุวันที่ 27 ธันวาคมนี้
ประเมินจากสัญญาฟิวเจอร์สที่ตกค้างแล้ว ไม่ได้ชี้ชัดว่า ต่างชาติจะลากหรือทุบหุ้นในอีก 6 วันข้างหน้า
นักวิเคราะห์หลักทรัพย์ส่วนใหญ่มองว่า หุ้นโค้งสุดท้ายคงไม่มีอะไรตื่นเต้น ดัชนีฯ มีแนวโน้มเคลื่อนไหวในกรอบแคบ และขยับขึ้นไปได้แถว 1,580 จุดเท่านั้น
นักลงทุนคงปล่อยให้ตลาดหุ้นปีนี้ปิดฉากด้วยความเหงา และคงไม่กล้าเก็บหุ้นเข้าพอร์ต แม้มีของถูกๆ ให้เลือกมากมายก็ตาม
เพราะกังวลว่า ปีหน้าหุ้นอาจผันผวนไม่น้อยกว่าปีนี้
