หุ้นไอพีโอไตรมาสสุดท้ายไร้แววคึก นับจากต้นปีหุ้นตัวแรกเข้าเทรดและอีกหลายบริษัทราคาหุ้นต่ำจอง ทำให้ บจ.ที่เตรียมพร้อมไม่รีบเร่งแต่งตัวเข้าตลาด โดยเฉพาะไตรมาส 4 จากปกติ บจ.น้องใหม่พาเหรดเข้าจดทะเบียน เรียกว่าเทรดแบบวันเว้นสองวัน ปีนี้กลับเงียบสงบ เหตุเพราะสงครามการค้าระหว่างจีนกับสหรัฐยังระอุ ส่งผลเศรษฐกิจทั่วโลกตลอดจนกระทบค่าเงินและย้ายฐานการผลิต ผู้ประกอบการประเมินทิศทางยาก โบรกฯ มองปี หน้า ตลาดหุ้นไทยไม่ดีขึ้นแต่ก็ไม่เลวร้ายกว่าเดิม
เหลืออีกเพียง 20 กว่าวัน ก็จะสิ้นปี พ.ศ.2562 ซึ่งในช่วงปลายไตรมาส 4 ของทุกปี จะเป็นช่วง Hi-Seasonที่บริษัทจดทะเบียนใหม่เตรียมเข้าระดมทุนเสนอขายหุ้น IPO ซึ่งถือได้ว่าเป็นช่วงเวลาทองในการเข้าจดทะเบียนซื้อขายหุ้นครั้งแรก เพราะส่วนใหญ่บริษัทจะสรุปผลการดำเนินงานงวดบัญชีผลประกอบการของบริษัทในช่วง 9 เดือนที่ผ่านมาแล้ว ซึ่งจะมีผลประกอบการในระดับที่น่าพอใจ จึงมักจะถือฤกษ์เข้าเทรดหุ้น IPO ในช่วงปลายไตรมาส 4
อย่างไรก็ตามหากพิจารณาจากภาพรวมการลงทุนของตลาดหุ้นไทย และภาพรวมของหุ้น IPO ที่ผ่านๆมาในปีนี้ ถือได้ว่าไม่ดีนัก เนื่องจากปัญหาสงครามการค้าระหว่างจีนและสหรัฐที่ยังไม่มีข้อยุติ และยังคงมีการแสดงท่าทีแข็งกร้าวต่อกันอย่างต่อเนื่อง แม้ว่าที่ผ่านมาจะมีการเจรจาเพื่อทำข้อตกลงกันหลายรอบ แต่ก็มักจะล้มเลิกสัญญาข้อตกลงอยู่บ่อยครั้ง ส่งผลกระทบต่อค่าเงินและการตัดสินใจลงทุนของผู้ประกอบการ
ขณะที่หุ้นที่เข้าเทรดในตลาดตั้งแต่ต้นปีมานั้นพบว่า หลายบริษัทผิดหวังเพราะราคาเทรดวันแรกต่ำจอง บาง บจ.หุ้น ขายไมหมด เนื่องจากกำหนดราคาหุ้น IPO ที่สูงเกินไป เช่น บมจ.เอส โฮเทล แอนด์ รีสอร์ท หรือ SHR ที่เข้าทำการซื้อขายหุ้น IPO 1,437.45 ล้านหุ้น ในราคาหุ้นละ 5.20 บาท เมื่อวันอังคารที่ 12 พฤศจิกายน ปรากฏว่าราคาหลุดจองตั้งแต่วันแรกและยังทรุดลงต่อเนื่อง จนปิดเมื่อวันจันทร์ที่ 2 ธันวาคม 2562 ราคาอยู่ที่ 4.04 บาท/หุ้น ต่ำกว่าจอง 1.16 บาท/หุ้น
บมจ.แอ๊บ โซลูท คลีนเอ็นเนอร์จี้ หรือ ACE เข้าซื้อขายในวันถัดมาที่ 13 พฤศจิกายน โดยนำหุ้น 1,018 ล้านหุ้น เสนอขายประชาชนทั่วไปเป็นครั้งแรก ราคาหุ้นละ 4.40 บาท และแม้วันแรกยังยืนเหนือจองได้ แต่หลังจากนั้นอ่อนตัวลง จนปิดตลาดเมื่อวันจันทร์ที่ 2 ธันวาคม 2562 ที่ 4.28 บาท/หุ้น ต่ำกว่าจอง 0.12บาท/หุ้น
บมจ.บูทิค คอร์ปอเรชั่น หรือ BC เข้าซื้อขายหุ้นถัดมาในวันที่ 14 พฤศจิกายน โดยเสนอขายหุ้น IPO 167 ล้านหุ้นในราคาหุ้นละ 2.86 บาท ราคาปิดวันแรกที่ 2 บาท/หุ้น หรือต่ำจองกว่า -0.86 บาท ซึ่งลดลงเฉลี่ย -30.07% จนปิดตลาดเมื่อวันที่ 2 ธันวาคม ราคาปิดที่ 1.63 บาท/หุ้น หรือต่ำจอง 1.23 บาท/หุ้น
ต่อมา บมจ. เดอะแพรคทิเคิลโซลูชั่น หรือ TPS เข้ามาซื้อขายปิดท้ายสัปดาห์วันที่ 15 พฤศจิกายน โดยเสนอขายหุ้น IPO 80 ล้านหุ้น เสนอขายประชาชนทั่วไปราคาหุ้นละ 2.50 บาท แต่ราคาหุ้นกลับต่ำกว่าราคาจอง โดยปิดวันแรกที่ 2.24 บาท/หุ้น หรือปรับตัวลดลง -0.26 บาท คิดเป็น -10.40% จนปิดตลาดเมื่อวันจันทร์ที่ 2 ธันวาคม ราคาปิดที่ 2.10 บาท/หุ้น หรือต่ำจอง 0.40 บาท/หุ้น
บมจ.เอสทีซี คอนกรีตโปรดัคท์ หรือSTC เข้ามาซื้อขายปิดท้ายสัปดาห์วันที่ 29 พฤศจิกายน โดยเสนอขายหุ้น IPO 148 ล้านหุ้น เสนอขายประชาชนทั่วไปในราคาหุ้นละ 1 บาท แต่ราคาหุ้นกลับต่ำกว่าราคาจอง โดยปิดวันแรกที่ 0.87 บาท/หุ้น หรือปรับตัวลดลง - 0.13 บาท คิดเป็น -13% มูลค่าซื้อขาย 76.03 ล้านบาท จนปิดตลาดเมื่อวันจันทร์ที่ 2 ธันวาคม ราคาปิดที่ 0.85 บาท/หุ้น หรือต่ำจอง 0.15 บาท/หุ้น
มีเพียง หุ้นบริษัท แอพพลิแคด จำกัด (มหาชน) หรือ APP เท่านั้นที่สามารถอยู่เหนือราคาจองซื้อได้ โดย APP เข้ามาจดทะเบียนซื้อขายหุ้น IPO 80 ล้านหุ้น เมื่อวันที่ 22 พฤศจิกายน ราคาหุ้นละ 2.50 โดยปิดวันแรกที่ 2.58 บาท/หุ้น หรือปรับตัวเพิ่มขึ้น +0.08 บาท คิดเป็น 3.20% มูลค่าซื้อขาย 24.52 ล้านบาท จนปิดตลาดเมื่อวันจันทร์ที่ 2 ธันวาคม ราคาปิดที่ 2.50 บาท/หุ้น หรือปรับตัวลดลงจากที่ปิดวันแรก -3.10%
และหากพิจารณาความเสียหายที่เกิดขึ้นกับนักลงทุนที่จองซื้อหุ้น IPOที่เข้าซื้อขายเมื่อช่วงกลางไตรมาส 4 ที่ผ่านมามีไม่น้อยกว่า 2,490 ล้านบาท ซึ่ง หุ้น IPO ใหม่ทั้ง 5 ตัวนั้น ไม่มีตัวใดสร้างผลกำไรให้ผู้จองซื้อแม้แต่บริษัทเดียว
ย้อนกลับมาที่บริษัทจดทะเบียนซื้อกำลังจะเข้าซื้อขายหุ้นสามัญแก่ประชาชนทั่วไปเป็นครั้งแรกหรือ IPO ในเดือนธันวาคมนี้ คือบริษัทบริหารสินทรัพย์ กรุงเทพพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) หรือ BAM ประกอบธุรกิจบริหารจัดการสินทรัพย์ด้อยคุณภาพ (NPL) และทรัพย์สินรอการขาย (NPA) โดยเป็นบริษัทบริหารสินทรัพย์ที่ใหญ่ที่สุดของประเทศถือหุ้นใหญ่ทั้งหมดโดยกองทุนฟื้นฟูและพัฒนาระบบสถาบันการเงิน (FIDF) ซึ่งจะเข้าจดทะเบียนซื้อขายหุ้นใน SET เสนอขายหุ้น IPO 1,765 ล้านหุ้น คิดเป็น 54.40% ของหุ้นทั้งหมดหลัง IPO ประกอบด้วยหุ้นสามัญเพิ่มทุนที่เสนอขายโดยบริษัทฯ 280 ล้านหุ้น , หุ้นสามัญเดิมที่เสนอขายโดย FIDF 1,255 ล้านหุ้น แลหุ้นที่ผู้จัดหาหุ้นส่วนเกินอาจใช้สิทธิซื้อ กรณีมีการจัดสรรหุ้นส่วนเกิน 230 ล้านหุ้น กำหนดราคา IPO ที่ 17.50 บาท / หุ้น ราคา PAR ที่ 5.00 บาท โดยมีบริษัทหลักทรัพย์ กสิกรไทย จำกัด (มหาชน), บริษัทหลักทรัพย์ ทรีนีตี้ จำกัด เป็นที่ปรึกษาทางการเงิน
บริษัท วิลล่า คุณาลัย จำกัด (มหาชน) หรือKUN ประกอบธุรกิจ พัฒนาอสังหาริมทรัพย์แนวราบเพื่อขาย โดยจะเข้าจดทะเบียนซื้อขายหุ้นในตลาดmai กลุ่มอุตสาหกรรมอสังหาริมทรัพย์และก่อสร้าง พร้อมทั้งเสนอขายหุ้น IPO 150 ล้านหุ้น ในราคา IPO ที่ 1.10 บาท/หุ้น ราคา PAR ที่ 0.50 บาท ซึ่งจะเริ่มซื้อขายหุ้นครั้งแรก 17 ธันวาคม 2562 โดยมี บริษัท เอส 14 แอดไวเซอรี่ จำกัด เป็นที่ปรึกษาทางการเงิน
บจ.เลื่อนเข้าตลาด
อย่างไรก็ดี มีอีกหลายบริษัทที่เลื่อนระดมทุนออกไป เพราะยังไม่กำหนดราคาหุ้น และวันที่เปิดทำการซื้อ คือ บมจ.บางกอกเอวิเอชั่นเซ็นเตอร์ หรือ BAC จะเข้าจดทะเบียนซื้อขายหลักทรัพย์ในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET) โดยเสนอขายหุ้น IPO 90 ล้านหุ้น ราคา PAR ที่ 1.00 บาท
บมจ. เซ็นทรัล รีเทล คอร์ปอเรชั่น หรือ CRC ประกอบธุรกิจโดยการถือหุ้นในบริษัทอื่น หรือ Holding Company จะเข้าจดทะเบียนซื้อขายหุ้นใน SET โดยเสนอขายหุ้น IPO 2,231 ล้านหุ้น กำหนดราคา PAR ไว้ที่ 1.00 บาท
บมจ.ซัคเซสมอร์ บีอิ้งค์ หรือ SCM ประกอบธุรกิจจัดจำหน่ายสินค้าในกลุ่มผลิตภัณฑ์อุปโภคบริโภคทั้งภายในและต่างประเทศผ่านธุรกิจแบบเครือข่าย โดยจะเข้าจดทะเบียนซื้อขายหุ้นใน SET ซึ่งเสนอขายหุ้น IPO 150 ล้านหุ้น หรือ 25.00% ของทุนจดทะเบียนชำระแล้วของบริษัทฯ ภายหลังการเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนของบริษัทฯ
บมจ. สตาร์เฟล็กซ์ หรือ SFLEX ประกอบธุรกิจผลิตและจำหน่ายบรรจุภัณฑ์พลาสติกชนิดอ่อน จะเข้าจดทะเบียนซื้อขายหุ้นในSET กลุ่มอุตสาหกรรมธุรกิจบรรจุภัณฑ์ ซึ่งเสนอขายหุ้น IPO 110 ล้านหุ้น หรือ26.83% ของทุนจดทะเบียนชำระแล้วของบริษัทฯ
บมจ. สยามราชธานี หรือ SO ประกอบธุรกิจในหลายลักษณะคือธุรกิจให้บริการจัดหาบุคลากร 2.ธุรกิจให้เช่าและบริการ จะเข้าจดทะเบียนซื้อขายหุ้นในSET เสนอขายหุ้น IPO จำนวนไม่เกิน 85 ล้านหุ้น หรือ 27.42% ของหุ้นทั้งหมดหลัง IPO ประกอบด้วยหุ้น 76,500,000 เสนอขายประชาชนทั่วไป และไม่เกิน 8,500,000 หุ้น เสนอขายให้แก่กรรมการ ผู้บริหารและพนักงานของบริษัท
บมจ. สามารถ เอวิเอชั่น โซลูชั่นส์ หรือ SAV ประกอบธุรกิจหลักโดยการถือหุ้นในบริษัทอื่น (Holding Company) จะเข้าจดทะเบียนซื้อขายหุ้นใน SET กลุ่มอุตสาหกรรมธุรกิจ บริการ ขนส่งและโลจิสติกส์ เสนอขายหุ้น IPO ไม่เกิน 64 ล้านหุ้น หรือ 10 % ของทุนชำระแล้วหลัง IPO โดยภายหลัง IPO จะมีจำนวนหุ้นไม่เกิน 640 ล้านหุ้น
บมจ. ศรีนานาพร มาร์เก็ตติ้ง รือ SNNP ประกอบธุรกิจผลิตและจำหน่ายเครื่องดื่มและขนมขบเคี้ยว จะเสนอขายหุ้น IPO 260 ล้านหุ้น (28.89%) แบ่งเป็นหุ้นสามัญเพิ่มทุนไม่เกิน 180 ล้านหุ้นและ หุ้นสามัญเดิมที่เสนอขายโดย Concord I. Capital Limited 80 ล้านหุ้น
บมจ. สยามเทคนิคคอนกรีต หรือSTECH ประกอบธุรกิจผลิตและจำหน่ายคอนกรีตอัดแรงภายใต้เครื่องหมายการค้า “STEC” จะเข้าจดทะเบียนซื้อขายหุ้นในSET กลุ่มอุตสาหกรรมธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ ก่อสร้างและ วัสดุก่อสร้าง จำนวนหุ้นที่ IPO ไม่เกิน 203.5 ล้านหุ้นหรือ 28.07% ของหุ้นทั้งหมดหลัง IPO
บมจ. ศรีตรังโกลฟส์ (ประเทศไทย) หรือ STGT ประกอบธุรกิจผลิตและจัดจำหน่ายถุงมือยางธรรมชาติและถุงมือยางไนไตรล์ โดยจะเข้าจดทะเบียนซื้อขายหุ้นใน SET จำนวนหุ้นที่ IPO ไม่เกิน 444,780,000 หุ้น คิดเป็นไม่เกิน 31% ของทุนจดทะเบียนชำระแล้วภายหลังการเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุน
บมจ.ไทยยูเนี่ยน ฟีดมิลล์ หรือ TFM ประกอบธุรกิจผลิตและจำหน่ายอาหารสัตว์ จะเข้าจดทะเบียนในSET ไม่เกิน 109,300,000 หุ้น (คิดเป็น 21.86% ของทุนชำระแล้วหลัง IPO) ประกอบด้วย หุ้นเพิ่มทุนจำนวนไม่เกิน 90 ล้านหุ้น และหุ้นสามัญเดิม โดยบริษัท ไทยยูเนี่ยน กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) 19,300,000 หุ้น
บจ.จะเข้าจดทะเบียนใน mai
บมจ. โรงพยาบาล อินเตอร์เมดิคัล แคร์ แอนด์ แล็บ หรือIMH ประกอบธุรกิจโรงพยาบาลเอกชนเฉพาะทางด้านอาชีวเวชศาสตร์ จะเสนอขายหุ้น IPO จำนวนไม่เกิน 55 ล้านหุ้น ,บมจ.ซิลิคอน คราฟท์ เทคโนโลยี หรือSICT ประกอบธุรกิจวิจัยและพัฒนาเพื่อออกแบบและส่งมอบวงจรรวม (Integrated Circuit Design: IC) หรือไมโครชิป (Microchip) จะเสนอขายหุ้น IPO 00 ล้านหุ้น
บมจ.อิ๊กดราซิล กรุ๊ป หรือ YGG ประกอบธุรกิจออกแบบและจัดทำคอมพิวเตอร์กราฟฟิคเกี่ยวกับงานโฆษณา ภาพยนต์ และเกมส์ ซึ่งจะเสนอขายหุ้น IPO จำนวนไม่เกิน 45 ล้านหุ้น ,บมจ. แอดเทค ฮับ หรือ ADD ประกอบธุรกิจ ให้บริการเสริมบนโทรศัพท์เคลื่อนที่ และพัฒนางานระบบเทคโนโลยีสารสนเทศ จะเสนอขายหุ้น IPO 40 ล้านหุ้น
บมจ.เคแอนด์เค ซุปเปอร์สโตร์ เซาท์เทิร์น หรือ KK ประกอบธุรกิจค้าปลีกและค้าส่งสินค้าอุปโภคบริโภค ภายใต้ชื่อ “ร้าน เคแอนด์เค ซุปเปอร์สโตร์” จะเสนอขายหุ้น IPO จำนวนไม่เกิน 69 ล้านหุ้น และ บมจ. ศิรกร หรือ SK ประกอบธุรกิจ ผลิตและจัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์คอนกรีตอัดแรง ให้บริการรับเหมาก่อสร้างโยธา สายส่งและสายจำหน่ายไฟฟ้า จะเสนอขายหุ้น IPO 115ล้านหุ้น