กระทรวงการคลัง เผยรายได้รัฐบาลครึ่งแรกปีงบประมาณ 2561 จัดเก็บได้สูงกว่าประมาณการเล็กน้อยร้อยละ 3.7 เพราะหน่วยงานอื่น และรัฐวิสาหกิจ ส่งรายได้มากกว่าเป้า ขณะที่ 3 กรมหลักต่าง ๆ ต่างจัดเก็บรายได้ต่ำกว่าประมาณการ
นางสาวกุลยา ตันติเตมิท ผู้ตรวจราชการกระทรวงการคลัง ในฐานะโฆษกกระทรวงการคลัง เปิดเผยผลการจัดเก็บรายได้รัฐบาลสุทธิในช่วงครึ่งแรกของปีงบประมาณ 2561 (ตุลาคม 2560-มีนาคม 2561) ว่า รัฐบาลจัดเก็บรายได้สุทธิ จำนวน 1,074,964 ล้านบาท สูงกว่าประมาณการตามเอกสารงบประมาณ 38,063 ล้านบาท หรือร้อยละ 3.7 โดยมีสาเหตุจากการจัดเก็บรายได้ของหน่วยงานอื่น และการนำส่งรายได้ของรัฐวิสาหกิจ สูงกว่าประมาณการ 16,673 และ 10,169 ล้านบาท หรือร้อยละ 18.5 และ 17.5 ตามลำดับ โดยภาษีที่จัดเก็บได้สูงกว่าเป้าหมายที่สำคัญ ได้แก่ ภาษีเงินได้นิติบุคคล ภาษีเงินได้ปิโตรเลียม และภาษีรถยนต์ ที่จัดเก็บได้สูงกว่าประมาณการ 6,059 5,947 และ 4,898 ล้านบาท หรือร้อยละ 3.5 283.2 และ 9.4 ตามลำดับ”
นางสาวกุลยา กล่าวว่า การจัดเก็บรายได้ในช่วงครึ่งแรกของปีงบประมาณ 2561 ที่สูงกว่าเป้าหมายเป็นการสะท้อนภาวะเศรษฐกิจในประเทศที่ยังคงขยายตัวอย่างต่อเนื่อง สำหรับในช่วงที่เหลือของปีงบประมาณ กระทรวงการคลังคาดว่าจะสามารถจัดเก็บรายได้เป็นไปตามเป้าหมายที่ตั้งไว้
ทั้งนี้ รายละเอียดการจัดเก็บรายได้ตามหน่วยงานต่าง ๆ กรมสรรพากร จัดเก็บรายได้รวม 769,653 ล้านบาท ต่ำกว่าประมาณการ 2,420 ล้านบาท หรือร้อยละ 0.3 โดยภาษีที่จัดเก็บได้ต่ำกว่าประมาณการที่สำคัญ ได้แก่ ภาษีมูลค่าเพิ่ม และภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา กรมสรรพสามิต จัดเก็บรายได้รวม 268,965 ล้านบาท ต่ำกว่าประมาณการ 2,925 ล้านบาท หรือร้อยละ 1.1 กรมศุลกากร จัดเก็บรายได้รวม 54,855 ล้านบาท ต่ำกว่าประมาณการ 1,745 ล้านบาท หรือร้อยละ 3.1 อย่างไรก็ตาม รัฐวิสาหกิจนำส่งรายได้รวม 68,147 ล้านบาท สูงกว่าประมาณการ 10,169 ล้านบาท หรือร้อยละ 17.5 และหน่วยงานอื่น จัดเก็บรายได้รวม 106,822 ล้านบาท สูงกว่าประมาณการ 16,673 ล้านบาท หรือร้อยละ 18.5