สัปดาห์ก่อนได้สนทนากับผู้บริหาร บริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ ฯ แห่งหนึ่ง ซึ่งระบายความอึดอัดใจ เพราะถูกสื่อบางสำนักโจมตีอย่างหนักและต่อเนื่อง โดยข้อมูลการนำเสนอบางส่วน ไม่ใช่ข้อเท็จจริง จนทำให้องค์กรถูกมองในภาพลักษณ์ที่เป็นลบ
ผู้บริหารบริษัทจดทะเบียนรายนี้ ยังไม่รู้เจตนาว่า เป้าหมายในการโจมตีนั้น มีวัตถุประสงค์ใด เพราะสื่อยังไม่ได้แสดงเจตจำนงมา
การพุ่งเป้าเสนอข่าวโจมตีบริษัทจดทะเบียน โดยพยายามขุดค้นข้อมูลในเชิงลบ หรือนำข่าวลือมาถล่ม และใส่สีตีไข่ในแง่ร้ายอย่างต่อเนื่องนั้น ไม่ได้เพิ่งเกิดขึ้น แต่เกิดขึ้นมาพักใหญ่แล้ว
เป้าหมายมักจะเป็นการสร้างอำนาจต่อรอง เพื่อขอการสนับสนุนด้านงบโฆษณา และบริษัทจดทะเบียนหลายแห่งเจอมาแล้ว ถ้าจ่ายจะสามารถเจรจายุติข่าวการโจมตีได้ หรืออาจเปลี่ยนเป็นการเขียนเชียร์สุดลิ่มทิ่มประตูได้เพียงข้ามคืน
แต่ถ้าไม่จ่าย ไม่สนับสนุนโฆษณา ไม่ยอมสยบ ให้สื่อค่ายนั้น จะถูกขุดคุ้ย หาเหตุโจมตีอย่างต่อเนื่อง จนผู้บริหารบริษัทจดทะเบียนประสาทเสีย
วิธีการเขียนข่าวเพื่อตบทรัพย์นั้น เป็นพฤติกรรมของสื่อเมื่อยุค 40-50 ปีก่อน ซึ่งสื่อที่มีพฤติกรรม “ตบทรัพย์” ควรสูญพันธุ์ไปแล้ว แต่ยังมีสื่อบางคน บางสำนัก สืบทอดพฤติกรรมสื่อไร้จรรยาบรรณอยู่ โดยนำวิธีการเก่า ๆ มาใช้หากิน โดยปั้นข่าวโจมตีอย่างไร้เหตุผล
และถ้าผู้บริหารบริษัทจดทะเบียนติดต่อขอชี้แจงข่าว ถือว่าเข้าทางปืน เพราะจะอาศัยการขอแก้ข่าว เพื่อต่อรองของบสนับสนุนโฆษณา
หรือระหว่างเสนอข่าวโจมตี อาจส่งคนเข้าไปขอนัดพบ เจรจาขอการสนับสนุนโฆษณา เพื่อแลกกับการยุติการขุดคุ้ยข่าวโจมตี
บริษัทจดทะเบียนจะทำตัวอย่างไร เมื่อถูกสื่อที่มีพฤติกรรมตบทรัพย์โจมตี
ทางเลือกมีอยู่เพียง 3 ทางเท่านั้น ทางเลือกแรก ถ้ากลัวถูกขุดคุ้ย รำคาญที่ถูกกวนใจ คงต้องยอมคารวะ จัดงบโฆษณาฟาดหัวสื่อประเภทนี้ไป
บริษัทจดทะเบียนบางแห่งที่ไม่อยากทะเลาะกับสื่อ โดยยอมคารวะ ซึ่งมักจะเป็นบริษัทจดทะเบียนที่สันหลังหวะ เป็นหุ้นที่มีพฤติกรรมปั่น ผู้บริหารงานบริษัทมีแผล และต้องการปิดปากสื่อ จึงจัดงบโฆษณาให้
สื่อที่นำเสนอข่าวการลงทุนบางสำนัก จึงมีงบโฆษณาจากบริษัทจดทะเบียนหลายแห่ง แต่ส่วนใหญ่เป็นหุ้นเน่า ๆ หรือบริษัทจดทะเบียนที่มีพฤติกรรมการบริหารที่ไม่โปร่งใส
ทางเลือกที่สองคือ เดินสายกลาง การปฏิบัติตามขั้นตอนทั่วไป โดยหากสื่อสำนักใด โจมตีโดยนำเสนอข้อมูลผิดพลาด ต้องติดต่อขอชี้แจงข้อเท็จจริงตามขั้นตอนปกติ
แต่ถ้าสื่อไม่ยอมเสนอข่าวตามข้อเท็จจริงที่ชี้แจง และยังเสนอข่าวบิดเบือนโจมตีอีก คงต้องตระหนักแล้วว่า กำลังเจอกับตัวอะไรไม่รู้ที่สวมคราบความเป็นสื่อ จึงไม่อาจคาดหวังจริยธรรมจรรยาบรรณกับสื่อประเภทนี้ได้
ทางเลือกสุดท้ายคือ ใช้วิธีตาต่อตากับสื่อที่มีพฤติกรรมตบทรัพย์ โดยเมื่อถูกโจมตี และได้ชี้แจงข้อเท็จจริงจริงตามขั้นตอนแล้ว ถ้าสื่อไม่ยอมนำเสนอคำชี้แจงข้อเท็จจริงเผยแพร่ให้สาธารณชนรับรู้ แต่กลับเต้าข่าวมาโจมตีต่อไปทำให้บริษัทเสียหาย คงต้องใช้มาตรการทางกฎหมายเข้ามาช่วย ฟ้องร้องดำเนินคดี
และร้องเรียนพฤติกรรมต่อองค์กรตัวแทนสื่อ เพื่อให้ตรวจสอบและเปิดโปงพฤติกรรมสื่อที่แฝงตัวมาเป็นกาฝาก
ทุกวิชาชีพ มีทั้งคนดีและคนชั่วคุกเคล้าผสมปนเป วิชาชีพสื่อไม่ได้แตกต่างจากคนในวงการอื่น มีสื่อที่ไร้จิตสำนึกในจริยธรรมจรรยาบรรณแฝงตัวทำมาหากินอย่างเป็นล่ำเป็นสัน โดยมีพฤติกรรมตบทรัพย์เหมือนกัน
บริษัทจดทะเบียนรายใดแข็งขืน จะหาเรื่องโจมตี บริษัทจดทะเบียนใด “ยอมจ่าย” ยอมเป็นพวก เลี้ยงดูปูเสื่อกันอย่างดี สื่อบางคนบางค่าย จะทำตัวเป็นลูกสมุนรับใช้อย่างเต็มที่
เสียงบ่นจากบริษัทจดทะเบียน เกี่ยวกับพฤติกรรมสื่อบางคนบางค่าย ดังขึ้นทุกที จะทำอย่างไรกับสื่อกาฝากในตลาดหุ้นดีละ
(สั่งจองหนังสือ “หุ้นวายร้าย” ราคาเล่มละ 190 บาท จากราคาเต็ม 240 บาท โทร. 0-2629-2700 , 08-2782-8353 , 08-2782-8356 )