xs
xsm
sm
md
lg

ตลท. ให้ POLAR แจงเพิ่มกรณีฟื้นฟูกิจการภายใน 21 มิ.ย. นี้

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online


ตลท. ให้ POLAR แจงเพิ่มกรณีฟื้นฟูกิจการภายใน 21 มิ.ย. นี้ หลังพบข้อเท็จเท็จจริงไม่สอดคล้องกัน

ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) ขอให้ บมจ. โพลาริส แคปปิตัล (POLAR) ชี้แจงข้อมูลเพิ่มเติมกรณีบริษัทยื่นคำร้องขอฟื้นฟูกิจการ โดยเผยแพร่ผ่านระบบตลาดหลักทรัพย์ภายในวันที่ 21 มิถุนายน 2560 เนื่องจากคำชี้แจงของบริษัทมีข้อเท็จจริงที่ไม่สอดคล้องกัน และไม่สอดคล้องกับข้อมูลที่บริษัทได้เคยแจ้งต่อตลาดหลักทรัพย์

ทั้งนี้ ตลท. ให้ POLAR ชี้แจงกรณีที่บริษัทยื่นคำร้องขอฟื้นฟูกิจการผ่านศาลล้มละลาย เนื่องจากมีหนี้สินล้นพ้นตัว ขณะที่งบการเงินประจำปี 2559 (ฉบับล่าสุด) บริษัทมีหนี้สินรวม 465 ล้านบาท และมีส่วนผู้ถือหุ้น 4,580 ล้านบาท ซึ่งส่งผลกระทบต่อสิทธิประโยชน์ของผู้ถือหุ้นอย่างมีนัยสำคัญ โดยที่บริษัทไม่ได้เปิดเผยข้อมูลต่อ ตลท. นั้น ทางบริษัทชี้แจงว่า เพราะยังมีความไม่แน่นอนในกระบวนการฟื้นฟูกิจการว่า ศาลฯ จะมีคำสั่งเป็นประการใด และสาเหตุที่บริษัทยื่นคำร้องขอฟื้นฟูกิจการ เนื่องจากบริษัทมีภาระหนี้รวม 5,254 ล้านบาท ทำให้บริษัทมีหนี้สินล้นพ้นตัว

ตามข้อกำหนดของ ตลท. ว่าด้วยเรื่องแนวทางการเปิดเผยข้อมูลของบริษัทจดทะเบียนกำหนดว่า บริษัทจดทะเบียนมีหน้าที่ต้องเปิดเผยข้อมูลทันทีเมื่อบริษัทจดทะเบียน หรือเจ้าหนี้ยื่นคำร้องขอฟื้นฟูกิจการ ดังนั้น การที่บริษัทยื่นคำร้องขอฟื้นฟูกิจการผ่านศาลล้มละลาย เมื่อวันที่ 9 พฤษภาคม 2560 โดยไม่เปิดเผยข้อมูลดังกล่าว จึงถือว่าเป็นการปฏิบัติไม่เป็นไปตามข้อกำหนดของ ตลท. นอกจากนี้ มีข้อเท็จจริงที่ไม่สอดคล้องกัน และไม่สอดคล้องกับข้อมูลที่บริษัทได้เคยแจ้งต่อ ตลท.

ดังนั้น ตลท. จึงขอให้บริษัทชี้แจงเพิ่มเติม และเผยแพร่ผ่านระบบของตลาดหลักทรัพย์ภายในวันที่ 21 มิถุนายน 2560

สำหรับสรุปลำดับเหตุการณ์สำคัญตามที่บริษัทชี้แจงได้ ดังนี้ วันที่ 3 พฤษภาคม 2560 คณะกรรมการบริษัทพิจารณาอนุมัติงบการเงินปี 2559, วันที่ 8 พฤษภาคม 2560 คณะกรรมการบริษัทเชิญที่ปรึกษากฏหมาย และทนายความของบริษัทเข้าร่วมประชุม ให้ความเห็นเกี่ยวกับการดำเนินการต่างๆ ตามที่ศาลมีคำสั่งยกเลิกการฟื้นฟูกิจการ และการต่อสู้คดีกับบุคคลที่ฟ้องร้องบริษัท จำนวน 3 ราย ตามข้อ 1-3 รวมทั้งนำส่งงบการเงินปี 2559 เผยแพร่ผ่านระบบของตลาดหลักทรัพย์ฯ และวันที่ 9 พฤษภาคม 2560 บริษัทยื่นคำร้องขอฟื้นฟูกิจการต่อศาลฯ โดยระบุหนี้ที่บุคคลทั้ง 3 รายฟ้องดำเนินคดีเป็นส่วนหนึ่งของหนี้ที่ยื่นขอฟื้นฟูกิจการ

ทั้งนี้ สรุปข้อมูลที่โจทก์ยื่นฟ้องบริษัทได้ดังนี้ คดีดำที่ 343/2560 โจทก์ คือ บริษัท ซิมบา อินเตอร์ จำกัด ฟ้องค่าเสียหายจากการวางแผนโครงการพังงา มูลหนี้ 503 ล้านบาท โดยได้รับหมายเรียก และสำเนาคำฟ้อง วันที่ 2 พฤษภาคม 2560, คดีดำที่ 2082/2560 โจทก์ คือ บริษัท ยูไนเต็ด เทรดดิ้ง กรุ๊ป จำกัด ฟ้องค่าเสียหาย และค่าขาดประโยชน์จากการยกเลิกการลงทุนโครงการพังงา มูลหนี้ 2,772 ล้านบาท โดยได้รับหมายเรียก และสำเนาคำฟ้อง วันที่ 21 พฤษภาคม 2560 และคดีดำที่ 2127/2560 โจทก์ คือ นายกำแหง หุ่นหิรัณย์สาย ฟ้องเรียกให้ชำระหนี้ และค่าเสียหายจากการยกเลิกการจำหน่ายหุ้นบริษัท แพลทตินั่ม ออโต้ เซอร์วิส จำกัด มูลหนี้ 345 ล้านบาท โดยได้รับหมายเรียก และสำเนาคำฟ้อง วันที่ 30 พฤษภาคม 2560 รวมมูลค่าทั้งสิ้น 3,620 ล้านบาท

ตลท. ขอให้บริษัทชี้แจงเพิ่มเติมดังนี้ 1. เหตุใดที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทวันที่ 8 พฤษภาคม 2560 จึงสามารถนำมูลหนี้ที่ได้รับหมายเรียก และสำเนาคำฟ้องในวันที่ 21 และ 30 พฤษภาคม 2560 ซึ่งเป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นภายหลังวันที่บริษัทไปยื่นคำร้องขอฟื้นฟูกิจการ ในวันที่ 9 พฤษภาคม 2560 มาใช้ในการพิจารณาว่าบริษัทมีหนี้สินล้นพ้นตัว และใช้เป็นข้อมูลในการยื่นคำร้องขอฟื้นฟูกิจการผ่านศาลฯ ได้

2. กรณีที่บริษัทแจ้งว่า นายกำแหง หุ่นหิรัณย์สาย ฟ้องให้บริษัทชำระหนี้ และค่าเสียหายจากการยกเลิกการจำหน่ายหุ้นบริษัท แพลทตินั่ม ออโต้ เซอร์วิส จำกัด 345 ล้านบาท ซึ่งเป็นหนี้อีกจำนวนหนึ่งที่มีผลทำให้บริษัทพิจารณาว่า มีหนี้สินล้นพ้นตัว และยื่นฟื้นฟูกิจการผ่านศาลฯ นั้น ขณะที่บริษัทได้เคยแจ้งสารสนเทศต่อ ตลท. ดังนี้ วันที่ 18 พฤศจิกายน 2559 คณะกรรมการบริษัทมีมติขายหุ้นบริษัท แพลทตินั่ม ออโต้ เซอร์วิส จำกัด ทั้งหมดให้ นายกำแหง หุ่นหิรัณย์สาย ในราคา 105 ล้านบาท และวันที่ 21 ธันวาคม 2559 คณะกรรมการบริษัทมีมติยกเลิกการจำหน่ายหุ้นดังกล่าว เนื่องจากผู้ซื้อ ไม่มีความประสงค์ที่จะเข้าซื้อหุ้นอีกต่อไป ดังนั้น จึงขอให้บริษัทอธิบายว่า เหตุใดการที่ผู้ซื้อ (นายกำแหง) ซึ่งเป็นผู้ขอยกเลิกการซื้อหุ้นเอง จึงฟ้องร้องเรียกค่าเสียหายจากการยกเลิกการจำหน่ายหุ้นดังกล่าว

3. คณะกรรมการบริษัทได้พิจารณาเพื่อรักษาผลประโยชน์สูงสุดของบริษัท และผู้ถือหุ้นอย่างไร จึงพิจารณาหนี้ที่เกิดจากการเรียกร้องค่าเสียหาย และค่าขาดประโยชน์เป็นภาระหนี้ทั้งจำนวนของบริษัท จนเป็นเหตุให้บริษัทมีหนี้สินล้นพ้นตัว และยื่นขอฟื้นฟูกิจการผ่านศาลฯ

4. ขอให้สรุปข้อมูลของแต่ละคดีที่โจทก์ทั้ง 3 รายฟ้องร้องดังนี้ ได้แก่ รายละเอียดของโจทก์แต่ละราย เช่น วันที่จัดตั้งบริษัท ทุนจดทะเบียน ผู้ถือหุ้นและกรรมการ การประกอบธุรกิจ เป็นต้น ลักษณะการทำธุรกรรมระหว่างบริษัทและโจทก์โดยละเอียด พร้อมระบุวันที่เกิดรายการ และสถานะปัจจุบันของโครงการพังงา สรุปคำฟ้องของโจทก์แต่ละราย
กำลังโหลดความคิดเห็น