ลานเบียร์หนาว! กรมสรรพสามิตจ้องคุมเข้มช่วงเทศกาลรับลมหนาวเยือนไทย เดินหน้ามาตรการเชิงรุกปราบปรามสินค้าหนีภาษีระบาด หลังจากดีเดย์ พ.ร.บ. ใหม่ 16 กันยายนที่ผ่านมา
นายกฤษฎา จีนะวิจารณะ อธิบดีกรมสรรพสามิต เปิดเผยว่า หลังจากกระแสลมหนาวพัดผ่านมาเยือนไทยสร้างบรรยากาศดีหลายภูมิภาคทั้งภาคกลาง เหนือ ตะวันออกเฉียงเหนือ ทำให้แหล่งท่องเที่ยวตั้งลานเบียร์ สร้างบรรยากาศการท่องเที่ยวคึกคักมากขึ้น จากโครงสร้างภาษีใหม่กำหนดการขอใบอนุญาตจำหน่ายเครื่องดื่มแอลอกฮอล์รายปี ค่าธรรมเนียม 2,000-3,000 บาทต่อปี จึงสั่งการเจ้าหน้าที่สรรพสามิตลงพื้นที่คุมเข้มการจำหน่ายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในเขตห้ามหรือไม่ เช่น วัด สถานศึกษา และตรวจดูร้านอาหารขายสุราปลอม สุราหนีภาษีหรือไม่ เพราะในช่วงเทศกาลปีใหม่นี้ยอดจำหน่ายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์น่าจะสูงขึ้น
นายกฤษฎา กล่าวว่า ต้องคุมเข้มดูแลสินค้าหลีกเลี่ยงภาษี รวมถึงการดำเนินงานตามมาตรการเชิงรุกในการป้องกันและปราบปรามสุราเถื่อน บุหรี่เถื่อน และน้ำมันเถื่อน ตลอดจนจูงใจผู้ที่อยู่นอกระบบภาษีให้เข้ามาสู่ระบบภาษี และเพื่อเป็นมาตรการเสริมทางอ้อมในการดูแลสุขภาพของผู้บริโภคให้บริโภคสินค้าที่ถูกต้องตามกฎหมาย เนื่องจากการบริโภคสินค้าที่หลีกเลี่ยงภาษีบางประเภทเป็นสินค้าที่มีคุณภาพต่ำ ซึ่งจะเป็นอันตรายและส่งผลเสียต่อสุขภาพมากกว่าสินค้าทั่วไป
ทั้งนี้ หลังจากพระราชบัญญัติภาษีสรรพสามิต พ.ศ. 2560 มีผลบังคับใช้เมื่อวันที่ 16 กันยายนที่ผ่านมา เพื่อปรับปรุงโครงสร้างภาษีสรรพสามิตใหม่ มุ่งเน้นประสิทธิภาพการจัดเก็บภาษีอย่างเป็นระบบ โดยใช้ราคาขายปลีกแนะนำมาเป็นฐานในการคำนวณภาษี จึงจำเป็นต้องกำหนดอัตราภาษีใหม่เพื่อให้สอดคล้องกับฐานภาษีที่เปลี่ยนแปลงไป จึงอาจเป็นแรงจูงใจทำให้มีปริมาณบุหรี่ และสุราหนีภาษี เข้ามาในประเทศมากขึ้น และอาจส่งผลให้ผู้บริโภคหันไปหาสินค้าหนีภาษีมากขึ้น ทำให้รัฐสูญเสียรายได้ และเพิ่มความเสี่ยงด้านสุขภาพแก่ประชาชน
หลังจากกำหนดให้ภาคเอกชนกำหนดราคาขายปลีกแนะนำ เพื่อใช้เป็นฐานจัดเก็บภาษี จึงต้องทำการตรวจสอบราคาแนะนำที่เอกชนแจ้งมาเพื่อเสียภาษี หากมีความแตกต่างจากรายอื่นในธุรกิจเดียวกัน ต้องขอให้ทบทวนราคาปลีกแนะนำเพื่อเสียภาษีใหม่ ยอมรับว่าเป็นเรื่องใหม่ที่ต้องร่วมกันทั้งรัฐ และเอกชน เมื่อวันก่อน จึงรับฟังความเห็นจากสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) เพื่อนำข้อร้องเรียนมาปรับปรุงเพิ่มในช่วง 3 เดือนหลังกฎหมายบังคับใช้
อธิบดีกรมสรรพสามิต กล่าวว่า จากการตรวจค้นและจับกุมผู้กระทำผิดปีงบประมาณ 2560 และผลการปราบปรามผู้กระทำผิดกฎหมายสรรพสามิตทั่วประเทศปีงบประมาณ 2561 (ต.ค.-พ.ย.60) พบว่ามีการกระทำผิด 3,962 คดี คิดเป็นเงินค่าปรับ 161 ล้านบาท แยกเป็นคดีสุรา 1,801 คดี น้ำสุราของกลาง 63,816 ลิตร คิดเป็นเงินค่าปรับ 36.34 ล้านบาท คดียาสูบ 1,544 คดี บุหรี่ของกลาง 6,470,620 มวน คิดเป็นเงินค่าปรับ 111.11 ล้านบาท คดีไพ่ 192 คดี ไพ่ของกลาง 9,464 สำรับ คิดเป็นเงินค่าปรับ 1.83 ล้านบาท