พีดีเฮ้าส์ ชี้รับสร้างบ้าน Q2 ทรงตัว คาดครึ่งปีหลังตลาดแข่งขันราคาเดือด เชื่อราคาไม่ใช่คำตอบสุดท้ายของผู้บริโภค จับมือพันธมิตรวัสดุอัปเกรดคุณภาพเหนือราคา เผยชิงปรับตัวรอบด้านหนีแข่งขันราคา ชูกลยุทธ์ 5 R ประกอบด้วย Re-Quality, Re-Service, Re-Name Home design, Re-Price และ Re-Communication เล็งจัดอีเวนต์ออนไลน์ “พีดีเฮ้าส์ ออนไลน์ โอเพ่นเฮ้าส์” บนเว็บไซต์หวังสร้างการรับรู้ในวงกว้าง พร้อมระเบิดแคมเปญ “พีดีเฮ้าส์ ซุปเปอร์ ซัมเมอร์เซลล์” กระตุ้นยอดขายตั้งเป้างานนี้ 100 ล้านบาท
นายพิศาล ธรรมวิเศษ กรรมการผู้จัดการ บริษัท พีดี เฮ้าส์ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด เจ้าของและผู้บริหารสิทธิ์แฟรนไชส์ศูนย์รับสร้างบ้านพีดีเฮ้าส์ เปิดเผยว่า ตลาดบ้านสร้างเองในช่วงไตรมาส 2 (เม.ย.-มิ.ย. 61) พบว่ากำลังซื้อผู้บริโภคไม่คึกคักเท่าที่ควร นอกจากนี้ ยังพบว่ามีผู้รับเหมาก่อสร้างอาคารทั่วไป ซึ่งเคยรับเหมางานก่อสร้างอาคารประเภทต่างๆ เช่น อาคารพาณิชย์, โกดัง, โรงงาน, บ้านจัดสรร ฯลฯ แต่ปัจจุบัน ปริมาณงานก่อสร้างลดลงมาก ผู้รับเหมาหลายๆ รายต่างหันเข้ามาแข่งขันในตลาดบ้านสร้างเอง ซึ่งส่งผลให้ผู้ประกอบการรับสร้างบ้าน ทั้งรายเล็กรายใหญ่ที่อยู่ในธุรกิจนี้เกิดการแข่งขันตัดราคากันรุนแรง ทั้งนี้ ภาวการณ์แข่งขันที่เกิดขึ้นได้ขยายวงกว้างออกไปทั่วประเทศ อย่างไรก็ตาม ความต้องการสร้างบ้านของผู้บริโภคนั้น มิได้ตัดสินใจด้วยเหตุผลเพียงแค่ราคาต่ำเท่านั้น หากแต่มีปัจจัยอื่นที่สำคัญ และใช้ประกอบการตัดสินใจควบคู่กัน อาทิ คุณภาพวัสดุ และอายุการใช้งาน การให้บริการที่ครอบคลุมก่อน และหลังการขาย ความสะดวกในการติดต่อใช้บริการ ฝีมือหรือผลงานที่ผ่านมา และความน่าเชื่อถือ รวมถึงทีมงาน และระบบจัดการอย่างมืออาชีพ เป็นต้น
ปัจจุบัน ศูนย์รับสร้างบ้านพีดีเฮ้าส์ มีสาขาให้บริการรวมเกือบ 30 สาขา ครอบคลุมพื้นที่กว่า 50 จังหวัดทุกภูมิภาคของประเทศ ทำให้ลูกค้าสะดวกในการติดต่อใช้บริการ และประหยัดค่าใช้จ่าย รวมทั้งบ้านที่ก่อสร้างทุกหลังยึดถือคุณภาพวัสดุ และบริการมาตรฐานเดียวกันตามที่บริษัทฯ กำหนดไว้ นอกจากนี้ พีดีเฮ้าส์ ยังมีการพัฒนามาตรฐานสินค้าและบริการอยู่ตลอดเวลา ภายใต้ความร่วมมือกับคู่ค้าหรือพันธมิตรผู้ผลิตและจำหน่ายวัสดุก่อสร้าง และผู้ให้บริการต่างๆ โดยล่าสุดจับมือกับคู่ค้า ได้แก่ บมจ. ลิกซิล ผู้ผลิตและจำหน่ายเครื่องสุขภัณฑ์แบรนด์อเมริกันแสตนดาร์ด, บจก. แกรนด์โฮมมาร์ท ผู้นำเข้าและจำหน่ายสุขภัณฑ์ และกระเบื้องเซรามิก, บจก. นวพลาสติก ผู้ผลิตและจำหน่าย ประตู-หน้าต่างแบรนด์วินด์เซอร์, บจก.ฮาโก้ อิเลคทริค (ประเทศไทย) ผู้ผลิตและจำหน่ายอุปกรณ์ไฟฟ้า, บจก. เอสซีจี ซิเมนต์-ผลิตก่อสร้าง ผู้ผลิตและจำหน่ายปูนฉาบตราเสือ ฯลฯ
วัตถุประสงค์หลักๆ ของการอัปเกรดมาตรฐานวัสดุสร้างบ้านของพีดีเฮ้าส์นั้น ก็เพื่อให้บ้านที่สร้างทุกหลังมีคุณภาพสูง มีความทันสมัย แตกต่างจากคู่แข่งขันในตลาดรับสร้างบ้าน และยังคงแนวคิดการสร้างบ้านประหยัดพลังงาน และเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมเอาไว้เช่นเดิม เช่น การติดตั้งโถส้วม และโถปัสสาวะ รุ่นเปิด-ปิด และชำระล้างแบบอัตโนมัติ กระเบื้องเซรามิกปูพื้นลายไม้สวยงามนำเข้าจากประเทศสเปน ประตู-หน้าต่างไวนิลดีไซน์โมเดิร์น และมีระบบล็อกแข็งแแรง อุปกรณ์สวิตซ์-ปลั๊กคุณภาพสูงรุ่นพรีเมียมดีไซน์ทันสมัย ปูนฉาบสูตรพิเศษคุณสมบัติยึดเกาะแน่น ป้องกันการแตกร้าว ฯลฯ นอกจากนี้ ยังร่วมมือกับผู้ผลิตวัสดุ หรือสินค้าโออีเอ็มในประเทศ พัฒนาและผลิตวัสดุไม้สังเคราะห์ หรือไม้เทียม เพื่อนำมาใช้เป็นวัสดุตกแต่งบ้าน และเป็นทางเลือกให้ลูกค้า ที่ต้องการวัสดุที่สวยงาม และทันสมัยในงบประมาณจำกัด
นางสาวถิรพร สุวรรณสุต กรรมการบริหารสายงานการตลาด กล่าววิเคราะห์ว่า ในปีนี้ บริษัทฯ ได้ก้าวเข้าสู่ปีที่ 28 และเป็น 1 ในผู้นำธุรกิจรับสร้างบ้านกลุ่ม Top 5 ตลอดระยะเวลา 15 ปีที่ผ่านมา ดังนั้น จึงถือในโอกาสนี้ทำการปรับตัวในหลายๆ มิติอีกครั้ง ภายใต้กลยุทธ์ 5R อันได้แก่ 1. Re-Quality 2. Re-Service 3. Re-Name Home design 4. Re-Price และ 5. Re-Communication หรือประกอบด้วย การปรับผลิตภัณฑ์ หรือการสร้างบ้านให้มีคุณภาพสูง และเน้นใช้ระบบพรีแฟบ หรือสำเร็จรูปในการก่อสร้างมากขึ้น การให้บริการที่ตอบโจทย์ผู้บริโภค และสามารถแข่งขันได้โดยไม่เสียเปรียบ การออกแบบ และตั้งชื่อแบบบ้านให้จดจำง่าย การปรับต้นทุน และราคาภายใต้แนวคิดคุณภาพเหนือราคา การสื่อสารกับผู้บริโภคกลุ่มเป้าหมายที่เน้นออนไลน์ หรือโซเชียลมีเดียมากขึ้น ดังนั้น เพื่อเป็นการเปิดตัวแนะนำผลิตภัณฑ์และบริการภายใต้กลยุทธ์ 5R ที่วางไว้ให้ผู้บริโภครับรู้ในวงกว้าง บริษัทฯ จึงได้จัดงาน “พีดีเฮ้าส์ ออนไลน์ โอเพ่นเฮ้าส์” ขึ้นในระหว่างวันที่ 8-12 มิถุนายน 2561 ผ่านทางเวบไซต์ หรือ www.thaionlinefair.com
พร้อมกันนี้ยังได้จัดโปรโมชันพิเศษ ภายใต้แคมเปญ “พีดีเฮ้าส์ ซุปเปอร์ ซัมเมอร์เซลล์” สำหรับผู้ที่สนใจ และตัดสินใจจองสร้างบ้านในช่วงวันจัดงาน จะได้รับส่วนลดราคาบ้าน และของแถมสูงสุด 800,000 บาท (ตามราคาบ้าน) งานนี้ตั้งเป้าปิดยอดจองรวม 100 ล้านบาท
อนึ่ง ปัจจุบัน ตลาดบ้านสร้างเองทั่วประเทศ (ผู้รับเหมาทั่วไป) เฉพาะประเภทพักอาศัยถาวร คาดว่ามีมูลค่าตลาดรวมกว่า 80,000 ล้านบาท ซึ่งตลาดขนาดใหญ่จะอยู่ในต่างจังหวัด โดยกลุ่มผู้ประกอบการในธุรกิจรับสร้างบ้าน มีแชร์ส่วนแบ่งตลาดประมาณ 14,000 ล้านบาทเศษ ซึ่งบริษัทเอกชนได้ให้ความสำคัญกับตลาดในภูมิภาคมากขึ้น เนื่องจากตลาดในกรุงเทพฯ และปริมณฑล มีการเติบโตไม่มาก ขณะที่ต่างจังหวัดมีความต้องการในการสร้างบ้านในแต่ละปีสูงขึ้นต่อเนื่อง โดยบริษัทพีดีเฮ้าส์ มีสาขาในการให้บริการลูกค้าครอบคลุมทุกจังหวัด