รัฐบาลมีหนี้สินคงค้างสิ้นเดือน ก.พ. 61 รวมกว่า 6.4 ล้านล้านบาท หรือคิดเป็น 41.34% ของจีดีพี โดยหนี้ในประเทศมีมูค่าทั้งสิ้น 6.1 ล้านล้านบาท และหนี้ต่างประเทศอีก 2.75 แสนล้านบาท หรือ 8,557.16 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ส่วนอายุหนี้คงเหลือจะเป็นหนี้ระยะยาว 5.7 ล้านล้าน หรือคิดเป็น 89.17% ของหนี้รัฐคงค้าง
นายธีรัชย์ อัตนวานิช ที่ปรึกษาด้านตลาดตราสารหนี้ กล่าวถึงรายงานหนี้สาธารณะคงค้าง ณ วันที่ 28 กุมภาพันธ์ 2561 มีจำนวน 6,463,676.84 ล้านบาท หรือคิดเป็น 41.34% ของ GDP โดยแบ่งเป็นหนี้รัฐบาล 5,135,083.68 ล้านบาท ซึ่งเพิ่มขึ้นสุทธิ 13,699.51 ล้านบาทนั้น เกิดจากการเปลี่ยนแปลงที่สำคัญของหนี้รัฐบาล เช่น เงินกู้ภายใต้แผนที่กำหนดไว้ในพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปี 2561 และการบริหารหนี้สาธารณะ เพิ่มขึ้นสุทธิ 20,899.53 ล้านบาท เนื่องจากการกู้เงินเพื่อชดเชยการขาดดุลงบประมาณเพื่อนำไปลงทุนในการพัฒนาประเทศ สร้างความเข้มแข็ง และยั่งยืนให้กับเศรษฐกิจ จำนวน 23,548.53 ล้านบาท และการลดลงของตั๋วเงินคลัง 2,649 ล้านบาท เป็นต้น
ส่วนหนี้รัฐวิสาหกิจมีจำนวนทั้งสิ้น 935,776.80 ล้านบาท เพิ่มขึ้นสุทธิ 12,091.05 ล้านบาท โดยการเปลี่ยนแปลงที่สำคัญ เช่น หนี้ที่รัฐบาลค้ำประกัน เพิ่มขึ้นสุทธิ 2,415.26 ล้านบาท โดยรายการที่สำคัญเกิดจากหนี้ที่เพิ่มขึ้นของการรถไฟแห่งประเทศไทย และองค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพฯ และหนี้ที่รัฐบาลไม่ค้ำประกัน เพิ่มขึ้นสุทธิ 9,675.79 ล้านบาท โดยรายการที่สำคัญเกิดจากหนี้ที่เพิ่มขึ้นของการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย และบริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) เป็นต้น
ขณะที่หนี้รัฐวิสาหกิจที่เป็นสถาบันการเงิน ซึ่งรัฐบาลค้ำประกันมีเป็นจำนวน 383,570.59 ล้านบาท ลดลงสุทธิ 3,085.66 ล้านบาท โดยรายการที่สำคัญเกิดจากการชำระคืนต้นเงินกู้ของธนาคารอาคารสงเคราะห์ และธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร ด้านหนี้หน่วยงานของรัฐมีทั้งสิ้น 9,245.77 ล้านบาท ลดลงสุทธิ 385.92 ล้านบาท โดยการเปลี่ยนแปลงที่สำคัญ เนื่องจากการชำระคืนต้นเงินกู้ของสำนักงานกองทุนอ้อย และน้ำตาลทราย
นายธีรัตน์ ยังกล่าวถึงหนี้สาธารณะคงค้าง ณ สิ้นเดือนกุมภาพันธ์ 2561 มีทั้งสิ้น 6,463,676.84 ล้านบาท โดยแบ่งออกเป็นหนี้ในประเทศ 6,188,010.60 ล้านบาท หรือราว 95.74% และหนี้ต่างประเทศ 275,666.24 ล้านบาท (ประมาณ 8,557.16 ล้านเหรียญสหรัฐฯ) หรือราว.ง 4.26% ของหนี้สาธารณะคงค้างทั้งหมด และหนี้สาธารณะคงค้างที่แบ่งตามอายุคงเหลือ สามารถแบ่งออกเป็นหนี้ระยะยาว 5,763,983.17 ล้านบาท หรือคิดเป็น 89.17% และหนี้ระยะสั้น 699,693.67 ล้านบาท หรือคิดเป็น 10.83% ของหนี้สาธารณะคงค้างทั้งหมด
นายธีรัชย์ อัตนวานิช ที่ปรึกษาด้านตลาดตราสารหนี้ กล่าวถึงรายงานหนี้สาธารณะคงค้าง ณ วันที่ 28 กุมภาพันธ์ 2561 มีจำนวน 6,463,676.84 ล้านบาท หรือคิดเป็น 41.34% ของ GDP โดยแบ่งเป็นหนี้รัฐบาล 5,135,083.68 ล้านบาท ซึ่งเพิ่มขึ้นสุทธิ 13,699.51 ล้านบาทนั้น เกิดจากการเปลี่ยนแปลงที่สำคัญของหนี้รัฐบาล เช่น เงินกู้ภายใต้แผนที่กำหนดไว้ในพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปี 2561 และการบริหารหนี้สาธารณะ เพิ่มขึ้นสุทธิ 20,899.53 ล้านบาท เนื่องจากการกู้เงินเพื่อชดเชยการขาดดุลงบประมาณเพื่อนำไปลงทุนในการพัฒนาประเทศ สร้างความเข้มแข็ง และยั่งยืนให้กับเศรษฐกิจ จำนวน 23,548.53 ล้านบาท และการลดลงของตั๋วเงินคลัง 2,649 ล้านบาท เป็นต้น
ส่วนหนี้รัฐวิสาหกิจมีจำนวนทั้งสิ้น 935,776.80 ล้านบาท เพิ่มขึ้นสุทธิ 12,091.05 ล้านบาท โดยการเปลี่ยนแปลงที่สำคัญ เช่น หนี้ที่รัฐบาลค้ำประกัน เพิ่มขึ้นสุทธิ 2,415.26 ล้านบาท โดยรายการที่สำคัญเกิดจากหนี้ที่เพิ่มขึ้นของการรถไฟแห่งประเทศไทย และองค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพฯ และหนี้ที่รัฐบาลไม่ค้ำประกัน เพิ่มขึ้นสุทธิ 9,675.79 ล้านบาท โดยรายการที่สำคัญเกิดจากหนี้ที่เพิ่มขึ้นของการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย และบริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) เป็นต้น
ขณะที่หนี้รัฐวิสาหกิจที่เป็นสถาบันการเงิน ซึ่งรัฐบาลค้ำประกันมีเป็นจำนวน 383,570.59 ล้านบาท ลดลงสุทธิ 3,085.66 ล้านบาท โดยรายการที่สำคัญเกิดจากการชำระคืนต้นเงินกู้ของธนาคารอาคารสงเคราะห์ และธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร ด้านหนี้หน่วยงานของรัฐมีทั้งสิ้น 9,245.77 ล้านบาท ลดลงสุทธิ 385.92 ล้านบาท โดยการเปลี่ยนแปลงที่สำคัญ เนื่องจากการชำระคืนต้นเงินกู้ของสำนักงานกองทุนอ้อย และน้ำตาลทราย
นายธีรัตน์ ยังกล่าวถึงหนี้สาธารณะคงค้าง ณ สิ้นเดือนกุมภาพันธ์ 2561 มีทั้งสิ้น 6,463,676.84 ล้านบาท โดยแบ่งออกเป็นหนี้ในประเทศ 6,188,010.60 ล้านบาท หรือราว 95.74% และหนี้ต่างประเทศ 275,666.24 ล้านบาท (ประมาณ 8,557.16 ล้านเหรียญสหรัฐฯ) หรือราว.ง 4.26% ของหนี้สาธารณะคงค้างทั้งหมด และหนี้สาธารณะคงค้างที่แบ่งตามอายุคงเหลือ สามารถแบ่งออกเป็นหนี้ระยะยาว 5,763,983.17 ล้านบาท หรือคิดเป็น 89.17% และหนี้ระยะสั้น 699,693.67 ล้านบาท หรือคิดเป็น 10.83% ของหนี้สาธารณะคงค้างทั้งหมด