มาร์เกตวอตช์/เอเอฟพี - ราคาน้ำมันขยับลง 4 ใน 5 วันของการซื้อขายหลังสุดเมื่อวันอังคาร (13 มี.ค.) คาดคลังปิโตรเลียมสำรองสหรัฐฯ เพิ่มขึ้น ส่วนวอลล์สตรีทดิ่งแรงและทองคำปิดบวก หลังประธานาธิบดีสหรัฐฯ ปลดรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ
สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เทกซัส อินเตอร์มีเดียต หรือไลต์สวีตครูด งวดส่งมอบเดือนเมษายน ลดลง 65 เซ็นต์ ปิดที่ 60.71 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ส่วนเบรนต์ทะเลเหนือลอนดอน งวดส่งมอบเดือนพฤษภาคม ลดลง 31 เซ็นต์ ปิดที่ 64.64 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล
นักลงทุนจับตาข้อมูลคลังเชื้อเพลิงสำรองรายสัปดาห์ของสำนักงานสารสนเทศด้านพลังงานสหรัฐฯ ซึ่งมีกำหนดเผยแพร่ในวันพุธ (14 มี.ค.) ท่ามกลางความคาดหมายว่าสต๊อกน้ำมันดิบจะเพิ่มขึ้นอีกราว 2.5 ล้านบาร์เรล ถ้าเป็นจริงตามนั้นก็เท่ากับจะเป็นการเพิ่มขึ้น 3 สัปดาห์ติด
ด้านตลาดหุ้นสหรัฐฯ ในวันอังคาร (13 มี.ค.) ร่วงลงแรง ท่ามกลางความกังวลเกี่ยวกับสงครามการค้า เช่นเดียวกับข่าวประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ไล่ออกรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ
ดาวโจนส์ ลดลง 171.58 จุด (0.68 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 25,007.03 จุด เอสแอนด์พี ลดลง 17.71 จุด (0.64 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 2,765.31 จุด แนสแดค ลดลง 77.31 จุด (1.02 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 7,511.01 จุด
ทรัมป์ ปลด ทิลเลอร์สัน พ้นจากตำแหน่งทูตสูงสุดของเขาและแต่งตั้ง ไมค์ ปอมเปโอ ผู้อำนวยการซีไอเอผู้ภักดี ขึ้นมาทำหน้าที่แทน ความเคลื่อนไหวนี้ก่อความกังวลแก่ตลาด เนื่องจากพวกนักวิเคราะห์มอง ทิลเลอร์สัน ในฐานะแฟนตัวยงของตลาดเปิดและกังวลว่า ปอมเปโอ จะใช้แนวทางที่แข็งกร้าวกว่าเดิมในประเด็นการค้า
ความเคลื่อนไหวนี้ซ้ำเติมความกังวลที่มีอยู่ก่อนแล้วของนักลงทุน ท่ามกลางรายงานข่าว ทรัมป์ กำลังชั่งใจปราบปรามจีนต่อคำกล่าวหาขโมยทรัพย์สินทางปัญญา ขณะที่สื่อมวลชนบางแห่งรายว่าอาจมีคำแถลงเล่นงานทางภาษีอากรรอบใหม่อย่างเร็วที่สุดในสัปดาห์หน้า
ส่วนราคาทองคำในวันอังคาร (13 มี.ค.) ปิดบวกวันเดียวมากสุดในรอบสัปดาห์ หลังดอลลาร์อ่อนค่าลง โดยทองคำตลาดโคเม็กซ์ เพิ่มขึ้น 6.30 ดอลลาร์ ปิดที่ 1,327.10 ดอลลาร์ต่อออนซ์