แม้ว่า หุ้นบริษัทบริหารสินทรัพย์ กรุงเทพพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) หรือ BAM จะสามารถประคองตัว ราคาไม่หลุดจองได้ ในวันแรกที่ประเดิมเข้าซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ แต่ วันที่สอง BAM ก็ไปไม่รอด ราคาหลุดจองเป็นที่เรียบร้อย ทำให้นักลงทุนที่จองซื้อไว้ และไม่ยอมขายในวันแรก บาดเจ็บไปตามกัน ๆ
BAM เข้าซื้อขายวันแรก (16 ธ.ค.) ราคาปิดที่ 17.50 บาท เท่าราคาจอง แต่การซื้อขายวันที่ 2 ราคารูดลงมาปิดที่ 17.30 บาท หลุดจอง 20 สตางค์ หรือ 1.14% และไม่อาจคาดหมายได้ว่า ทิศทางความเคลื่อนไหวจะเป็นอย่างไร เพราะเริ่มมีข่าวด้านลบจากหุ้นตัวนี้ออกมาบ้างแล้ว
การที่ BAM หลุดจอง ทำให้เกิดการตั้งคำถามว่า ทำไมกรีนชู ออปชั่น จึงไม่ทำงาน ทำไมจึงปล่อยให้ราคาหุ้นต่ำกว่า 17.50 บาท
เพราะตามความเข้าใจของนักลงทุนโดยทั่วไปคิดว่า หุ้นที่ใช้ “กรีนชู ออปชั่น” มาเป็นลูกเล่น เพื่อเรียกความมั่นใจของนักลงทุนที่จองซื้อ เมื่อราคาหุ้นต่ำกว่าจอง กลไกกรีนชู ฯ จะทำงาน โดยเข้ามาซื้อหุ้นในทันที
แต่ในทางปฏิบัติกลับไม่ใช่ เพราะกรีนชู ฯ จะเข้ามาซื้อหุ้นเมื่อไหร่ก็ได้ ภายในระยะเวลา 30 วัน นับจากหุ้นเข้าซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ และจะซื้อราคาใดก็ย่อมได้
บริษัทหลักทรัพย์กสิกรไทยและบริษัทหลักทรัพย์ ทรีนีตี้ ร่วมกันเป็นที่ปรึกษาทางการ เงิน BAM และร่วมกันเป็นแกนนำการจัดจำหน่ายหุ้น แต่ไม่ได้รับประกันการจำหน่าย
และเนื่องจากมีการทุ่มงบโฆษณาประชาสัมพันธ์กันเต็มที่ เพื่อสร้างกระแสการจองซื้อหุ้น BAM ทำให้นักลงทุนสถาบัน และ นักลงทุนรายย่อยแห่จองซื้อหุ้นตัวนี้ และเป็นโอกาสที่ผู้จัดจำหน่าย นำหุ้นส่วนเกิน (กรีนชู ออปชั่น) จำนวน 230 ล้านหุ้น ซึ่งยืมจากกองทุนเพื่อการฟื้นฟุและพัฒนาระบบสถาบันการเงินมาจำหน่ายเพิ่มเติม
กรีนชู ฯ กลายเป็นเครื่องมือเพื่อเรียกความมั่นใจการจองซื้อหุ้น เพราะทำให้นักลงทุนคิดว่า เมื่อมีกรีนชู ฯ ภายใน 30 วัน หุ้น BAM ไม่น่าจะต่ำกว่าจอง
แต่ทุกคนถูกหลอกให้มีความเชื่อผิด ๆ เพราะไม่มีข้อกำหนดตายตัวว่า กรีนชู ฯ จะเข้ามาช้อนซื้อหุ้น BAM ทันทีที่ราคาต่ำกว่าจอง แต่สามารถนั่งรอดูหุนต่ำกว่าจอง จนกว่าจะพอใจราคา จึงทยอยเข้ามาซื้อ ยิ่งซื้อต่ำ ยิ่งมีส่วนต่าง ๆ โดยเมื่อซื้อหุ้นครบจำนวน 230 ล้านหุ้น เพื่อส่งคืนกองทุนฟื้นฟู ฯ แล้ว ยังเหลือเงินติดไม้ติดมือผู้จัดจำหน่าย
ถ้ากลไกกรีนชู ฯ ทำงาน หุ้น BAM คงไม่รูดลงมาต่ำกว่าจอง แต่เพราะกลไกกรีนชู ฯ ไม่ยอมทำงาน อาจเป็นเพราะต้องการรอซื้อของถูก นักลงทุนที่จองซื้อ BAM จึงต้องรับเคราะห์
กรณีกรีนชู ฯ BAM จะเป็นบทเรียนที่นักลงทุนต้องพึงสังวรไว้ อย่าได้หลงผิดว่า หุ้นที่นำกรีนชู ฯ มาเป็น “ลูกเล่น” แล้ว ราคาหุ้นจะไม่ต่ำกว่าจอง
อย่างไรก็ตาม วิบากกรรมของนักลงทุนที่จอง BAM ยังไม่หมดสิ้น เพราะนับจากงวดบัญชีปี 2563 BAM จะแปรรูปเป็นบริษัทเอกชนเต็มตัว เนื่องจากกองทุนฟื้นฟู ฯ ลดสัดส่วนการถือหุ้นเหลือเพียง 41.46 % ของทุนจดทะเบียน ทำให้ผู้ตรวจสอบบัญชีงบการเงินจะเปลี่ยนไป จากสำนักงานตรวจเงินแผ่นดิน กลายเป็นสำนักงาน อีวาย จำกัด
และเชื่อกันว่า การตรวจสอบงบการเงินของสำนักงาน อีวาย จำกัด น่าจะมีมาตรฐานที่แตกต่างๆ จากการตรวจสอบของสำนักงานตรวจเงินแผ่นดิน โดยอาจตรวจสอบลงลึกในรายละเอียดของงบการเงินมากกว่า จนไม่อาจคาดหมายว่า งบการเงินของ BAM ที่ผ่านการตรวจสอบของสำนักงาน อีวาย ฯ จะยังดีและมีกำไรเติบโตต่อเนื่องอยู่หรือไม่
นอกจากนั้น ยังมีประเด็นที่สำคัญที่อาจฉุดให้ผลกำไรของ BAM ทรุดลงในรอบหลายปีด้วย
เพราะตั้งแต่ก่อตั้งเมื่อเดือนสิงหาคมปี 2541 BAM ไม่ต้องจ่ายภาษีเงินได้นิติบุคคล เนื่องจากกองทุนเพื่อการฟื้นฟู ฯ ถือหุ้น 100% ซึ่งกฎหมายยกเว้นไม่ต้องชำระภาษีเงินได้นิติบุคคล
แต่เมื่อแปรรูปเป็นบริษัทเอกชน ในปีหน้า BAM ต้องชำระภาษีเงินได้นิติบุคคล อัตรา 20% ของกำไรสุทธิ ทำให้กำไรปีหน้าชะลอตัวลง ส่งผลกระทบต่อประมาณการเป้าหมายราคาหุ้น
ก่อนหุ้นเข้าซื้อขายในตลาดหุ้น มีแต่การประโคมข่าวดี ทั้งแนวโน้มการเติบโตของผลกำไร ทั้งกรีนชู ออปชั่นที่ทำให้คนหลงผิดว่า ราคาหุ้นจะไม่ต่ำกว่าจอง
แต่เข้าตลาดหุ้นมาสองวัน BAM ก็จอดป้าย ต่ำกว่าจองเสียแล้ว กรีนชู ออปชั่นก็ไม่ยอมทำงาน แถมมีข่าวร้าย ต้องเสียภาษีตามระบบ และจะฉุดกำไรให้ทรุดลงเสียอีก
คนจอง BAM ไว้ และยังไม่ขาย คงกินไม่ได้นอนไม่หลับละคราวนี้