ศูนย์วิจัยกสิกรไทย คาดประชุมเฟดรอบ 20-21 มี.ค. ปรับขึ้นดอกเบี้ยอีกร้อยละ 0.25 จับตาการส่งสัญญาณมุมมองนโยบายการเงินของเฟดครั้งแรกภายใต้การนำของนายเจอโรม พาวเวล
บริษัท ศูนย์วิจัยกสิกรไทย จำกัด คาดว่าธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะมีมติปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายอีกร้อยละ 0.25 จากร้อยละ 1.25-1.50 เป็นร้อยละ 1.50-1.75 ในการประชุมรอบ 2 ของปีนี้ ในวันที่ 20-21 มีนาคม ท่ามกลางปัจจัยเศรษฐกิจสหรัฐฯ ขยายตัวระดับสูงกว่าระดับศักยภาพ โดยเฉพาะตลาดแรงงานที่อัตราว่างงานมีโอกาสลดลงทำสถิติต่ำที่สุดในรอบกว่า 5 ทศวรรษ คงเป็นปัจจัยหนุนให้เฟดทยอยปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอย่างค่อยเป็นค่อยไป เพื่อลดความเสี่ยงที่เศรษฐกิจสหรัฐฯ ขยายตัวร้อนแรงเกินไป ขณะที่พัฒนาการของอัตราเงินเฟ้อของสหรัฐฯ ค่อนข้างทรงตัวบ่งชี้ว่า เฟดยังไม่มีความจำเป็นที่จะต้องเร่งจังหวะของการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในช่วงนี้
สำหรับผลต่อประเทศไทย การขึ้นดอกเบี้ยนโยบายของเฟดครั้งนี้ คงส่งผลให้ส่วนต่างระหว่างอัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐฯ และไทย กว้างขึ้น ทำให้มีเงินทุนบางส่วนไหลออก ขณะที่การปรับขึ้นอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลไทยคงเกิดขึ้นในระดับที่น้อยกว่าการเปลี่ยนแปลงของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ ส่วนอัตราดอกเบี้ยไทยยังไม่น่าจะมีการเปลี่ยนแปลงอย่างมีนัยสำคัญ โดยทิศทางอัตราดอกเบี้ยในประเทศคงจะขึ้นกับการส่งสัญญาณทางการเงินของคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.)
ขณะที่ผลกระทบต่อทิศทางของค่าเงินบาท แม้ว่าในช่วงที่ผ่านมา จะมีเงินทุนไหลออกบางส่วน แต่ยังไม่มีน้ำหนักมากพอที่จะทำให้ทิศทางค่าเงินบาทกลับมาอ่อนค่า เนื่องจากปัจจัยกดดันค่าเงินบาทระยะนี้ มาจากความเสี่ยงด้านการเมืองสหรัฐฯ ที่อยู่ในระดับสูง รวมทั้งท่าทีการดำเนินนโยบายการค้าของสหรัฐฯ ที่แข็งกร้าวมากขึ้น ส่งผลให้มีแรงขายเงินดอลลาร์สหรัฐฯ ออกมาจากความกังวลต่อความเสี่ยงสงครามการค้า ประกอบกับการขาดดุลการคลังระดับสูง ซึ่งคงเป็นเหตุการณ์ที่อาจจะกดดันการอ่อนค่าของเงินดอลลาร์สหรัฐฯ อีกระยะ