บ้านปู ลุยซื้อแหล่งเชลล์ก๊าซในสหรัฐฯ เพิ่มเงินลงทุนอีก 300 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ รองรับนโยบายพลังงานครบวงจร
นางสมฤดี ชัยมงคล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ. บ้านปู เปิดเผยว่า บริษัทได้เห็นชอบงบลงทุนไว้ 300 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ สำหรับขยายลงทุนธุรกิจก๊าซธรรมชาติจากชั้นหินดินดาน หรือเชลล์แก๊สในประเทศสหรัฐอเมริกา เพิ่มเติมจากที่ปัจจุบันมีการลงทุนไปแล้ว 520 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ มีกำลังผลิต 201 ล้านลูกบาศก์ฟุตต่อวัน โดยคาดว่าในปีนี้จะได้ข้อสรุปการลงทุนในแหล่งผลิตใหม่ ซึ่งคาดต้องใช้เงินลงทุนประมาณ 60-150 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ต่อ 1 แหล่ง โดยการที่ลงทุนก็เป็นไปตามแผนการลงทุนด้านพลังงานครบวงจร และมองว่ายังมีความต้องการใช้สูงอยู่ และประเมินราคาในปีนี้จะอยู่ในระดับ 2.8 ดอลลาร์สหรัฐฯ ต่อล้านบีทียู และในปี 2562 คาดว่าระดับราคาจะเฉลี่ยเพิ่มขึ้นเป็น 3.03 ดอลลาร์สหรัฐฯ ต่อล้านบีทียู
ส่วนราคาถ่านหินตลาดจรที่ขยับขึ้นไปถึง 104-107 ดอลลาร์สหรัฐฯ ต่อตันนั้น ทางบ้านปู ยังมองว่าอาจจะเป็นราคาขยับขึ้นชั่วคราว โดยราคาที่ประเมินเฉลี่ยอยู่ที่ประมาณ 85 ดอลลาร์สหรัฐฯ ต่อตัน ซึ่งสูงกว่าต้นทุนของบริษัทที่อยู่ที่ประมาณ 50-60 ดอลลาร์สหรัฐฯ ต่อตัน ขณะที่แนวโน้มความต้องการถ่านหินในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้จากจีน และอินเดีย ยังมีความต้องการที่เพิ่มสูงขึ้น ขณะเดียวกัน BANPU ยังได้ขายถ่านหินให้กับโรงไฟฟ้าในเวียดนาม ซึ่งมียอดขาย 2 ล้านตัน จาก 5 แสนตันในปีที่ผ่านมา
ด้านผลประกอบการในช่วงไตรมาส 2/2561 คาดจะกลับมาสู่ภาวะปกติ หลังจากในช่วงไตรมาส 1/2561 มีค่าใช้จ่ายตามคำพิพากษาคดีโรงไฟฟ้าหงสา สปป.ลาว จำนวน 2,713 ล้านบาท และได้รบผลกระทบจากเงินบาทแข็งค่าขึ้นทำให้รับรู้ขาดทุนทางบัญชีจากอัตราแลกเปลี่ยน 1,041 ล้านบาท โดยขณะนี้ค่าเงินบาทก็เริ่มอ่อนค่าลง ส่วนภาพรวมทั้งปี 2561 คาดว่าจะเติบโตดีกว่าปี 2560 ที่มีกำไรสุทธิ 7,900 ล้านบาท เนื่องจากคาดว่าจะได้รับปัจจัยหนุนจากราคาถ่านหินที่ทรงตัวในระดับสูง พร้อมยังได้รับปัจจัยหนุนธุรกิจผลิตไฟฟ้า ของบริษัท บ้านปูเพาเวอร์ จำกัด (มหาชน) ที่มีกำลังการผลิตเพิ่มขึ้น รวมทั้งยังได้รับเงินปันผลจากบริษัทที่เข้าไปร่วมลงทุนมากกว่า 5,000 ล้านบาทอีกด้วย