หุ้นปิดครึ่งวันเช้าร่วง 14.41 จุด ผันผวนรับแรงขายทำกำไรหุ้นพลังงานหลังราคาน้ำมันอ่อนตัว ขณะที่ต่างชาติขายต่อเนื่อง แนวโน้มภาคบ่ายคาดดัชนียังคงอยู่ในช่วงของการพักตัว อาจยังผันผวนอิงไปในทางแดนลบ
นางสาวธีรดา ชาญยิ่งยงค์ ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.ฟิลลิป (ประเทศไทย) กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้ (9 มี.ค.) มีความผันผวนค่อนข้างมาก โดยเคลื่อนไหวทั้งในแดนบวกและลบในกรอบค่อนข้างกว้าง และช่วงท้ายภาคเช้าร่วงลงไปมากกว่า 10 จุด โดยช่วงต้นอิงตาม Sentiment ต่างประเทศจากนโยบายการเรียกเก็บภาษีนำเข้าเหล็ก และอลูมิเนียม ของสหรัฐฯ ไม่ได้รุนแรง ประกอบกับประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐฯ ก็ยินยอมที่จะพบปะกับนายคิม จองอึน ผู้นำสูงสุดเกาหลีเหนือภายในเดือน พ.ค. นี้ ส่งผลทำให้ตลาดตอบรับในทางบวก
แต่ตลาดหุ้นไทยตอบรับในระยะสั้นเท่านั้น โดยมีการขายทำกำไรออกมา โดยเฉพาะหุ้นในกลุ่มพลังงาน เช่น PTT ที่ย่อตัวลงต่อเนื่อง เป็นผลมาจากราคาน้ำมันที่เริ่มทรงตัว หรืออิงไปในทางอ่อนตัวลง กดดันต่อภาพรวมการลงทุน รวมถึงยังมีแรงขายของนักลงทุนต่างชาติออกมาอย่างต่อเนื่องอีกด้วย จึงทำให้ Upside ของตลาดหุ้นไทยดูไม่ค่อยแข็งแรงนัก
ทั้งนี้ ดัชนีหุ้นไทยปิดตลาดครึ่งวันเช้าที่ระดับ 1,764.49 จุด ลดลง 14.41 จุด หรือเปลี่ยนแปลง -0.81% มูลค่าการซื้อขาย 35,830.15 ล้านบาท
สำหรับแนวโน้มการลงทุนช่วงบ่าย น.ส.ธีรดา คาดว่า ตลาดหุ้นไทยยังคงอยู่ในช่วงของการพักตัว อาจยังผันผวนอิงไปในทางแดนลบ พร้อมให้กรอบแนวรับที่ 1,760-1,770 จุด และแนวต้านที่ 1,780-1,790 จุด
อย่างไรก็ตาม แนะติดตามปัจจัยภายนอกประเทศเป็นหลัก โดยเฉพาะตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯ และการประชุมธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) ในสัปดาห์หน้า ซึ่งอาจจะมีประเด็นที่ส่งผลกระทบต่ออัตราผลตอบแทนพันธบัตรของสหรัฐฯ
