MQDC จับมือการไฟฟ้านครหลวง พัฒนาโครงข่ายอัจฉริยะ ลดการใช้พลังงานไฟฟ้า นำร่องด้วยโครงการ เดอะ ฟอเรสเทียส์ โมเดลต้นแบบเมืองแห่งความสุข พร้อมผลิตพลังงานไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์กว่า 7 เมกะวัตต์ ต่อยอด Green Economy ในโครงการ
นายคีรินทร์ ชูธรรมสถิตย์ ประธานกรรมการ บริษัท เอ็มคิวดีซี ทาวน์ จำกัด (MQDC) กล่าวถึงความร่วมมือกับการไฟฟ้านครหลวง ว่า บริษัทแมกโนเลีย ควอลิตี้ ดีเวล็อปเม้นต์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด และโครงการเดอะ ฟอเรสเทียส์ (THE FORESTIAS) ได้ลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือด้านการใช้พลังงานไฟฟ้า ภายในโครงการเดอะ ฟอเรสเทียส์ เพื่อพัฒนาธุรกิจทั้งในกลุ่มที่อยู่อาศัย อาคารพาณิชย์ สำนักงาน ศูนย์การค้า รวมถึงธุรกิจการให้บริการ โดยมุ่งเน้นให้ความสำคัญกับการลดการใช้พลังงาน การสร้างสรรค์โครงการเพื่อสังคมและร่วมอนุรักษ์โลก เพื่อให้สอดคล้องกับหลาย ๆ หน่วยงานจากภาครัฐและภาคอุตสาหกรรมที่ให้ความสำคัญในเรื่องของการพัฒนานวัตกรรมเพื่อสิ่งแวดล้อม
ทั้งนี้ ตั้งเป้าจะทำให้โครงการ เดอะ ฟอเรสเทียส์ เป็นโครงการต้นแบบในประเทศไทย และเป็นโครงการแรกในเอเซียแปซิฟิคที่ใช้โครงข่ายอัจฉริยะ เพื่อลดความต้องการการใช้กำลังไฟฟ้า และนำไปสู่การขยายผลในโครงการอื่น ๆ ของ MQDC ต่อไป ทั้งนี้ MQDC ตั้งเป้าหมายที่จะสนับสนุนเศรษฐกิจสีเขียวหรือ Green Economy โดยการร่วมมือกับการไฟฟ้านครหลวงในครั้งนี้ เราต้องการลดภาระค่าใช้จ่ายต่อครัวเรือน โดยนำพลังงานไฟฟ้าเหลือใช้ในโครงการเดอะ ฟอเรสเทียส์ มาต่อยอดการใช้พลังงานไฟฟ้าในโครงการ
“แนวทางของ MQDC คือการทำงานภายใต้พันธกิจ “For All Well-Being” ซึ่งเราจะค้นคว้าและทำงานวิจัยเพื่อสร้างความเป็นอยู่ที่ดีไม่ใช่เฉพาะมนุษย์เท่านั้น แต่หมายรวมถึงสรรพสิ่งบนโลกนี้ ในขณะเดียวกันเรามุ่งมั่นที่จะนำงานวิจัยและนวัตกรรมต่าง ๆ มาปรับเปลี่ยนพฤติกรรมของผู้คน เพื่อนำไปสู่การพัฒนาทางด้านสังคมและเศรษฐกิจอีกด้วย ผมรู้สึกเป็นเกียรติอย่างมากที่ได้ร่วมงานกับองค์กรที่มีพันธกิจในการดำเนินงาน และมีความมุ่งมั่นและเป้าหมายเดียวกันในการพัฒนาคุณภาพและความยั่งยืนเพื่อความเป็นอยู่ที่ดีของมนุษย์และสิ่งแวดล้อม” นายคีรินทร์กล่าว
นายกีรพัฒน์ เจียมเศรษฐ์ ผู้ว่าการการไฟฟ้านครหลวง หรือ MEA กล่าวว่า MEA มุ่งมั่นยกระดับคุณภาพงานบริการ ขับเคลื่อนโครงข่ายอัจฉริยะ (MEA Smart Grid) เพื่อวิถีชีวิตเมืองมหานคร ให้มีระบบไฟฟ้าที่มั่นคง มีประสิทธิภาพ ไปพร้อม ๆ กับการใส่ใจต่อสังคมและสิ่งแวดล้อม โดยเฉพาะอย่างยิ่งการใช้พลังงานทดแทน โดยที่ผ่านมา MEA มีการสร้างความร่วมมือกับหลากหลายหน่วยงานทั้งภาครัฐ และเอกชน ในการพัฒนาการใช้พลังงานทดแทน เช่น การติดตั้งระบบโซลาร์ รูฟท็อป เพื่อการผลิตไฟฟ้าใช้ภายในองค์กร รวมไปถึงการขยายสถานีชาร์จยานยนต์ไฟฟ้า เป็นต้น นอกจากนี้ MEA ยังมีการพัฒนาโครงข่ายอัจฉริยะอย่างต่อเนื่อง โดยในครั้งนี้ MEA ได้ร่วมลงนามบันทึกความเข้าใจกับบริษัท แมกโนเลีย ควอลิตี้ ดีเวล็อปเม้นต์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด หรือ MQDC เพื่อร่วมกันขับเคลื่อนโครงข่ายอัจฉริยะ เพื่อนำไปสู่การพัฒนาการใช้พลังงานไฟฟ้าภายในโครงการเดอะ ฟอเรสเทียส์ ให้มีความทันสมัย มั่นคง มีประสิทธิภาพ และรักษ์สิ่งแวดล้อม โดยบทบาทของ MEA ที่มีต่อความร่วมมือในครั้งนี้ คือ การสนับสนุนข้อมูลด้านระบบไฟฟ้า ด้านเทคโนโลยี ด้านอุปกรณ์ไฟฟ้าที่เกี่ยวข้องกับการพัฒนาระบบโครงข่ายอัจฉริยะ ซึ่งหมายรวมถึงการพัฒนาระบบผลิตไฟฟ้า ระบบผลิตไฟฟ้า แบบกระจายตัว ระบบกักเก็บพลังงาน ระบบบริหารจัดการพลังงานและการจัดการปริมาณการใช้ไฟฟ้า
นายกิตติพันธุ์ อุยยามะพันธุ์ ผู้อำนวยการอาวุโส MQDC กล่าวว่า ที่มาของความร่วมมือครั้งนี้ เกิดขึ้นจากแรงบันดาลใจของ MQDC ที่จะสร้าง เดอะ ฟอเรสเทียส์ ให้เป็นเมืองแห่งความสุขที่ยั่งยืน และเป็นโครงการพัฒนาเมืองแห่งแรกของโลกที่ให้ความสำคัญกับการออกแบบสิ่งแวดล้อมทั้งหมดให้เชื่อมกับธรรมชาติ และมาพร้อมกับโครงการที่พักอาศัยมาตรฐานระดับสากลหลากหลายรูปแบบเพื่อตอบโจทย์ความต้องการที่แตกต่างของคนทุกเจนเนอร์เรชั่นได้อย่างครอบคลุม
นอกจากนี้ทาง MQDC จะสนับสนุนพื้นที่โครงการเดอะ ฟอเรสเทียส์ ให้เป็นพื้นที่นำร่องในการศึกษาวิจัย และพัฒนาระบบโครงข่ายอัจฉริยะ พร้อมทั้งพัฒนาธุรกิจด้านพลังงานอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง เพื่อดำเนินงานร่วมกันให้เป็นประโยชน์ต่อโครงการในระยะยาวต่อไป โดยการไฟฟ้านครหลวงจะสนับสนุนด้านข้อมูลระบบไฟฟ้า เทคโนโลยี อุปกรณ์ไฟฟ้าที่เกี่ยวข้องกับการพัฒนาระบบโครงข่ายอัจฉริยะ
“เป็นที่ทราบกันดีว่าปัจจุบันปัญหารถติด ฝุ่นพิษ รวมถึงความวุ่นวายจากการอยู่อาศัยร่วมกับคนจำนวนมาก ทำให้เกิดการเพิ่มขึ้นของการใช้พลังงาน ทั้งหมดนี้เป็นปัญหาที่ทั้งภาครัฐและเอกชนต้องร่วมมือกันในการแก้ไข ดังนั้นการร่วมมือกับการไฟฟ้านครหลวงในครั้งนี้เรามีความตั้งใจที่จะทำให้โครงการเดอะ ฟอเรสเทียส์ เป็นโครงการต้นแบบในประเทศไทย และเป็นโครงการแรกในเอเซียแปซิฟิคที่ใช้โครงข่ายอัจฉริยะ เพื่อลดความต้องการในการใช้กำลังไฟฟ้า ผมจึงหวังเป็นอย่างยิ่งว่าการร่วมมือกันในครั้งนี้จะทำให้เกิดการขับเคลื่อนทางการใช้พลังงานและการใช้กำลังไฟฟ้าของประเทศต่อไป รวมถึงทางเราจะนำความรู้ที่ได้รับจากการไฟฟ้านครหลวงเพื่อนำไปพัฒนาโครงการต่าง ๆ ของ MQDC ในอนาคต” นายกิตติพันธุ์กล่าว