ศาลฎีกาสั่ง “กลุ่มบ้านปู” ชดใช้ค่านำข้อมูลสัมปทานเหมืองถ่านหินและโรงไฟฟ้าหงสาของ “ศิวะ งานทวี” ไปใช้ มูลค่า 1.5 พันล้านบาทพร้อมดอกเบี้ย นอกนั้นให้ยืนตามศาลอุทธรณ์ ขณะผู้บริหารบ้านปูเตรียมออกโรงแจงบ่ายนี้
วันนี้ (6 มี.ค.) ศาลฎีกามีคำพิพากษาแก้คำพิพากษาของศาลอุทธรณ์ในคดีที่นายศิวะ งานทวี ฟ้องร้องกลุ่ม บริษัท บ้านปู จำกัด (มหาชน) หรือ BANPU โดยมีคำสั่งให้กลุ่ม BANPU ชดใช้ค่านำข้อมูลสัมปทานเหมืองถ่านหินและโรงไฟฟ้าหงสาของนายศิวะไปใช้เป็นมูลค่า 1.5 พันล้านบาท พร้อมอัตราดอกเบี้ย 7.5% ต่อปี นับตั้งแต่วันฟ้องในเดือน ก.ค. 50 นอกจากที่แก้ไขนี้ให้เป็นไปตามคำพิพากษาของศาลอุทธรณ์
อนึ่ง คำตัดสินของศาลฎีกาดังกล่าว ทำให้ BANPU ไม่ต้องชดใช้ค่าเสียหายตามข้อเรียกร้องของนายศิวะ มูลค่ากว่า 3 หมื่นล้านบาท ตามคำพิพากษาของศาลชั้นต้น
ทั้งนี้ คดีดังกล่าว นายศิวะ และพวกเป็นโจทก์ยื่นฟ้องต่อศาลแพ่ง กล่าวหาว่ากลุ่ม BANPU หลอกลวงโดยเข้าร่วมทำสัญญาร่วมทุนกับกลุ่มนายศิวะ และพวก เพื่อประสงค์จะได้ข้อมูลสัมปทานเหมืองถ่านหิน รวมทั้งรายงานการศึกษาความเป็นไปได้ของโครงการโรงไฟฟ้าที่เมืองหงสาของ สปป.ลาว จากนั้นได้ใช้สิทธิไม่สุจริตในการรายงานเท็จ ทำให้รัฐบาลลาวยกเลิกสัมปทานเหมืองถ่านหินและโรงไฟฟ้าของนายศิวะและพวก เพื่อที่ BANPU จะได้เข้าทำสัญญากับรัฐบาลลาวเอง พร้อมทั้งเรียกค่าเสียหายมูลค่า 6.3 หมื่นล้านบาท ตั้งแต่วันที่ 3 ก.ค. 50
หลังจากนั้น ศาลชั้นต้นได้มีคำพิพากษาเมื่อวันที่ 20 ก.ย. 55 ให้กลุ่ม BANPU ชดใช้ค่าเสียหายแก่โจทก์มูลค่ารวม 3.1 หมื่นล้านบาท แบ่งเป็น ค่าข้อมูล 4 พันล้านบาท พร้อมดอกเบี้ย 7.5% ต่อปี และค่าขาดประโยชน์เป็นเงินรายปี ช่วงปี 58-70 ปีละ 860 ล้านบาท และช่วงปี 71-82 ปีละ 1.38 พันล้านบาท ต่อมา BANPU ยื่นอุทธรณ์ และศาลอุทธรณ์มีคำพิพากษายกฟ้องในคดีดังกล่าว ทำให้กลุ่มงานทวียื่นคัดค้านต่อศาลฎีกา
อย่างไรก็ดี เช้าวันนี้ผู้พิกษาศาลฎีการะบุในระหว่างอ่านคำพิพากษาว่า ศาลฯ เห็นว่าฟังไม่ได้ว่าจำเลยมีเจตนาไม่สุจริตหลอกลวง และรับฟังไม่ได้ว่าเป็นการหลอกให้รัฐบาลลาวยกเลิกสัมปทานของกลุ่มงานทวี แต่ศาลฯ เห็นว่าจำเลยนำเอกสารข้อมูลที่เป็นข้อมูลสำคัญทางการค้าของฝ่ายโจทก์ไปใช้ในการพิจารณาดำเนินการโครงการโรงไฟฟ้าหงสา จึงให้แก้คำพิพากษาศาลอุทธรณ์บางส่วน เพราะทำให้เกิดความเสียหายแก่โจทก์
ด้าน BANPU นั้น นายชนินท์ ว่องกุศลกิจ ประธานกรรมการบริษัท และนางสมฤดี ชัยมงคล ประธานเจ้าหน้าที่บริหารบริษัท จะเปิดแถลงข่าวเกี่ยวกับเรื่องดังกล่าวในช่วงบ่ายวันนี้
อนึ่ง เช้าวันนี้ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยได้ขึ้นเครื่องหมาย H บริษัท บ้านปู จำกัด (มหาชน) (BANPU) และบริษัท บ้านปู เพาเวอร์ จำกัด (มหาชน) (BPP) เนื่องจากระหว่างรอผลคำพิพากษาศาลฎีกาซึ่งอาจมีผลกระทบต่อราคาหลักทรัพย์และการตัดสินใจในการลงทุนอย่างมีนัยสำคัญ