“คลัง” เผยฐานะการคลังช่วงครึ่งแรกปีงบ 61 เข้มแข็งรัฐนำส่งรายได้ 1.08 ล้านล้านบาท เงินคงคลังเพียงพอรองรับเบิกจ่ายเร่งตัว
นางสาวกุลยา ตันติเตมิท ผู้ตรวจราชการกระทรวงการคลัง ในฐานะโฆษกกระทรวงการคลัง แถลงข่าวฐานะการคลังของรัฐบาลตามระบบกระแสเงินสดในช่วงครึ่งแรกของปีงบประมาณ 2561 (ต.ค. 60-มี.ค. 61) ว่ารัฐบาลมีรายได้นำส่งคลังทั้งสิ้น จำนวน 1,081,120 ล้านบาท ขณะที่มีการเบิกจ่าย เงินงบประมาณทั้งสิ้น จำนวน 1,598,194 ล้านบาท รัฐบาลได้กู้เงินเพื่อชดเชยการขาดดุล จำนวน 285,408 ล้านบาท ส่งผลให้เงินคงคลัง ณ สิ้นเดือน มี.ค. 61 มีจำนวนทั้งสิ้น 262,555 ล้านบาท
“ฐานะการคลังของรัฐบาลในช่วงครึ่งแรกของปีงบประมาณ 2561 อยู่ในระดับที่เข้มแข็ง โดยเงินคงคลังของรัฐบาลอยู่ในระดับที่เพียงพอ สามารถรองรับการเบิกจ่ายที่คาดว่าจะเร่งตัวขึ้นในช่วงครึ่งหลังของปีงบประมาณ 2561” นางสาวกุลยา สรุป
ในเดือน มี.ค. 61 รัฐบาลเกินดุลเงินสด จำนวน 2,720 ล้านบาท โดยเป็นการขาดดุลเงินงบประมาณ จำนวน 33,804 ล้านบาท และเป็นการเกินดุลเงินนอกงบประมาณ จำนวน 36,524 ล้านบาท
รัฐบาลมีรายได้นำส่งคลัง จำนวน 186,380 ล้านบาท สูงกว่าเดือนเดียวกันปีที่แล้ว จำนวน 2,575 ล้านบาท (คิดเป็น 1.4%) ซึ่งมีสาเหตุหลักมาจากการจัดเก็บภาษีเงินได้นิติบุคคลสูงกว่าเดือนเดียวกันปีที่แล้ว ขณะที่การเบิกจ่ายเงินงบประมาณทั้งสิ้น จำนวน 220,184 ล้านบาท ต่ำกว่าเดือนเดียวกันปีที่แล้ว จำนวน 3,409 ล้านบาท (คิดเป็น 1.5%) โดยเป็นรายจ่ายปีปัจจุบัน จำนวน 198,862 ล้านบาท ต่ำกว่าเดือนเดียวกันปีที่แล้ว 2.6% ประกอบด้วยรายจ่ายประจำ จำนวน 159,736 ล้านบาท สูงกว่าเดือนเดียวกันปีที่แล้ว 4.4% และรายจ่ายลงทุน จำนวน 39,126 ล้านบาท ต่ำกว่าเดือนเดียวกันปีที่แล้ว 23.5% และการเบิกจ่ายเงินจากงบประมาณปีก่อน จำนวน 21,322 ล้านบาท สูงกว่าเดือนเดียวกันปีที่แล้ว 9.6%
การเบิกจ่ายงบประมาณที่สำคัญในเดือนนี้ ได้แก่ รายจ่ายชำระหนี้ของกระทรวงการคลัง จำนวน 18,584 ล้านบาท เงินอุดหนุนของกระทรวงศึกษาธิการ จำนวน 18,171 ล้านบาท งบลงทุนของกรมทางหลวง จำนวน 8,808 ล้านบาท งบลงทุนของกรมชลประทาน จำนวน 6,029 ล้านบาท งบลงทุนของกรมทางหลวงชนบท จำนวน 5,080 ล้านบาท
ดุลการคลังรัฐบาลตามระบบกระแสเงินสด จากรายได้นำส่งคลังและการเบิกจ่ายเงินงบประมาณของรัฐบาลข้างต้น ส่งผลให้ดุลเงินงบประมาณขาดดุลจำนวน 33,804 ล้านบาท เมื่อรวมกับดุลเงินนอกงบประมาณที่เกินดุล จำนวน 36,524 ล้านบาท ซึ่งมีสาเหตุหลักมาจากเงินฝากกองทุนเพื่อส่งเสริมอนุรักษ์พลังงาน จำนวน 27,187 ล้านบาท และรายจ่ายเหลื่อมไปเดือน เม.ย.61 สุทธิ จำนวน 4,932 ล้านบาท ส่งผลให้ดุลเงินสด (ก่อนกู้) เกินดุล จำนวน 2,720 ล้านบาท
ทั้งนี้ รัฐบาลได้กู้เงินเพื่อชดเชยการขาดดุล จำนวน 70,508 ล้านบาท ส่งผลให้ดุลเงินสด (หลังกู้ชดเชยการขาดดุล) เกินดุล จำนวน 73,228 ล้านบาท และเงินคงคลัง ณ สิ้นเดือน มี.ค. 61 มีจำนวนทั้งสิ้น 262,555 ล้านบาท