ตลาดหลักทรัพย์ฯขอให้ POLAR ชี้แจงข้อมูลเพิ่มเติมกรณีการถอนคำร้องขอฟื้นฟูกิจการ และเร่งให้ชี้แจงข้อมูลที่ตลาดหลักทรัพย์สอบถามให้ครบถ้วน
ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย หรือ ตลท. แจ้งว่า เมื่อวันที่ 2 สิงหาคม 2560 บริษัทโพลาริส แคปปิตัล จำกัด (มหาชน) หรือ POLAR แจ้งข้อมูลต่อตลาดหลักทรัพย์บริษัทได้ยื่นขอถอนคำร้องขอฟื้นฟูกิจการเมื่อวันที่ 7 กรกฎาคม 2560 และศาลล้มละลายมีคำสั่งถอนคำร้องเมื่อวันที่ 12 กรกฎาคม 2560 โดยบริษัทได้ยื่นคำร้องขอฟื้นฟูกิจการดังกล่าวเมื่อวันที่ 9 พฤษภาคม 2560
ทั้งนี้ เดิมเมื่อวันที่ 14 มิถุนายน 2560 บริษัทได้ชี้แจงต่อตลาดหลักทรัพย์กรณีการยื่นคำร้องขอฟื้นฟูกิจการว่า บริษัทมีหนี้สินล้นพ้นตัว คณะกรรมการได้ดำเนินการด้วยความระมัดระวัง และความรับผิดชอบ เพื่อประโยชน์สูงสุดของบริษัท และผู้ถือหุ้น ดังนั้น เพื่อไม่ให้เกิดความเสียหายเพิ่มมากกว่าปัจจุบัน หากไม่เข้าสู่กระบวนการฟื้นฟูกิจการผ่านศาลฯ บริษัทอาจประสบภาวะล้มละลาย ส่งผลกระทบต่อบริษัท และผู้ถือหุ้น จนไม่อาจเยียวยาแก้ไขได้ (รายละเอียดปรากฏตามข่าวของบริษัทวันที่ 5, 14, 19 มิถุนายน 2560 และวันที่ 2 สิงหาคม 2560)
เนื่องจากบริษัทแจ้งมติคณะกรรมการให้ถอนคำร้องขอฟื้นฟูกิจการโดยไม่ได้ชี้แจงเหตุผล และระยะเวลาที่ถอนคำร้องฯ ห่างจากการยื่นขอฟื้นฟูกิจการเพียง 2 เดือน ซึ่งข้อมูลดังกล่าวเป็นข้อมูลที่กระทบต่อสิทธิประโยชน์ของผู้ถือหุ้นอย่างมีนัยสำคัญ ดังนั้น ตลาดหลักทรัพย์ขอให้บริษัทชี้แจงข้อมูลเพิ่มเติมดังนี้
1. เหตุใดคณะกรรมการบริษัทจึงมีมติให้บริษัทถอนคำร้องขอฟื้นฟูกิจการ ทั้งที่คณะกรรมการเคยให้ความเห็นว่า การฟื้นฟูกิจการผ่านศาลฯ จะเป็นประโยชน์สูงสุดต่อบริษัท และผู้ถือหุ้น
2. แนวทางดำเนินการกับมูลหนี้ที่บริษัทแจ้งว่า ถูกฟ้องร้องเรียกค่าเสียหายรวม 3,620 ล้านบาท
3. เหตุใดบริษัทแจ้งการยื่นถอนคำร้องฯ ล่าช้า ทั้งที่บริษัทมีหน้าที่ต้องเปิดเผยข้อมูลดังกล่าวต่อตลาดหลักทรัพย์ทันที ซึ่งกรณีดังกล่าวตลาดหลักทรัพย์ได้เคยแจ้งให้บริษัทชี้แจงเหตุล่าช้ามาครั้งหนึ่งแล้ว
นอกจากนี้ บริษัทยังไม่ได้ชี้แจงข้อมูลตามที่ตลาดหลักทรัพย์สอบถามดังนี้
1. กรณีการขอฟื้นฟูกิจการผ่านศาลฯ ในประเด็นการมีหนี้สินล้นพ้นตัวภายในระยะเวลาอันสั้น ที่มาของมูลหนี้ ซึ่งมีข้อเท็จจริงที่ไม่สอดคล้องกัน และไม่สอดคล้องกับที่เคยแจ้งต่อตลาดหลักทรัพย์ รวมถึงความเห็นของคณะกรรมการในการพิจารณาหนี้ที่เกิดจากการเรียกร้องค่าเสียหาย และค่าขาดประโยชน์เป็นภาระหนี้ทั้งจำนวนของบริษัทจนเป็นเหตุให้บริษัทมีหนี้สินล้นพ้นตัว (รายละเอียดปรากฏตามข่าวของบริษัทวันที่ 19 มิถุนายน 2560)
2. กรณีผู้ถือหุ้นใช้สิทธิจัดประชุมผู้ถือหุ้นตาม พ.ร.บ.มหาชน ในวันที่ 16 กรกฎาคม 2560 ในประเด็นการหารือกับที่ปรึกษากฎหมาย และหน่วยงานที่กำกับดูแลกฎหมายที่เกี่ยวข้องกรณีที่คณะกรรมการเห็นว่า การจัดประชุมดังกล่าวไม่ถูกต้องตามกฎหมาย และสรุปคะแนนเสียงในแต่ละวาระการประชุม (รายละเอียดปรากฏตามข่าวของบริษัทวันที่ 20 กรกฎาคม 2560)
3. ความคืบหน้าในการรับคืนเงินมัดจำเพื่อจะซื้อที่ดินย่านพหลโยธิน 350 ล้านบาท และรายละเอียดการให้เงินกู้ยืมแก่บริษัทไซมิส แอ็คคอม จำกัด 160 ล้านบาท (รายละเอียดปรากฏตามข่าวของบริษัทวันที่ 8 พฤษภาคม 2560) ตลาดหลักทรัพย์ขอเรียนว่า กรรมการและผู้บริหารของบริษัทซึ่งเป็นบริษัทจดทะเบียนมีหน้าที่ และความรับผิดชอบที่ต้องเปิดเผยสารสนเทศสำคัญ ซึ่งส่งผลกระทบต่อสิทธิประโยชน์ของผู้ถือหุ้น และการตัดสินใจลงทุนอย่างครบถ้วน ถูกต้อง และทันเวลา รวมทั้งต้องปฏิบัติตามข้อบังคับที่เกี่ยวข้องอย่างเคร่งครัด
ทั้งนี้ ข้อมูลที่ตลาดหลักทรัพย์สอบถามเป็นข้อเท็จจริงซึ่งอยู่ในวิสัยที่บริษัทสามารถชี้แจงได้ภายในเวลาที่กำหนด ตลาดหลักทรัพย์จึงขอให้บริษัทเร่งดำเนินการชี้แจงข้อมูลดังกล่าวผ่านระบบของตลาดหลักทรัพย์ภายในวันที่ 7 สิงหาคม 2560
ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย หรือ ตลท. แจ้งว่า เมื่อวันที่ 2 สิงหาคม 2560 บริษัทโพลาริส แคปปิตัล จำกัด (มหาชน) หรือ POLAR แจ้งข้อมูลต่อตลาดหลักทรัพย์บริษัทได้ยื่นขอถอนคำร้องขอฟื้นฟูกิจการเมื่อวันที่ 7 กรกฎาคม 2560 และศาลล้มละลายมีคำสั่งถอนคำร้องเมื่อวันที่ 12 กรกฎาคม 2560 โดยบริษัทได้ยื่นคำร้องขอฟื้นฟูกิจการดังกล่าวเมื่อวันที่ 9 พฤษภาคม 2560
ทั้งนี้ เดิมเมื่อวันที่ 14 มิถุนายน 2560 บริษัทได้ชี้แจงต่อตลาดหลักทรัพย์กรณีการยื่นคำร้องขอฟื้นฟูกิจการว่า บริษัทมีหนี้สินล้นพ้นตัว คณะกรรมการได้ดำเนินการด้วยความระมัดระวัง และความรับผิดชอบ เพื่อประโยชน์สูงสุดของบริษัท และผู้ถือหุ้น ดังนั้น เพื่อไม่ให้เกิดความเสียหายเพิ่มมากกว่าปัจจุบัน หากไม่เข้าสู่กระบวนการฟื้นฟูกิจการผ่านศาลฯ บริษัทอาจประสบภาวะล้มละลาย ส่งผลกระทบต่อบริษัท และผู้ถือหุ้น จนไม่อาจเยียวยาแก้ไขได้ (รายละเอียดปรากฏตามข่าวของบริษัทวันที่ 5, 14, 19 มิถุนายน 2560 และวันที่ 2 สิงหาคม 2560)
เนื่องจากบริษัทแจ้งมติคณะกรรมการให้ถอนคำร้องขอฟื้นฟูกิจการโดยไม่ได้ชี้แจงเหตุผล และระยะเวลาที่ถอนคำร้องฯ ห่างจากการยื่นขอฟื้นฟูกิจการเพียง 2 เดือน ซึ่งข้อมูลดังกล่าวเป็นข้อมูลที่กระทบต่อสิทธิประโยชน์ของผู้ถือหุ้นอย่างมีนัยสำคัญ ดังนั้น ตลาดหลักทรัพย์ขอให้บริษัทชี้แจงข้อมูลเพิ่มเติมดังนี้
1. เหตุใดคณะกรรมการบริษัทจึงมีมติให้บริษัทถอนคำร้องขอฟื้นฟูกิจการ ทั้งที่คณะกรรมการเคยให้ความเห็นว่า การฟื้นฟูกิจการผ่านศาลฯ จะเป็นประโยชน์สูงสุดต่อบริษัท และผู้ถือหุ้น
2. แนวทางดำเนินการกับมูลหนี้ที่บริษัทแจ้งว่า ถูกฟ้องร้องเรียกค่าเสียหายรวม 3,620 ล้านบาท
3. เหตุใดบริษัทแจ้งการยื่นถอนคำร้องฯ ล่าช้า ทั้งที่บริษัทมีหน้าที่ต้องเปิดเผยข้อมูลดังกล่าวต่อตลาดหลักทรัพย์ทันที ซึ่งกรณีดังกล่าวตลาดหลักทรัพย์ได้เคยแจ้งให้บริษัทชี้แจงเหตุล่าช้ามาครั้งหนึ่งแล้ว
นอกจากนี้ บริษัทยังไม่ได้ชี้แจงข้อมูลตามที่ตลาดหลักทรัพย์สอบถามดังนี้
1. กรณีการขอฟื้นฟูกิจการผ่านศาลฯ ในประเด็นการมีหนี้สินล้นพ้นตัวภายในระยะเวลาอันสั้น ที่มาของมูลหนี้ ซึ่งมีข้อเท็จจริงที่ไม่สอดคล้องกัน และไม่สอดคล้องกับที่เคยแจ้งต่อตลาดหลักทรัพย์ รวมถึงความเห็นของคณะกรรมการในการพิจารณาหนี้ที่เกิดจากการเรียกร้องค่าเสียหาย และค่าขาดประโยชน์เป็นภาระหนี้ทั้งจำนวนของบริษัทจนเป็นเหตุให้บริษัทมีหนี้สินล้นพ้นตัว (รายละเอียดปรากฏตามข่าวของบริษัทวันที่ 19 มิถุนายน 2560)
2. กรณีผู้ถือหุ้นใช้สิทธิจัดประชุมผู้ถือหุ้นตาม พ.ร.บ.มหาชน ในวันที่ 16 กรกฎาคม 2560 ในประเด็นการหารือกับที่ปรึกษากฎหมาย และหน่วยงานที่กำกับดูแลกฎหมายที่เกี่ยวข้องกรณีที่คณะกรรมการเห็นว่า การจัดประชุมดังกล่าวไม่ถูกต้องตามกฎหมาย และสรุปคะแนนเสียงในแต่ละวาระการประชุม (รายละเอียดปรากฏตามข่าวของบริษัทวันที่ 20 กรกฎาคม 2560)
3. ความคืบหน้าในการรับคืนเงินมัดจำเพื่อจะซื้อที่ดินย่านพหลโยธิน 350 ล้านบาท และรายละเอียดการให้เงินกู้ยืมแก่บริษัทไซมิส แอ็คคอม จำกัด 160 ล้านบาท (รายละเอียดปรากฏตามข่าวของบริษัทวันที่ 8 พฤษภาคม 2560) ตลาดหลักทรัพย์ขอเรียนว่า กรรมการและผู้บริหารของบริษัทซึ่งเป็นบริษัทจดทะเบียนมีหน้าที่ และความรับผิดชอบที่ต้องเปิดเผยสารสนเทศสำคัญ ซึ่งส่งผลกระทบต่อสิทธิประโยชน์ของผู้ถือหุ้น และการตัดสินใจลงทุนอย่างครบถ้วน ถูกต้อง และทันเวลา รวมทั้งต้องปฏิบัติตามข้อบังคับที่เกี่ยวข้องอย่างเคร่งครัด
ทั้งนี้ ข้อมูลที่ตลาดหลักทรัพย์สอบถามเป็นข้อเท็จจริงซึ่งอยู่ในวิสัยที่บริษัทสามารถชี้แจงได้ภายในเวลาที่กำหนด ตลาดหลักทรัพย์จึงขอให้บริษัทเร่งดำเนินการชี้แจงข้อมูลดังกล่าวผ่านระบบของตลาดหลักทรัพย์ภายในวันที่ 7 สิงหาคม 2560