หุ้นไทยปิดลบ 3.09 จุด ภาพรวมแกร่งกว่าตลาดภูมิภาค รับแรงซื้อตามปัจจัยเฉพาะตัวจาก PTT-CPALL-BANPU หนุน แนวโน้มยังมีโอกาสลุ้นขึ้นได้ แต่ภาพโดยรวม อาจเป็นลักษณะแกว่งไซด์เวย์ ในช่วงของการรอดูความชัดเจนเกี่ยวกับภาษีนำเข้าเหล็ก และอลูมิเนียม ของสหรัฐฯ
น.ส.จิตรา อมรธรรม รองกรรมการผู้จัดการฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล. ฟินันเซีย ไซรัส กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยวันนี้ (5 มี.ค.) ส่วนใหญ่เคลื่อนไหวในแดนลบ รับแรงกดดันจากจากปัจจัยต่างประเทศ จากประเด็นสหรัฐฯ จะปรับขึ้นภาษีเหล็ก และอลูมิเนียม ทำให้ตลาดหุ้นในภูมิภาคเอเชีย และดาวโจนส์ ต่างก็ปรับตัวลงกันทั่วหน้า รวมถึงดาวโจนส์ฟิวเจอร์สด้วยที่ติดลบ แต่ล่าสุด ดาวโจนส์ฟิวเจอร์สได้ลดช่วงลบ ทำให้บรรยากาศดูดีขึ้น เช่นเดียวกับตลาดหุ้นไทยที่ลดช่วงลบลงมาหลังดัชนีฯ ปรับตัวลงไปกว่า 10 จุด ทำให้ตลาดบ้านเราวันนี้ดูแข็งแกร่งกว่าตลาดภูมิภาค โดยได้แรงหนุนจากหุ้น PTT, CPALL, BANPU ซึ่งก็เป็นปัจจัยเฉพาะตัว
อย่างไรก็ตาม ในวันพรุ่งนี้ (6 มี.ค.) จะต้องติดตามการพิจารณาคดีหงสาของ BANPU และติดตามการประชุมของสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) ในเรื่องที่เกี่ยวกับการเลือกตั้ง ส่วนนอกประเทศให้ติดตามการประชุมธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) การประชุมธนาคารกลางยุโรป (ECB) ในสัปดาห์นี้ ซึ่งก็ให้รอดูความคิดเห็นเกี่ยวกับเศรษฐกิจ และเงินเฟ้อ เป็นต้น
ทั้งนี้ ดัชนีหุ้นไทยปิดตลาดที่ระดับ 1,808.89 จุด ลดลง 3.09 จุด หรือเปลี่ยนแปลง -0.17% มูลค่าการซื้อขาย 69,970.69 ล้านบาท
สำหรับแนวโน้มการลงทุนในวันพรุ่งนี้ (6 มี.ค.) น.ส.จิตรา กล่าวว่า ตลาดฯ ยังมีโอกาสลุ้นขึ้นได้ แต่ภาพโดยรวมอาจเป็นลักษณะแกว่งไซด์เวย์ ในช่วงของการรอดูความชัดเจนเกี่ยวกับภาษีนำเข้าเหล็ก และอลูมิเนียม ว่าจะใช้กับประเทศไหนบ้าง และจะใช้กับเหล็กชนิดไหน พร้อมให้กรอบการแกว่งไว้ที่ 1,790-1,810 จุด