xs
xsm
sm
md
lg

คลัง เผยหนี้สาธารณะคงค้างสิ้น เม.ย. 61 คิดเป็น 41.04% ของ GDP

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online


คลัง เผยหนี้สาธารณะคงค้างสิ้น เม.ย. 61 คิดเป็น 41.04% ของ GDP โดยแบ่งเป็น หนี้รัฐบาล 5,182,896.20 ล้านบาท หนี้รัฐวิสาหกิจ 914,646.77 ล้านบาท หนี้รัฐวิสาหกิจที่เป็นสถาบันการเงิน (รัฐบาลค้ำประกัน) 379,903.38 ล้านบาท และหนี้หน่วยงานของรัฐ 9,265.13 ล้านบาท

นายธีรัชย์ อัตนวานิช ที่ปรึกษาด้านตลาดตราสารหนี้ รายงานหนี้สาธารณะคงค้าง ณ วันที่ 30 เมษายน 2561 มีจำนวน 6,486,711.48 ล้านบาท หรือคิดเป็น 41.04% ของ GDP โดยแบ่งเป็น หนี้รัฐบาล 5,182,896.20 ล้านบาท หนี้รัฐวิสาหกิจ 914,646.77 ล้านบาท หนี้รัฐวิสาหกิจที่เป็นสถาบันการเงิน (รัฐบาลค้ำประกัน) 379,903.38 ล้านบาท และหนี้หน่วยงานของรัฐ 9,265.13 ล้านบาท ทั้งนี้เมื่อเปรียบเทียบกับเดือนก่อนหน้าหนี้สาธารณะคงค้างเพิ่มขึ้นสุทธิ 32,879.78 ล้านบาท

หนี้รัฐบาล จำนวน 5,182,896.20 ล้านบาท เพิ่มขึ้นสุทธิ 37,902.50 ล้านบาท มีรายละเอียดการเปลี่ยนแปลงที่สำคัญของหนี้รัฐบาล ดังนี้

เงินกู้ภายใต้แผนที่กำหนดไว้ในพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปี 2561 และการบริหารหนี้สาธารณะ เพิ่มขึ้นสุทธิ 36,089 ล้านบาท เนื่องจากการกู้เงินเพื่อชดเชยการขาดดุลงบประมาณเพื่อนำไปลงทุนในการพัฒนาประเทศ สร้างความเข้มแข็งและยั่งยืนให้กับเศรษฐกิจ จำนวน 49,410 ล้านบาท และการลดลงของตั๋วเงินคลัง 13,321 ล้านบาท

เงินกู้เพื่อการลงทุนจากแหล่งเงินกู้ในประเทศเพิ่มขึ้นสุทธิ 2,817.26 ล้านบาท แบ่งเป็น การกู้ให้กู้ต่อแก่ (1) การรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทยเบิกจ่ายเงินกู้ จำนวน 1,119.33 ล้านบาท เพื่อจัดทำโครงการรถไฟฟ้าสายสีเขียว จำนวน 532.60 ล้านบาท สายสีส้ม จำนวน 403.55 ล้านบาท และสายสีน้ำเงิน จำนวน 183.18 ล้านบาท (2) การรถไฟแห่งประเทศไทยเบิกจ่ายเงินกู้ จำนวน 1,607.39 ล้านบาท เพื่อจัดทำโครงการก่อสร้างรถไฟทางคู่ ช่วงชุมทางถนนจิระ-ขอนแก่น จำนวน 772.51 ล้านบาท โครงการความร่วมมือระหว่างรัฐบาลแห่งราชอาณาจักรไทย และรัฐบาลแห่งสาธารณรัฐประชาชนจีน ในการพัฒนาระบบรถไฟความเร็วสูงเพื่อเชื่อมโยงภูมิภาค ช่วงกรุงเทพมหานคร-หนองคาย จำนวน 643.68 ล้านบาท โครงการก่อสร้างทางคู่ ช่วงมาบกะเบา-ชุมทางถนนจิระ จำนวน 87.58 ล้านบาท โครงการก่อสร้างทางคู่ในเส้นทางรถไฟสายชายฝั่งทะเลตะวันออก ช่วงฉะเชิงเทรา-คลองสิบเก้า-แก่งคอย จำนวน 77.44 ล้านบาท และโครงการรถไฟชานเมืองสายสีแดง ช่วงบางซื่อ-รังสิต จำนวน 26.18 ล้านบาท และ (3) การเคหะแห่งชาติเบิกจ่ายเงินกู้ จำนวน 90.54 ล้านบาท เพื่อจัดทำโครงการอาคารพักอาศัยแปลง G ตามแผนแม่บทโครงการฟื้นฟูเมืองชุมชนดินแดง

เงินกู้เพื่อปรับโครงสร้างหนี้ต่างประเทศที่กระทรวงการคลังค้ำประกัน ลดลง 516.67 ล้านบาท จากการชำระคืนต้นเงินกู้

การกู้เงินบาททดแทนการกู้เงินตราต่างประเทศ เพิ่มขึ้น 250 ล้านบาท เพื่อพัฒนาระบบบริหารจัดการทรัพยากรน้ำและระบบขนส่งทางถนนระยะเร่งด่วน

หนี้ต่างประเทศลดลงสุทธิ 737.90 ล้านบาท จากการเบิกจ่ายและชำระคืนเงินกู้สกุลเงินเยน และการเปลี่ยนแปลงของอัตราแลกเปลี่ยน รวมถึงการบริหารความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยน

หนี้รัฐวิสาหกิจ จำนวน 914,646.77 ล้านบาท ลดลงสุทธิ 3,949.48 ล้านบาท โดยการเปลี่ยนแปลงที่สำคัญเกิดจาก หนี้ที่รัฐบาลค้ำประกัน ลดลงสุทธิ 2,010.89 ล้านบาท โดยรายการที่สำคัญเกิดจากหนี้ ที่ลดลงของ บมจ. ท่าอากาศยานไทย (AOT) และการประปานครหลวง ส่วนหนี้ที่รัฐบาลไม่ค้ำประกัน ลดลงสุทธิ 1,938.59 ล้านบาท โดยรายการที่สำคัญเกิดจากหนี้ที่ลดลงของการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย และบมจ. การบินไทย (THAI)

หนี้รัฐวิสาหกิจที่เป็นสถาบันการเงิน (รัฐบาลค้ำประกัน) จำนวน 379,903.39 ล้านบาท ลดลงสุทธิ 1,143.56 ล้านบาท เนื่องจากการชำระคืนต้นเงินกู้ของธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร

หนี้หน่วยงานของรัฐ จำนวน 9,265.13 ล้านบาท เพิ่มขึ้นสุทธิ 70.32 ล้านบาท โดยการเปลี่ยนแปลงที่สำคัญ เนื่องจากหนี้ที่ลดลงของสำนักงานธนานุเคราะห์

สำหรับหนี้สาธารณะคงค้าง ณ สิ้นเดือนเมษายน 2561 จำนวน 6,486,711.48 ล้านบาท แบ่งออกเป็น หนี้ในประเทศ 6,221,797.99 ล้านบาท หรือ 95.92% และหนี้ต่างประเทศ 264,913.49 ล้านบาท (ประมาณ 8,219.86 ล้านเหรียญสหรัฐฯ) หรือ 4.08% ของหนี้สาธารณะคงค้างทั้งหมด และหนี้สาธารณะคงค้างแบ่งตามอายุคงเหลือ สามารถแบ่งออกเป็นหนี้ระยะยาว 5,873,148.14 ล้านบาท หรือ 90.54% และหนี้ระยะสั้น 613,563.34 ล้านบาท หรือ 9.46% ของหนี้สาธารณะคงค้างทั้งหมด


กำลังโหลดความคิดเห็น