ตามที่ ตลาดหลักทรัพย์ฯ ได้ขอให้บริษัท เอ็นเนอร์ยี่ เอิร์ธ จำกัด (มหาชน) หรือ EARTH ชี้แจงข้อมูลกรณีบริษัทยื่นคําร้องขอฟื้นฟูกิจการต่อศาลล้มละลายกลางนั้น บริษัทขอชี้แจงข้อมูล ดังนี้
1. ขอให้อธิบายว่าบริษัทมีหนี้สินมากกว่าทรัพย์สินอย่างไร
ตามที่ บริษัทได้ชี้แจงว่า การที่บริษัทผิดนัดชำระหนี้บรรดาหนี้ตั๋วแลกเงิน หนี้สินเชื่อเพื่อการค้าระหว่างประเทศ หนี้หุ้นกู้ และหนี้กับสถาบันการเงินอื่น ๆ ส่งผลให้บริษัทถูกระงับการใช้วงเงินสินเชื่อจากสถาบันการเงินทุกแห่งที่บริษัทใช้อยู่
ซึ่งเหตุการณ์ดังกล่าวได้ ส่งผลกระทบต่อความน่าเชื่อถือในการประกอบธุรกิจของบริษัท และส่งผลให้การประกอบธุรกิจของบริษัทมีการชะลอตัวลงอย่างมีนัยสำคัญ ส่งผลให้คู่ค้าของบริษัทหลายรายได้เริ่มดำเนินการใช้บรรดาสิทธิเรียกร้องต่อบริษัทเพิ่มมากขึ้นนั้น เนื่องจากบริษัทได้รับหนังสือทวงถามจากเจ้าหนี้จำนวนหลายราย ซึ่งบริษัทได้ปฏิเสธการชำระหนี้ เนื่องจากไม่สามารถชำระหนี้ตามที่เรียกร้องมาได้
อย่างไรก็ตาม หากบรรดาเจ้าหนี้ และคู่ค้าทั้งหลาย ดำเนินการฟ้องร้องบริษัท จะทำให้บริษัทตกอยู่ในภาวะที่มีหนี้สินเพิ่มมากกว่าทรัพย์สินก่อนวันที่คณะกรรมการบริษัทอนุมัติให้บริษัทยื่นคำร้องขอฟื้นฟูกิจการของบริษัทต่อศาลล้มละลายกลางนั้น บริษัทได้รับแจ้งจากคู่ค้าของบริษัทว่า ได้ยื่นฟ้องบริษัทต่อศาลที่มีเขตอำนาจเป็นยอดหนี้รวมทั้งสิ้นกว่า26,000,000,000 บาท ซึ่งบริษัทจะดำเนินการต่อสู้คดีในชั้นศาลต่อไป
จากเหตุการณ์ดังกล่าวข้างต้น บริษัทมีสินทรัพย์รวมทั้งสิ้น 31,828,556,143 บาท และหนี้สินรวมทั้งสิ้น 47,480,010,868 บาท ส่งผลให้บริษัทมีหนี้สินมากกว่าทรัพย์สิน
3. ในส่วนของทรัพย์สินนั้น มีการตั้งด้อยค่าทรัพย์สินหรือไม่ อย่างไร
บริษัทไม่มีการตั้งด้อยค่าทรัพย์สิน ทั้งนี้ เมื่อบริษัทมีความคืบหน้าในการฟื้นฟูกิจการประการใด
บริษัทจะดำเนินการเผยแพร่ข้อมูลผ่านระบบสารสนเทศของตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยต่อไปโดยทันที
1. ขอให้อธิบายว่าบริษัทมีหนี้สินมากกว่าทรัพย์สินอย่างไร
ตามที่ บริษัทได้ชี้แจงว่า การที่บริษัทผิดนัดชำระหนี้บรรดาหนี้ตั๋วแลกเงิน หนี้สินเชื่อเพื่อการค้าระหว่างประเทศ หนี้หุ้นกู้ และหนี้กับสถาบันการเงินอื่น ๆ ส่งผลให้บริษัทถูกระงับการใช้วงเงินสินเชื่อจากสถาบันการเงินทุกแห่งที่บริษัทใช้อยู่
ซึ่งเหตุการณ์ดังกล่าวได้ ส่งผลกระทบต่อความน่าเชื่อถือในการประกอบธุรกิจของบริษัท และส่งผลให้การประกอบธุรกิจของบริษัทมีการชะลอตัวลงอย่างมีนัยสำคัญ ส่งผลให้คู่ค้าของบริษัทหลายรายได้เริ่มดำเนินการใช้บรรดาสิทธิเรียกร้องต่อบริษัทเพิ่มมากขึ้นนั้น เนื่องจากบริษัทได้รับหนังสือทวงถามจากเจ้าหนี้จำนวนหลายราย ซึ่งบริษัทได้ปฏิเสธการชำระหนี้ เนื่องจากไม่สามารถชำระหนี้ตามที่เรียกร้องมาได้
อย่างไรก็ตาม หากบรรดาเจ้าหนี้ และคู่ค้าทั้งหลาย ดำเนินการฟ้องร้องบริษัท จะทำให้บริษัทตกอยู่ในภาวะที่มีหนี้สินเพิ่มมากกว่าทรัพย์สินก่อนวันที่คณะกรรมการบริษัทอนุมัติให้บริษัทยื่นคำร้องขอฟื้นฟูกิจการของบริษัทต่อศาลล้มละลายกลางนั้น บริษัทได้รับแจ้งจากคู่ค้าของบริษัทว่า ได้ยื่นฟ้องบริษัทต่อศาลที่มีเขตอำนาจเป็นยอดหนี้รวมทั้งสิ้นกว่า26,000,000,000 บาท ซึ่งบริษัทจะดำเนินการต่อสู้คดีในชั้นศาลต่อไป
จากเหตุการณ์ดังกล่าวข้างต้น บริษัทมีสินทรัพย์รวมทั้งสิ้น 31,828,556,143 บาท และหนี้สินรวมทั้งสิ้น 47,480,010,868 บาท ส่งผลให้บริษัทมีหนี้สินมากกว่าทรัพย์สิน
3. ในส่วนของทรัพย์สินนั้น มีการตั้งด้อยค่าทรัพย์สินหรือไม่ อย่างไร
บริษัทไม่มีการตั้งด้อยค่าทรัพย์สิน ทั้งนี้ เมื่อบริษัทมีความคืบหน้าในการฟื้นฟูกิจการประการใด
บริษัทจะดำเนินการเผยแพร่ข้อมูลผ่านระบบสารสนเทศของตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยต่อไปโดยทันที