เศรษฐกิจจีนสดใสเกินคาด ฉุดนักลงทุนโยกเงินเข้าตลาดทุน กดดันทองคำเคลื่อนไหวแต่ในกรอบ จับตาทิศทางธนาคารกลางชาติต่างๆ ต่อการคุมเข้มนโยบายทางการเงิน และการลดมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจแบบ QE จะช่วยกดดันให้ดอลลาร์อ่อนค่า เปิดทางทองคำขยับตัวเพิ่ม ประเมินแนวต้าน 1,358 เหรียญ หากไปถึงมีโอกาสสร้างสถิติใหม่ แต่ต้องระวังแรงขายทำกำไร ส่วนแนวรับ 1,322 เหรียญ หากรับไม่อยู่ แนวรับสำคัญถัดไปอยู่ที่ 1,303 เหรียญ
“วรุต รุ่งขำ” ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์ วายแอลจี บูเลี่ยน แอนด์ ฟิวเจอร์ส กล่าวถึงการเคลื่อนไหวของราคาทองคำ ว่า ที่ผ่านมาราคายังคงเคลื่อนไหวอยู่ในกรอบ ขณะที่นักลงทุนยังจับตาหลายๆปัจจัยชี้นำ เช่น ข้อมูลเศรษฐกิจในฝั่งจีนที่มีทิศทางสดใสได้เข้ามากดดันราคาทองคำ หลังทางการจีนเปิดเผยตัวเลข GDP ไตรมาส4 /2017 ออกมาดีกว่าที่หลายฝ่ายคาดการณ์ไว้
“ข้อมูลดังกล่าวกระตุ้นให้นักลงทุนโยกเม็ดเงินออกจากสินทรัพย์ปลอดภัยอย่างทองคำ ไปยังตลาดทุนอย่างตลาดหุ้นจีน ขณะที่การปรับตัวเพิ่มขึ้นแตะ 26,000 จุด เป็นครั้งของดัชนีดาวโจนส์ แสดงให้เห็นว่า นักลงทุนโยกเงินไปยังสินทรัพย์มากขึ้น และชะลอเข้าลงทุนในสินทรัพย์ปลอดภัยอย่างชัดเจน”
ปัจจัยที่ต้องติดตาม มองไปที่การประชุมของธนาคารกลางขนาดใหญ่ เช่น ธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) ว่า การคุมเข้มนโยบายการเงินจะมีทิศทางสอดคล้องในทางเดียวกับธนาคารกลางอื่นๆ หรือไม่ ที่เริ่มมีการลดมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ และมีแนวโน้มปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย ซึ่งหากมีการคุมเข้มมากยิ่งขึ้นอาจส่งผลให้เงินเยนกลับมาแข็งค่า และกดดันดอลลาร์สหรัฐให้อ่อนค่าลง
นอกจากนี้ ยังมีการประชุมของธนาคารกลางยุโรป (ECB) ซึ่งหากมีการกลับมาคุมเข้มนโยบายการเงิน จะส่งผลให้เงินยูโรแข็งค่า และกลับมากดดันดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งน่าจะเป็นอีกปัจจัยที่เข้ามาสนับสนุนราคาทองคำ และควรติดตามความคืบหน้าในการยุติมาตรการ QE จะเกิดขึ้นในช่วงไหน?
ขณะเดียวกัน ยังต้องติดตามตัวเลขเศรษฐกิจในฝั่งสหรัฐฯ เช่น ตัวเลขผู้ขอรับสวัสดิการว่างงาน และการเปิดเผยตัวเลข GDP ไตรมาส 4/2017 และยอดสั่งซื้อสินค้าคงทนพื้นฐาน ซึ่งจะสะท้อนทิศทาง หรือแนวโน้มเศรษบกิจในฝั่งสหรัฐฯ ได้ดียิ่งขึ้น
สำหรับกลยุทธ์การลงทุน ราคาทองคำเริ่มชะลอตัวในการปรับขึ้น อีกทั้งเริ่มแกว่งตัวอยู่ในกรอบ แสดงให้เห็นถึงแรงซื้อที่ชะลอตัว และแรงขายที่เพิ่มมากขึ้น แต่ราคายังสามารถทรงตัวอยู่ในระดับสูงได้ ดังนั้น หากราคามีการดีดตัวขึ้น ควรดูว่ามีการทำจุดสูงใหม่หรือไม่ ถ้ามีการทำได้อาจถือต่อเพื่อไปรอขายในแนวงต้านถัดไป แต่ถ้าไม่มีแสดงว่าแรงขายอาจจะค่อนข้างมาก แนะนำให้แบ่งทองคำออกขายในสัดส่วนที่มากยิ่งขึ้น และรอการอ่อนตัวลงมาที่กรอบแนวรับด้านล่าง แล้วจึงเข้าซื้อเพื่อหวังทำกำไรระยะสั้นจากการดีดตัวขึ้น
โดยประเมินแนวต้านบริเวณ 1,344-1,358 เหรียญ/ออนซ์ ซึ่งแนวต้าน 1,358 เหรียญ/ออนซ์ เป็นนิวไฮของปีที่ผ่านมา หากราคาขยับขึ้นถึงโซนดังกล่าวควรระมัดระวังแรงเทขายที่มีมากยิ่งขึ้น และกรอบแนวรับที่บริเวณ 1,322 เหรียญ/ออนซ์ แต่หากยืน หรือตั้งฐานไม่อยู่ ราคาอาจมีการอ่อนตัวลงมาเพื่อสะสมบริเวณแนวรับสำคัญ 1,303 เหรียญ/ออนซ์ และควรติดตามทิศทางค่าเงินบาทที่ชะลอตัวในส่วนของการแข็งค่า อาจช่วยทำให้นักลงทุนสามารถทำกำไรจากทองคำได้มากขึ้น