xs
xsm
sm
md
lg

เตือนบิ๊กโปรเจกต์เสี่ยง เหตุลูกค้ามีจำนวนจำกัด

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online


บิ๊กพฤกษา ระบุอสังหาฯ ปี 61 สดใส แนวโน้มเศรษฐกิจโต ดอกเบี้ยต่ำ อินฟราสตรักเจอร์ปัจจัยหนุนตลาด เตือนโครงการมิกซ์ยูสขนาดใหญ่เสี่ยง เหตุกลุ่มลูกค้ามีจำกัด เผยปี 61 กลุ่มพฤกษาพรีเมียม ลงทุนบ้าน-คอนโดฯ 7-8 โครงการ

นายประเสริฐ แต่ดุลยสาธิต ประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่มธุรกิจพฤกษาเรียลเอสเตท-พรีเมียม บริษัท พฤกษา เรียลเอสเตท จำกัด (มหาชน) และนายกสมาคมอาคารชุดไทย กล่าวว่า ตลาดอสังหาริมทรัพย์ในปี 2561 มีแนวโน้มเติบโตจากปัจจัยด้านทิศทางเศรษฐกิจมีแนวโน้มเติบโตจากปี 2560 อัตราดอกเบี้ยที่ยังอยู่ในระดับต่ำ

นอกจากนี้ สภาพคล่องในระบบยังมีเหลือจำนวนมาก ส่งผลให้ผู้ประกอบการรายใหญ่สามารถลงทุนพัฒนาโครงการขนาดใหญ่ โครงการมิกซ์ยูสได้จำนวนมาก รวมถึงโครงการอินฟราสตรักเจอร์ของรัฐบาลได้เริ่มเป็นรูปธรรม และทยอยลงทุนในหลายโครงการ ภาคเอกชนเริ่มลงทุนตามการขยายตัวของอินฟราสตรักเจอร์ ซึ่งจะทำให้มีเม็ดเงินไหลเข้าสู่ระบบเกิดการขับเคลื่อนเศรษฐกิจ

อย่างไรก็ตาม ในปี 2561 ยังมีปัจจัยลบที่อาจส่งผลกระทบต่อภาพรวมตลาดอสังหาริมทรัพย์ อาทิ ความไม่มั่นคงของเศรษฐกิจ ซึ่งยังมีความผันผวนอยู่บ้างทั้งจากปัจจัยลบภายในและภายนอกประเทศตลาดอสังหาฯ

ในปีหน้า การแข่งขันยังคงรุนแรงต่อเนื่อง ตลาดยังคงเป็นของผู้ประกอบการรายใหญ่ทีมีศักยภาพในด้านการลงทุน และความเชี่ยวชาญ ซึ่งผู้ประกอบการรายกลางรายเล็กควรปรับตัวพัฒนาสินค้าที่ตรงกับความต้องการของผู้บริโภค หาช่องว่างตลาด เข้าไปในตลาดที่รายใหญ่ยังไม่ได้เข้าไป

นายประเสริฐ กล่าวต่อว่า ในปี 2561 ตลาดระดับบนยังเป็นตลาดที่เติบโตได้ดี ผู้ประกอบการจะยังคงให้ความสำคัญต่อตลาดระดับบน เนื่องจากกลุ่มลูกค้ามีกำลังซื้อ แต่ตลาดในรับนี้ในแต่ละทำเลมีลูกค้าจำนวนน้อย ซึ่งผู้ประกอบการจะต้องสำรวจความต้องการให้ดี

“สำหรับกลยุทธ์การลงทุนของกลุ่มธุรกิจพฤกษาเรียลเอสเตท-พรีเมียม จะพัฒนาในรูปแบบปลาใหญ่ทำตัวเป็นปลาเล็กที่มีความคล่องแคล้ว ว่องไว และเป็นปลาเก่งพัฒนาโครงการขนาดไม่ใหญ่มาก แต่สามารถปิดการขายได้เร็ว ซึ่งการพัฒนาในรูปแบบนี้เหมาะสำหรับตลาดระดับบนที่ในแต่ละทำเลมีลูกค้าจำนวนจำกัด”

นายประเสริฐ กล่าวต่อว่า การที่สภาพคล่องในระบบเหลือเยอะ นอกจากจะส่งผลดีต่อการลงทุนภาคเอกชน ทำให้มีการพัฒนาโครงการเพิ่มมากขึ้นแล้ว ยังมีข้อเสีย คือ การที่ผู้ประกอบการต่างพัฒนาโครงการมิกซ์ยูสขนาดใหญ่ออกสู่ตลาดจำนวนมาก ส่งผลให้มูลค่าโครงการรวมสูงถึง 6-7 แสนล้านบาท เพียงแค่ไตรมาส 3 ซึ่งสูงกว่ามูลค่าตลาดรวมที่อยู่อาศัยทั้งระบบ โครงการมิกซ์ยูสส่วนใหญ่เน้นโครงการระดับบนที่มีลูกค้าจำนวนจำกัด ซึ่งอาจมีความเสี่ยงที่โครงการจะไม่ประสบความสำเร็จได้

สำหรับการลงทุนของกลุ่มธุรกิจพฤกษาเรียลเอสเตท-พรีเมียม ในปี 2561 ตั้งเป้าพัฒนา 7-8 โครงการ แบ่งเป็นโครงการคอนโดมิเนียม 4-5 โครงการที่เหลือเป็นโครงการแนวราบ.



กำลังโหลดความคิดเห็น