ราคาทองคำยังแกว่งตัวผันผวนจากท่าทีประธานเฟดต่อการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย จับตาการกีดกันทางการค้าระหว่างสหรัฐฯ และสหภาพยุโรป หากรุนแรงจะกดดันดอลลาร์สหรัฐ ผลักดันราคาทองคำเพิ่มขึ้น แนะเก็งกำไรระยะสั้นจากการแกว่งตัว
“วรุต รุ่งขำ” ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์ วาย แอล จี บูลเลี่ยน แอนด์ ฟิวเจอร์ส กล่าวถึงภาพรวมราคาทองคำช่วงที่ผ่านมาว่า ราคาทองคำมีการแกว่งตัวผันผวนมากยิ่งขึ้น โดยระหว่างสัปดาห์ราคามีการอ่อนตัวลงทำระดับต่ำสุดครั้งใหม่ แต่ท้ายที่สุดราคาทองคำมีการปรับตัวกลับขึ้นมาได้บ้าง หลังจากสถานการณ์ความตึงเครียดเกี่ยวกับการกีดกันการค้าในฝั่งสหรัฐฯ กระตุ้นในส่วนแรงซื้อทองคำในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัย และกลับไปกดดัชนีดอลลาร์สหรัฐฯ ให้มีการอ่อนค่าลง
นอกจากนี้ ความผันผวรเกี่ยวกับการดำเนินการนโยบายทางการเงินของธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) ยังถือว่าเป็นปัจจัยตัวหนึ่งที่ยังขับเคลื่อนราคาทองคำ เพราะการปรับตัวลดลงของราคาเริ่มจากประธานเฟดคนใหม่ “เจอโรม พาวเวลล์” มีการส่งสัญญาณแสดงถึงความเชื่อมั่นต่อแนวโน้มเศรษฐกิจในฝั่งสหรัฐฯ ซึ่งทำให้นักลงทุนเกิดกระแสการคาดการณ์ว่า เฟด มีแนวโน้มจะสามารถปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยได้ถึง 4 ครั้งในปีนี้ แต่อย่างไรก็ตาม การแถลงการณ์อีกหนึ่งครั้งในช่วงปลายสัปดาห์ต่อวุฒิสมาชิก “เจอโรม” มีท่าทีที่จะผ่อนคลายนโยบายการเงินมากยิ่งขึ้น ทำให้นักลงทุนลดความวิตกกังวลเกี่ยวกับการคุมเข้มนโยบายทางการเงินของเฟดลง จนส่งผลให้เกิดแรงขายดอลลาร์สหรัฐ ทำกำไรสลับออกมา
สำหรับปัจจัยที่ยังคงต้องจับตา อาจจะต้องจับตาดูการเคลื่อนไหวของสกุลเงินยูโร เนื่องจากจะมีการเลือกตั้งในอิตาลี ซึ่งหากมีการเลือกตั้งพรรคทีต้องการแยกตัวออกจากการเป็นสมาชิกสหภาพยุโรป เกิดได้ชัยชนะกลับมาเป็นพรรคที่สามารถครองเสียงข้างมาก สถานการณ์ดังกล่าวจะกลับมาเป็นปัจจัยที่กดดันให้สกุลเงินยูโรอ่อนค่าลง ส่วนสถานการณ์การค้า หรือการกีดกันการค้าหลังจากสหรัฐฯ มีการตั้งกำแพงภาษีนำเข้าเหล็ก และอะลูมิเนียมยังเป็นอีกปัจจัยหนึ่งที่ยังคงต้องจับตา หลังจากสหภาพยุโรปมีการออกมาประกาศจะดำเนินการตอบโต้อย่างรุนแรงอย่างสมน้ำสมเนื้อ ซึ่งหากเกิดการตอบโต้กันจริงอาจจะกลับมากดดันในตัวสินทรัพย์เสี่ยงมีการปรับฐาน หรืออ่อนตัวลงอีก จนเป็นปัจจัยตัวหนึ่งที่กระตุ้นให้แรงซื้ออย่างตัวทองคำในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัย
ขณะเดียวกัน จะมีการเปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจโดยเฉพาะภาคตลาดแรงงานในฝั่งสหรัฐฯ หลายตัว ซึ่งนักลงทุนสามารถจับตาข้อมูลภาคแรงงานเพื่อเป็นปัจจัยชี้นำทิศทางดัชนีดอลลาร์สหรัฐเพิ่มเติม รวมทั้งจับตาดูการประชุมของธนาคารกลางยุโรป หรือ ECB และการประชุมของธนาคารกลางญี่ปุ่น หรือ BOJ ซึ่งหากทั้งธนาคารกลางยุโรป และธนาคารกลางญี่ปุ่น มีแนวโน้มที่จะถอดมาตรการการกระตุ้นเศรษฐกิจมากยิ่งขึ้น อาจจะส่งผลให้สกุลเงินยูโร และสกุลเงินเยนกลับมาแข็งค่า ซึ่งจะเป็นปัจจัยตัวหนึ่งที่กดดันราคาดอลลาร์ และหนุนราคาทองคำทองคำเพิ่มเติม
ทำให้กลยุทธ์การลงทุน ประเมินว่า ราคาทองคำมีการแกว่งตัวค่อนข้างผันผวนในช่วงที่ผ่านมา แต่อย่างไรก็ตาม ราคามีการอ่อนตัวลงมาค่อนข้างมากแล้วจึงเกิดแรงซื้อ หรือดีดตัวกลับ แสดงให้เห็นถึงแรงซื้อแรงขายที่มีการสู้กั ทั้งนี้ แนะนำเกร็งกำไรระยะสั้นจากการแกว่งตัว เพราะหากราคากลับไปมีทิศทางเชิงบวกมากยิ่งขึ้นจำเป็นต้องสร้างฐานให้แน่น โดยประเมินแนวรับบริเวณ 1,302 เหรียญ/ออนซ์ แต่หากราคาไม่มีทำระดับต่ำสุดครั้งใหม่ หรือทรงตัวได้ แนะนำเข้าซื้อเพื่อทำกำไรระยะสั้นจากการดีดตัว โดยมีแนวต้านบริเวณ 1,333 เหรียญ/ออนซ์ ว่าราคาจะยืนได้หรือไม่ ถ้าไม่ผ่านอาจต้องแบ่งขายเพื่อรอซื้อในแนวรับดังกล่าว แต่หากผ่านได้สามารถชะลอการขายไปที่แนวต้านถัดไปบริเวณ 1,352 เหรียญ/ออนซ์