ผู้บริหาร “เอ็นเนอร์ยี่ เอิร์ธ” แจงยิบตัวเลขสินทรัพย์รวมทั้งสิ้น 31,828,556,143 บาท และหนี้สินรวมทั้งสิ้น 47,480,010,868 บาทหรือหนี้สินมากกว่าทรัพย์สิน พร้อมเดินหน้าสู้คดีหลังบริษัทคู่ค้าฟ้องเรียกชำระมูลหนี้รวมทั้งสิ้น 26,000 ล้านบาท
นายธนาวรรธน์ ประทุมสุวรรณ์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท เอ็นเนอร์ยี่ เอิร์ธ จำกัด (มหาชน) หรือ EARTH แจ้งว่า ตามที่ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย หรือ ตลท. ได้ให้บริษัทชี้แจงข้อมูลกรณีบริษัทยื่นคําร้องขอฟื้นฟูกิจการต่อศาลล้มละลายกลางนั้น บริษัทได้ชี้แจงข้อมูล ดังนี้
ตลท. ขอให้อธิบายว่า บริษัทมีหนี้สินมากกว่าทรัพย์สินอย่างไร โดยตามที่บริษัทได้ชี้แจงว่า การที่บริษัทผิดนัดชำระหนี้บรรดาหนี้ตั๋วแลกเงิน หนี้สินเชื่อเพื่อการค้าระหว่างประเทศ หนี้หุ้นกู้ และหนี้กับสถาบันการเงินอื่น ๆ ส่งผลให้บริษัทถูกระงับการใช้วงเงินสินเชื่อจากสถาบันการเงินทุกแห่งที่บริษัทใช้อยู่ ซึ่งเหตุการณ์ดังกล่าวส่งผลกระทบต่อความน่าเชื่อถือในการประกอบธุรกิจของบริษัท และส่งผลให้การประกอบธุรกิจของบริษัทมีการชะลอตัวลงอย่างมีนัยสำคัญ ส่งผลให้คู่ค้าของบริษัทหลายรายได้เริ่มดำเนินการใช้บรรดาสิทธิเรียกร้องต่อบริษัทเพิ่มมากขึ้นนั้น
เนื่องจากบริษัทได้รับหนังสือทวงถามจากเจ้าหนี้จำนวนหลายราย ซึ่งบริษัทได้ปฏิเสธการชำระหนี้ เนื่องจากไม่สามารถชำระหนี้ตามที่เรียกร้องมาได้ อย่างไรก็ตาม หากบรรดาเจ้าหนี้ และคู่ค้าทั้งหลาย ดำเนินการฟ้องร้องบริษัท จะทำให้บริษัทตกอยู่ในภาวะที่มีหนี้สินเพิ่มมากกว่าทรัพย์สินก่อนวันที่คณะกรรมการบริษัทอนุมัติให้บริษัทยื่นคำร้องขอฟื้นฟูกิจการของบริษัทต่อศาลล้มละลายกลางนั้น
บริษัทได้รับแจ้งจากคู่ค้าของบริษัทว่า ได้ยื่นฟ้องบริษัทต่อศาลที่มีเขตอำนาจเป็นยอดหนี้รวมทั้งสิ้นกว่า 26,000 ล้านบาท ซึ่งบริษัทจะดำเนินการต่อสู้คดีในชั้นศาลต่อไป จากเหตุการณ์ดังกล่าวข้างต้น บริษัทมีสินทรัพย์รวมทั้งสิ้น 31,828,556,143 บาท และหนี้สินรวมทั้งสิ้น 47,480,010,868 บาท ส่งผลให้บริษัทมีหนี้สินมากกว่าทรัพย์สิน
กรณีที่สองแจงรายละเอียดของมูลหนี้ โดยแยกเป็นแต่ละกลุ่มเจ้าหนี้ ดังนี้ คือ เงินกู้สถาบันการเงิน 11,032,836,686 บาท, หุ้นกู้ 5,500 ล้านบาท ตั๋วแลกเงิน 2,395,000,000 บาท, เจ้าหนี้การค้าและเจ้าหนี้อื่น 938,239,401 บาท, เงินกู้ยืมระยะสั้นจากบริษัทย่อย 1,205,252,068 บาท ประมาณการหนี้สินที่คาดว่าจะเกิดขึ้น 26,000 ล้านบาท, หนี้สินอื่น ๆ 408,682,713 บาท ส่งลผลให้มูลนี้ทั้งหมดรวม 47,480,010,868 บาท และสุดท้ายในส่วนของทรัพย์สินนั้น มีการตั้งด้อยค่าทรัพย์สินหรือไม่ อย่างไร ซึ่งบริษัทแจงว่า ไม่มีการตั้งด้อยค่าทรัพย์สิน
ทั้งนี้ เมื่อบริษัทมีความคืบหน้าในการฟื้นฟูกิจการประการใด บริษัทจะดำเนินการเผยแพร่ข้อมูลผ่านระบบสารสนเทศของตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยต่อไปโดยทันที
นายธนาวรรธน์ ประทุมสุวรรณ์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท เอ็นเนอร์ยี่ เอิร์ธ จำกัด (มหาชน) หรือ EARTH แจ้งว่า ตามที่ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย หรือ ตลท. ได้ให้บริษัทชี้แจงข้อมูลกรณีบริษัทยื่นคําร้องขอฟื้นฟูกิจการต่อศาลล้มละลายกลางนั้น บริษัทได้ชี้แจงข้อมูล ดังนี้
ตลท. ขอให้อธิบายว่า บริษัทมีหนี้สินมากกว่าทรัพย์สินอย่างไร โดยตามที่บริษัทได้ชี้แจงว่า การที่บริษัทผิดนัดชำระหนี้บรรดาหนี้ตั๋วแลกเงิน หนี้สินเชื่อเพื่อการค้าระหว่างประเทศ หนี้หุ้นกู้ และหนี้กับสถาบันการเงินอื่น ๆ ส่งผลให้บริษัทถูกระงับการใช้วงเงินสินเชื่อจากสถาบันการเงินทุกแห่งที่บริษัทใช้อยู่ ซึ่งเหตุการณ์ดังกล่าวส่งผลกระทบต่อความน่าเชื่อถือในการประกอบธุรกิจของบริษัท และส่งผลให้การประกอบธุรกิจของบริษัทมีการชะลอตัวลงอย่างมีนัยสำคัญ ส่งผลให้คู่ค้าของบริษัทหลายรายได้เริ่มดำเนินการใช้บรรดาสิทธิเรียกร้องต่อบริษัทเพิ่มมากขึ้นนั้น
เนื่องจากบริษัทได้รับหนังสือทวงถามจากเจ้าหนี้จำนวนหลายราย ซึ่งบริษัทได้ปฏิเสธการชำระหนี้ เนื่องจากไม่สามารถชำระหนี้ตามที่เรียกร้องมาได้ อย่างไรก็ตาม หากบรรดาเจ้าหนี้ และคู่ค้าทั้งหลาย ดำเนินการฟ้องร้องบริษัท จะทำให้บริษัทตกอยู่ในภาวะที่มีหนี้สินเพิ่มมากกว่าทรัพย์สินก่อนวันที่คณะกรรมการบริษัทอนุมัติให้บริษัทยื่นคำร้องขอฟื้นฟูกิจการของบริษัทต่อศาลล้มละลายกลางนั้น
บริษัทได้รับแจ้งจากคู่ค้าของบริษัทว่า ได้ยื่นฟ้องบริษัทต่อศาลที่มีเขตอำนาจเป็นยอดหนี้รวมทั้งสิ้นกว่า 26,000 ล้านบาท ซึ่งบริษัทจะดำเนินการต่อสู้คดีในชั้นศาลต่อไป จากเหตุการณ์ดังกล่าวข้างต้น บริษัทมีสินทรัพย์รวมทั้งสิ้น 31,828,556,143 บาท และหนี้สินรวมทั้งสิ้น 47,480,010,868 บาท ส่งผลให้บริษัทมีหนี้สินมากกว่าทรัพย์สิน
กรณีที่สองแจงรายละเอียดของมูลหนี้ โดยแยกเป็นแต่ละกลุ่มเจ้าหนี้ ดังนี้ คือ เงินกู้สถาบันการเงิน 11,032,836,686 บาท, หุ้นกู้ 5,500 ล้านบาท ตั๋วแลกเงิน 2,395,000,000 บาท, เจ้าหนี้การค้าและเจ้าหนี้อื่น 938,239,401 บาท, เงินกู้ยืมระยะสั้นจากบริษัทย่อย 1,205,252,068 บาท ประมาณการหนี้สินที่คาดว่าจะเกิดขึ้น 26,000 ล้านบาท, หนี้สินอื่น ๆ 408,682,713 บาท ส่งลผลให้มูลนี้ทั้งหมดรวม 47,480,010,868 บาท และสุดท้ายในส่วนของทรัพย์สินนั้น มีการตั้งด้อยค่าทรัพย์สินหรือไม่ อย่างไร ซึ่งบริษัทแจงว่า ไม่มีการตั้งด้อยค่าทรัพย์สิน
ทั้งนี้ เมื่อบริษัทมีความคืบหน้าในการฟื้นฟูกิจการประการใด บริษัทจะดำเนินการเผยแพร่ข้อมูลผ่านระบบสารสนเทศของตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยต่อไปโดยทันที