ศึกชิงอำนาจการบริหาร บริษัท เนชั่น มัลติมีเดีย กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ NMG ระหว่างกลุ่มนายสุทธิชัย หยุ่น กับกลุ่ม บริษัท นิวส์ เน็ตเวิร์ค คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ NEWS ปิดฉากโดยสมบูรณ์ไปแล้ว แต่การขุดคุ้ยเบื้องหลังการพังทลายทางธุรกิจของเครือ “เนชั่น” อาจเพิ่งเริ่มต้น เพราะปมปัญหาเพิ่งถูกเปิดโปงออกมา
ผู้บริหาร NMG ชุดใหม่ ชี้แจงในที่ประชุมสามัญผู้ถือหุ้นประจำปี เกี่ยวสาเหตุที่ไม่สามารถส่งงบการเงินงวดบัญชีปี 2560 ตามระยะเวลาที่ตลาดหลักทรัพย์ ฯ กำหนด จนหุ้นถูกพักการซื้อขาย ตั้งแต่วันที่ 2 มีนาคม 2561 ที่ผ่านมา โดยระบุว่า มีการตรวจพบความผิดปกติในงบการเงิน จึงไม่สามารถรองรับงบ ฯ ได้
ความผิดปกติที่ตรวจสอบพบในงบการเงินคือ รายได้ค้างรับจำนวน 790 ล้านบาท ซึ่งระบุในงบการเงินว่า เป็นรายได้ค้างรับระหว่างปี พ.ศ. 2558 - 2560
เมื่อตรวจสอบปรากฏว่า เป็นรายได้ที่ไม่มีอยู่จริง แต่เป็นการแต่งบัญชีมากกว่า 60% ฝ่ายบริหาร NMG จึงมอบให้ฝ่ายกฎหมายดำเนินการ และเมื่อได้ข้อสรุป จะนำข้อมูลร้องเรียนสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.)
งบการเงินงวดบัญชีปี 2560 ของ NMG จัดทำขึ้นในช่วงที่กลุ่มนายสุทธิชัยบริหาร ถ้าเกิดการแต่งบัญชี มีความไม่โปร่งใสในการจัดทำ กลุ่มนายสุทธิชัยจะต้องรับผิดชอบ
แม้ NEWS จะเป็นบริษัทจดทะเบียนที่มีพฤติกรรมไม่น่าไว้วางใจ และแม้ทีมผู้บริหาร NEWS ชุดใหม่ที่ถูกส่งเข้าไป อาจมีพฤติกรรมที่ถูกเฝ้าจับตา แต่เป็นคนละประเด็นกับงบการเงิน ที่อาจมีการตุกติก
ถ้ากลุ่มผู้บริหารชุดใหม่ที่ NEWS ส่งเข้าไปคุมเครือเนชั่น ฯ มีหลักฐานความผิดปกติของงบการเงิน มีหลักฐานการแต่งบัญชีจริง การกล่าวโทษทางอาญาในความผิดฐานจัดทำงบการเงินไม่ตรงกับข้อเท็จจริง เพื่ออำพรางให้นักลงทุนเกิดความเข้าใจผิด ในฐานะของ NMG จะตามมา
เพียงแต่ใครจะติดร่างแห การแต่งงบการเงิน NMG เพื่อหลอกต้มนักลงทุนบ้างเท่านั้น
ช่วงปลายสงครามการชิงอำนาจบริหาร NMG และเริ่มเห็นผลแพ้ชนะ ระหว่างกลุ่มนายสุทธิชัย กับกลุ่ม NEWS ชื่อของตัวละคร กลุ่มนายสุทธิชัย ตกหายไป 1 คน ทั้งที่มีบาทสำคัญ ในฐานะผู้ถือหุ้นใหญ่ และเป็นผู้บริหารสูงสุด ซึ่งนำการเปลี่ยนแปลง มาสู่ค่ายเนชั่น ฯ จนต้องมีวันนี้
วันที่ป้อมค่ายของนายสุทธิชัยแตกกระเจิง
นายเสริมสิน สมะลาภา อดีตประธานกรรมการ NMG สาบสูญไปทันที เมื่อกลุ่ม NEWS ยึดอำนาจเบ็ดเสร็จ ไม่ปรากฏแม้แต่รายชื่อการเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่
นายเสริมสิน ปรากฏชื่อในตลาดหุ้นครั้งแรก หลังจากหุ้น บริษัท แนเชอรัล พาร์ค จำกัด (มหาชน) หรือหุ้น N-PARK ฟื้นฟูกิจการสำเร็จ มีการปรับโครงสร้างผู้ถือหุ้น เปลี่ยนผู้บริหาร โดยนายเสริมสินถูกส่งเข้ามาบริหาร
หลังจากกลับเข้ามาซื้อขาย หุ้น N-PARK กลับสู่พฤติกรรมเดิม โดยเป็นหุ้นที่เก็งกำไรอย่างร้อนแรง ขณะที่นายเสริมสิน ขยันสร้างข่าวดี เปิดโครงการขยายการลงทุนอย่างต่อเนื่อง เพิ่มทุนระดมเงินจากนักลงทุนก้อนโต
ราคาหุ้น N-PARK หรือหุ้น บริษัท ยูซิตี้ จำกัด (มหาชน) หรือ U ในปัจจุบัน ถูกลากขึ้นไปสูงสุดที่ 10 บาท ก่อนจะรูดลงมาเพียง 1 สตางค์ เพราะผลประกอบการบริษัท ไม่เป็นไปตามที่ผู้บริหารคุยโม้ไว้
นายเสริมสินได้ล้างมือจาก N-PARK โดยขายหุ้นทิ้งทั้งหมด ก่อนจะย้ายเข้าไปซื้อหุ้น NMG และทำให้ NMG กลายเป็นหุ้นที่มีลูกเล่น บริษัทในเครือ ถูกส่งเข้ามาระดมทุนในตลาดหุ้น ราคาหุ้น NMGปรับพฤติกรรมสู่การเป็นหุ้นเก็งกำไร มีการขยายการลงทุนในรอบด้าน มีการสร้างข่าวดีเป็นระยะ
แต่สุดท้าย NMG ต้องจบลงในรูปแบบเดียวกับหุ้น N-PARK โดยมีผลขาดทุนอย่างหนัก ราคาหุ้นรูดลง ส่วนนายเสริมสิน เผ่นจากเครือเนชัน ฯ พร้อมกับเงินก้อนโต จากการทยอยขายหุ้นทิ้ง
กลุ่ม NEWS แม้จะชนะ แต่เครือเนชั่น ฯ ที่แทบกลายเป็นซากไปแล้ว และไม่รู้ว่า จะฟื้นฟูกันไหวหรือไม่
พรมในเครือเนชั่น ฯ ทุกผืน กำลังถูกรื้อค้นครั้งใหญ่ เพื่อตรวจดูว่า มีใครนำขยะไปซุกไว้บ้าง หรือไม่
ความพ่ายแพ้จากเกมในตลาดหุ้น ทำให้สังคม รู้สึกเห็นใจกลุ่มนายสุทธิชัย แต่ถ้าพิสูจน์ทราบว่า มีการซุกขยะไว้ใต้พรม ในช่วงที่กลุ่มนายสุทธิชัยบริหาร กระแสสังคมที่เคยเห็นใจ กลุ่มนายสุทธิชัยจะดับสูญในทันที
งานนี้ถ้ามีโกง ถ้ามีธุรกรรมอำพราง สังคมคงไม่อาจยอมรับได้ ไม่ว่าจะเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ กลุ่มใหม่หรือกลุ่มเก่าก็ตาม
เพราะไม่ว่าจะเป็นใครก็ตาม ถ้ากระทำความผิด สร้างความเสียหายให้นักลงทุน ไม่ควรถูกปล่อยให้ลอยนวล
อย่างน้อย ต้องเปิดโปงให้สังคมรับรู้ว่า ในเครือเนชั่น ฯ ยุค นายสุทธิชัย หยุ่น มีเรื่องพิศดารคาดไม่ถึงเกิดขึ้นเหมือนกัน
พิสดารล้ำลึกขนาดไหน รอผู้บริหาร NMG ชุดใหม่ รื้อขยะที่ซุกไว้ใต้พรมให้จบก่อน
(สั่งจองหนังสือ “หุ้นวายร้าย” ราคาเล่มละ 190 บาท จากราคาเต็ม 240 บาท โทร. 0-2629-2700 , 08-2782-8353 , 08-2782-8356 )
