xs
xsm
sm
md
lg

หุ้นปรับฐานนักลงทุนวิตกสงครามการค้า และการเมืองสหรัฐฯ

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online


โบรกฯ มองแนวโน้มดัชนีเช้านี้ปรับฐาน ตามตลาดต่างประเทศ วิตกสงครามการค้า และการเมืองสหรัฐฯ ถ่วงตลาด

นายกิติชาญ ศิริสุขอาชา ผู้อำนวยการอาวุโสฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์รายย่อย บล. ซีจีเอส-ซีไอเอ็มบี (ประเทศไทย) กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้ปรับฐาน หลังจากที่ดัชนีดาวโจนส์ปรับตัวลดลงมากเมื่อคืนนี้ จากข่าวที่ว่า นายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ มีแผนที่จะออกมาตรการเรียกเก็บภาษีสินค้านำเข้าจากจีนเป็นวงเงินสูงถึง 6 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐฯ โดยพุ่งเป้าไปที่สินค้าด้านเทคโนโลยีและการสื่อสาร และคาดการณ์ว่าจะมีการเปิดเผยแผนดังกล่าวในสัปดาห์หน้า ซึ่งกรณีนี้ทำให้ตลาดกลับมาวิตกเรื่องสงครามการค้ารอบใหม่

สำหรับในส่วนของประเทศไทย อาจจะได้รับผลกระทบต่อความต้องการสินค้าอิเล็กทรอนิกส์ในไทยที่จะชะลอตัวลง เนื่องจากปัจจุบัน ไทยมีการผลิตสินค้าอิเล็กทรอนิกส์บางส่วนไปประกอบที่จีน และจีนเป็นผู้ส่งออกสินค้าไปยังสหรัฐฯ ซึ่งอาจจะกระทบต่อการลงทุนในหุ้นกลุ่มอิเล็กทรอนิกส์ได้

นอกจากนี้ เมื่อคืนนี้ยังมีข่าวการปลด รมว.ต่างประเทศของสหรัฐฯ ทำให้ตลาดอาจไม่มั่นใจต่อนโยบายด้านต่างประเทศของสหรัฐฯ ว่าจะมีการเปลี่ยนแปลงหรือไม่ ส่วนกรณีตัวเลขเงินเฟ้อเดือน ก.พ. ของสหรัฐฯ ที่ออกมาเมื่อคืนนี้ (13 มี.ค.) นับว่าอยู่ในระดับไม่สูงเกินไป และสอดคล้องกับที่ตลาดคาดการณ์ อีกทั้งอัตราผลตอบแทนพันธบัตร (Bond Yield) ของสหรัฐฯ ที่ปรับตัวลงเมื่อวานนี้ ก็ช่วยลดความกังวลต่อแนวโน้มการปรับขึ้นอัตราดอกเบี่ย 4 ครั้งของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ในปีนี้

ส่วนทิศทางราคาน้ำมันที่ปรับตัวลงเมื่อวานนี้ ยังนับว่าอยู่ในระดับไม่มากนัก และตลาดก็รับรู้เรื่องการผลิตน้ำมันดิบของสหรัฐฯ ที่เพิ่มขึ้นมากในช่วงที่ผ่านมา และมีแนวโน้มจะเพิ่มขึ้นสู่ระดับ 11.17 ล้านบาร์เรลต่อวันภายในไตรมาส 4 ของปีนี้ ซึ่งจะทำให้สหรัฐฯ แซงหน้ารัสเซียกลายเป็นประเทศที่ผลิตน้ำมันมากที่สุดในโลก อย่างไรก็ตาม เงินเฟ้อของสหรัฐฯ ที่อยู่ในระดับไม่สูงมากนัก ทำให้ลดแนวโน้มต่อการขึ้นดอกเบี้ย กดดันให้ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐฯ อ่อนค่า ซึ่งน่าจะยังเป็นผลดีต่อทิศทางราคาน้ำมันอยู่

อย่างไรก็ตาม คาดว่าการปรับฐานของดัชนีหุ้นไทยในวันนี้จะยังไม่น่าหลุดระดับ 1,800 จุด หลังตลาดหุ้นเพิ่งฟื้นตัวขึ้นจากที่ปรับลดลงไปมากก่อนหน้านี้ ขณะที่แรงกดดันจากหุ้นในกลุ่มอิเล็กทรอนิกส์น่าจะไม่มีผลต่อดัชนีมากนัก

พร้อมให้แนวรับบริเวณ 1,800 และ 1,794 จุด ส่วนแนวต้าน อยู่ที่ 1,815 และ 1,820 จุด


กำลังโหลดความคิดเห็น