เป็นที่เข้าใจโดยทั่วไปว่า ช่วงปลายปีของทุกปี นักลงทุนต่างชาติจะชะลอการซื้อขายหุ้น หยุดพักการลงทุนชั่วคราว เพื่อฉลองเทศกาลคริสต์มาสและปีใหม่ แต่ไม่ใช่กฎตายตัวเสมอไป โดยเฉพาะช่วงหลายปีที่ผ่านมา ซึ่งต่างชาติลุยซื้อขายหุ้นตลอด โดยไม่มีการเว้นวรรคแต่อย่างใด
ในอดีต ใกล้เทศกาลคริสต์มาส หรือช่วง 2 สัปดาห์สุดท้ายก่อนสิ้นปี นักลงทุนต่างชาติจะชะลอการซื้อขายอย่างชัดเจน ทำให้ตลาดหุ้นเงียบเหงา มูลค่าซื้อขายหุ้นเบาบาง เพราะมีแต่นักลงทุนภายในประเทศซื้อขายกันเอง และเงินจากกองทุนหุ้นระยะยาวหรือ LTF ยังไม่มีเข้ามา
ต่างชาติจะกลับเข้าลงทุนอีกครั้งประมาณสัปดาห์ที่ 2 หลังปีใหม่ และทำให้บรรยากาศการซื้อขายหุ้นกลับมาคึกคัก ราคาหุ้นพุ่งทะยาน จนเกิดปรากฏการณ์ “แจนยัวรี่เอฟเฟกต์” อยู่หลายปี
แต่ปัจจุบันพฤติกรรมของนักลงทุนต่างชาติเปลี่ยนไป โดยไม่มีการ “พักรบ” ไม่ว่าจะเป็นช่วงเวลาใด จะคริสต์มาสหรือปีใหม่ ก็ยังซื้อขายตามปกติ
สัปดาห์นี้ ต่างชาติน่าจะปิดคำสั่งซื้อขายกันแล้ว แต่มูลค่าการซื้อขายของต่างชาติกลับไม่ได้ลดลงอย่างมีนัย โดยเมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา สัดส่วนการซื้อขายหุ้นของต่างชาติ ยังอยู่ในระดับประมาณ 50% ของมูลค่าซื้อขายรวมทั้งตลาด ส่วนวันอังคาร สัดส่วนการซื้อขายหุ้นของต่างชาติอยู่ในระดับ 35% ของมูลค่าการซื้อขายหุ้นรวมทั้งตลาด
และยังเป็น กลุ่มนักลงทุนที่มีสัดส่วนการซื้อขายหุ้นมากที่สุด
โค้งสุดท้ายของตลาดหุ้นไทยปีนี้ นักลงทุนสถาบันควรเป็นผู้ชี้นำตลาด เพราะมีเงินจากกองทุน LTF กว่า 1 หมื่นล้านบาทไหลผ่านเข้ามา แต่เมื่อต่างชาติยังซื้อขายหุ้นตามปกติ กลุ่มนักลงทุนที่มีบทบาทสำคัญในการชี้นำหุ้นจึงยังเป็นต่างชาติ และเมื่อวันอังคารที่ผ่านมา ได้ถล่มขายหุ้นกว่า 1,158 ล้านบาท ฉุดให้ดัชนีฯ ทรุดตัวลงเกือบ 5 จุด
การที่ต่างชาติปรับพฤติกรรม ไม่หยุดธุรกรรมการลงทุนในช่วงเทศกาลสำคัญปลายปี อาจเป็นเพราะมีธุรกรรมการลงทุนที่หลากหลาย และเป็นการลงทุนที่มีความเกี่ยวพันกัน โดยเฉพาะการลงทุนในหุ้นรายตัว กับการซื้อขายสัญญาเซท 50 ฟิวเจอร์ส ซึ่งต่างชาติเป็นกลุ่มผู้ซื้อขายรายใหญ่เหมือนกัน
การเคลื่อนไหวของหุ้นขนาดใหญ่ มีผลต่อการขึ้นลงของดัชนีเซท 50 ซึ่งถูกใช้อ้างอิงสัญญาซื้อขายดัชนีเซท 50 ฟิวเจอร์ส ซึ่งสัญญา 3 เดือน จะปิดทุกสิ้นแต่ละไตรมาส โดยสัญญาล่าสุดจะปิดวันที่ 27 ธันวาคมนี้
สัญญาซื้อขายดัชนีเซท 50 ที่ถือไว้ ทำให้ต่างชาติทิ้งตลาดหุ้นไปไม่ได้ เพราะต้องเฝ้าติดตามความเคลื่อนไหวของตลาดหุ้น ต้องบริหารการขึ้นลงของดัชนีฯ โดยหากถือสัญญา SHORT เซท 50 ฟิวเจอร์สไว้ จะต้องพยายามกดดัชนีฯ ให้ลง โดยการเทขายหุ้นขนาดใหญ่ออกมา เพื่อทำกำไรในสัญญาฟิวเจอร์ส
แต่หากถือสัญญา LONG หรือซื้อสัญญาเซท 50 ฟิวเจอร์ส ขาขึ้นไว้ จะต้องพยายามผลักดันให้ดัชนีฯ พุ่งทะยานขึ้น โดยอาจจะไล่ซื้อหุ้นขนาดใหญ่ เพื่อทำกำไรจากสัญญา LONG ฟิวเจอร์สที่ถืออยู่
ยอดสะสมสัญญาเซท 50 ฟิวเจอร์สอายุ 3 เดือนที่จะสิ้นสุดวันที่ 27 ธันวาคมนี้ พิจารณาจากข้อมูลซื้อขายนับตั้งแต่เดือนตุลาคมที่ผ่านมา ต่างชาติถือสัญญา SHORT ประมาณ 56,000 สัญญา กองทุนถือสัญญา SHORT ประมาณ 28,000 สัญญา และนักลงทุนรายย่อยถือสัญญา LONG ประมาณ 94,000 สัญญา
ดังนั้น ต่างชาติจึงต้องพยายามถล่มหุ้นให้ลง โดยการเทขายหุ้นขนาดใหญ่ เพื่อฉุดดัชนีฯ ให้ลง
ใครที่คิดว่า ช่วงส่งท้ายปีเก่าจะปิดตลาดหุ้น ซื้อขายกันเองเฉพาะกลุ่มนักลงทุนในประเทศ ประกอบด้วย กองทุนรวม พอร์ตโบรกเกอร์และนักลงทุนรายย่อยเท่านั้น โดยไม่ต้องพะวงต่างชาติ คงต้องคิดกันใหม่แล้ว
เพราะต่างชาติยังไม่ได้หนีไปไหน ไม่ได้หลบไปพักยาวๆ ช่วงส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ แต่ยังเฝ้าตลาดหุ้น และ รอฟันทำกำไรจากสัญญา SHORT SET 50 FUTURE อยู่
จึงต้องเฝ้าระวังฝรั่งทุบหุ้นส่งท้ายปีเก่า
