บมจ. กันกุลเอ็นจิเนียริ่ง แจงขาดทุนสุทธิกว่า 109 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีก่อน 295 ล้านบาท หรือ 158% เกิดจากขาดทุนอัตราแลกเปลี่ยนและการนำเข้าอุปกรณ์ในโครงการโรงไฟฟ้ากังหันลม 3 โครงการ มูลค่ากว่า 1 หมื่นล้านบาท
น.ส.โศภชา ดำรงปิยวุฒิ์ ประธานกรรมการบริหาร บริษัท กันกุลเอ็นจิเนียริ่ง จำกัด (มหาชน) หรือ GUNKUL แจ้งผลการดำเนินงานประจำไตรมาสแรก สิ้นสุด ณ วันที่ 31 มีนาคม 2561 ว่า บริษัทมีผลขาดทุนสุทธิ 109.11 ล้านบาท ขาดทุนสุทธิต่อหุ้น 0.02 บาท เทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อนกำไรสุทธิ 186.11 ล้านบาท ขาดทุนสุทธิต่อหุ้น 0.03 บาท หรือกำไรสุทธิลดลง 295.22 ล้านบาท คิดเป็น 158.63%
โดยสาเหตุที่ทำให้บริษัทมีผลขาดทุนสุทธิ 109 ล้านบาทนั้น สืบเนื่องจากบริษัทฯ มีรายได้และอัตรากําไรขั้นต้นที่เพิ่มสูงขึ้นกว่าเป้าหมาย แต่ได้รับผลกระทบจากค่าใช้จ่ายดําเนินงานในส่วนของค่าธรรมเนียมการยกเลิกสัญญาสิทธิซื้อขายเงินตราต่างประเทศ และขาดทุนจากอัตราแลกเปลี่ยน อันเป็นผลจากการนําเข้าอุปกรณ์เพื่อใช้ในการพัฒนาโครงการโรงไฟฟ้ากังหันลมจํานวน 3 โครงการ ในรูปสกุลเงินตราต่างประเทศ (ดอลลาร์สหรัฐฯ) ของบริษัทฯ ซึ่งการพัฒนาโครงการจําเป็นต้องใช้ระยะเวลานาน และมีงบประมาณการนําเข้าอุปกรณ์จากต่างประเทศทั้ง 3โครงการ กว่า 10,000 ล้านบาท โดยในระยะเวลาที่ผ่านมา เกิดการแข็งค่าขึ้นของค่าเงินบาทอย่างรวดเร็วจากอัตรา 36 บาท มาสู่ระดับ 31 บาทต่อเหรียญสหรัฐฯ
ทั้งนี้ ฝ่ายจัดการได้ตัดสินใจบอกเลิกสัญญาสิทธิการซื้อขายเงินตราต่างประเทศ และบันทึกรับรู้ค่าธรรมเนียมการบอกเลิกสัญญาฯ ไว้ในงบกําไรขาดทุนของบริษัทฯ สําหรับงวด 3 เดือน สิ้นสุดวันที่ 31 มีนาคม 2561 จํานวน 588.10 ล้านบาท และขาดทุนจากอัตราแลกเปลี่ยนสุทธิ จํานวน 56.78 ล้านบาท