ตลาดหลักทรัพย์ฯ แขวนเครื่องหมาย “SP-NP” หลักทรัพย์ของ “โพลาริส” ต่อ หลัก ก.ล.ต. สั่งให้ POLAR สั่งให้จัดทำ Special Audit จากกรณีนำส่งข้อมูลฟื้นฟูกิจการไม่ครบถ้วน
ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย แจ้งว่า ตามที่ตลาดหลักทรัพย์ฯ หยุดพักการซื้อขายหลักทรัพย์ SP (Suspension) ของบริษัทโพลาริส แคปปิตัล จำกัด (มหาชน) หรือ POLAR เนื่องจากบริษัทยังไม่ได้นำส่งงบการเงินไตรมาสที่ 1 ปี 2560 ภายในระยะเวลาที่กำหนด และขึ้นเครื่องหมาย NP (Notice Pending) เนื่องจากบริษัทมีกรรมการตรวจสอบไม่ครบถ้วนตามที่ตลาดหลักทรัพย์ฯ กำหนด และต่อมา ตลาดหลักทรัพย์ฯ ขอให้ POLAR ชี้แจงกรณีบริษัทยื่นคำร้องขอฟื้นฟูกิจการผ่านศาลล้มละลายเมื่อวันที่ 9 พฤษภาคม 2560 เนื่องจากมีหนี้สินล้นพ้นตัว ขณะที่งบการเงินประจำปี 2559 ซึ่งเป็นฉบับล่าสุด ที่บริษัทนำส่งต่อตลาดหลักทรัพย์ฯ เมื่อวันที่ 8 พฤษภาคม 2560 บริษัทมีหนี้สินรวม 465 ล้านบาท และมีส่วนผู้ถือหุ้น 4,580 ล้านบาท
ทั้งนี้ เนื่องจากการฟื้นฟูกิจการผ่านศาลฯ จะส่งผลกระทบต่อสิทธิประโยชน์ของผู้ถือหุ้นอย่างมีนัยสำคัญ ซึ่ง POLAR ได้ชี้แจงข้อมูลดังกล่าวแล้ว แต่คำชี้แจงของบริษัทมีข้อเท็จจริงที่ไม่สอดคล้องกัน และไม่สอดคล้องกับข้อมูลที่บริษัทได้เคยแจ้งต่อตลาดหลักทรัพย์ฯ ดังนั้น ตลาดหลักทรัพย์ฯ จึงให้ POLAR ชี้แจงข้อมูลเพิ่มเติมภายในวันที่ 21 มิถุนายน 2560 แต่ปัจจุบัน บริษัทยังไม่ได้ชี้แจงข้อมูลดังกล่าว
ต่อมา วันที่ 23 มิถุนายน 2560 สำนักงาน ก.ล.ต. ได้สั่งให้ POLAR จัดให้มีผู้สอบบัญชีตรวจสอบเป็นกรณีพิเศษ (Special Audit) เกี่ยวกับที่มา ความมีอยู่จริงความครบถ้วนในการบันทึกบัญชี และการเปิดเผยข้อมูลหนี้สินที่บริษัทแจ้งไว้ในคำร้องขอฟื้นฟูกิจการ เนื่องจากข้อมูลหนี้สินที่บริษัทเปิดเผยในงบการเงินแตกต่างจากคำร้องขอฟื้นฟูกิจการอย่างมีนัยสำคัญ หากข้อมูลดังกล่าวไม่ถูกต้องอาจส่งผลกระทบต่อสิทธิของผู้ถือหุ้นอย่างมีนัยสำคัญ หรือต่อการตัดสินใจของผู้ลงทุนได้ โดยให้ส่งผลการตรวจสอบต่อสำนักงาน ก.ล.ต. พร้อมทั้งเปิดเผยข้อมูลผ่านระบบสารสนเทศของตลาดหลักทรัพย์ฯ ภายใน 30 วัน (รายละเอียดตามข่าวของ POLAR วันที่ 5, 14, 19 มิถุนายน 2560 และข่าวของสำนักงาน ก.ล.ต. วันที่ 23 มิถุนายน 2560)
ดังนั้น ตลาดหลักทรัพย์ฯ จึงยังคงขึ้นเครื่องหมาย SP และ NP หลักทรัพย์ POLAR ต่อไป จนกว่าบริษัทจะนำส่งงบการเงินไตรมาสที่ 1 ปี 2560 ผลการทำ Special Audit และคำชี้แจงตามที่ตลาดหลักทรัพย์ฯ สอบถามได้ครบถ้วน และชัดเจน เนื่องจากเป็นข้อมูลสำคัญที่กระทบต่อฐานะการเงิน และผลการดำเนินงานของบริษัท รวมทั้งเป็นสารสนเทศสำคัญต่อการตัดสินใจลงทุน
