xs
xsm
sm
md
lg

“บี. กริม เพาเวอร์” เปิดเทรดวันแรกเหนือจอง บอร์ดแย้มแผนร่วมทุน 50% ทำโซลาร์ฟาร์มในมาเลย์สิ้นปีนี้ ต่อยอดไปฟิลิปปินส์-เวียดนาม

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online


“บี. กริม เพาเวอร์” เปิดเทรด IPO วันแรกราคาหุ้นเหนือจอง ประธานบอร์ดพอใจที่นักลงทุนให้ความเชื่อมั่นยอมรับหุ้น เผยจะนำเงินที่ได้จากการระดมทุนประมาณ 60% ไปชำระหนี้ที่มีอยู่ ขณะที่ส่วนที่เหลือจะเป็นเงินลงทุนในโครงการโรงไฟฟ้า และเป็นเงินทุนหมุนเวียนภายในบริษัทต่อไป แย้มแผนการขยายธุรกิจต่อเนื่องในกลุ่มประเทศ AEC ตั้งเป้าผลิตไฟฟ้าให้ได้ 5,000 เมกะวัตต์ ภายใน 5 ปี

รายงานจากตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยถึงการเข้าซื้อขายหุ้นสามัญแก่ประชาชน IPO เป็นครั้งแรกของ บมจ. บี. กริม เพาเวอร์ หรือ BGRIM โดยทันทีที่เปิดตลาดราคาหุ้นได้ปรับตัวขึ้นไปอยู่ที่ 17.00 บาทต่อหุ้น สูงกว่าราคา IPO ที่ 16.00 บาทต่อหุ้น หรือปรับตัวขึ้น 6.25% มูลค่าการซื้อขาย 770.55 ล้านบาท  โดยบริษัทเสนอขายหุ้น IPO จำนวน 716.9 ล้านหุ้น หรือคิดเป็น 27.4% ของจำนวนหุ้นที่จดทะเบียนชำระแล้วทั้งหมด

นางปรียนาถ สุนทรวาทะ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท บี. กริม เพาเวอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ BGRIM กล่าวว่า ภาพรวมมีความพอใจในราคาหุ้นในการเข้าซื้อขายวันแรก ซึ่งบริษัทมีแผนที่จะนำเงินจากการระดมทุนประมาณ 60% ไปชำระหนี้ที่มีอยู่ ขณะที่ส่วนที่เหลือจะเป็นเงินลงทุนในโครงการโรงไฟฟ้า และเป็นเงินทุนหมุนเวียนภายในบริษัทต่อไป นอกจากนี้ บริษัทอยู่ระหว่างการตรวจสอบวิเคราะห์กิจการ (Due Deligence) เพื่อร่วมลงทุนในโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ (โซลาร์ฟาร์ม) ในประเทศมาเลเซีย กำลังการผลิตที่ 180 เมกะวัตต์ โดยคาดว่าจะสามารถสรุปเซ็นสัญญาการร่วมลงทุนได้ภายในสิ้นปีนี้ ซึ่งตั้งเป้าสัดส่วนการถือหุ้นไม่ต่ำกว่า 50% และประเมินงบการลงทุนขั้นต้นจะใช้งบลงทุน 30-40 ล้านบาทต่อเมกะวัตต์

ขณะเดียวกัน บริษัทยังได้ศึกษาเพื่อเตรียมเข้าไปลงทุนในโครงการ โรงไฟฟ้าพลังงานน้ำเซกอง ในประเทศลาว กำลังการผลิตรวมกว่า 300-400 เมกะวัตต์ และยังวางแผนในการขยายการลงทุนไปยังโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ในประเทศฟิลิปินส์ และเวียดนาม ซึ่งยังไม่สามารถสรุปความชัดเจนได้ในขณะนี้ เนื่องจากต้องพิจารณาความเสี่ยง และความคุ้มค่าในการเข้าไปลงทุน

นอกจากนี้ บริษัทอยู่ระหว่างการก่อสร้างสายส่งไฟฟ้าในประเทศกัมพูชา เพื่อจำหน่ายไฟฟ้าให้แก่นิคมอุตสาหกรรมในประเทศกัมพูชา มูลค่าการลงทุนที่ 3-4 ล้านเหรียญสหรัฐ โดยประเมินว่า การก่อสร้างจะแล้วเสร็จภายในปลายปีนี้ และจะเริ่มรับรู้รายได้ทันทีในปี 2561

“ปัจจุบัน บริษัทมีกำลังผลิตไฟฟ้ารวมทั้งหมด 1,626 เมกะวัตต์ และมีสัญญาใบอนุญาตขายไฟฟ้า หรือ PPA ทั้งหมดกว่า 2,500 เมกะวัตต์ จากทั้งหมด 28 โครงการ และกำลังการผลิตไอน้ำกว่า 350 ตันต่อ ชม. (ณ สิ้นงวด 1/2560) ซึ่ง BGRIM มีสัดส่วนความเป็นเจ้าของกว่า 920.1 MW และ 219.7 ตันต่อ ชม. ตามลำดับ โดยบริษัทฯ มีเป้าหมายเพิ่มกำลังผลิตให้ได้ไม่น้อยกว่า 5,000 เมกะวัตต์ ภายใน 5 ปีข้างหน้า ส่วนการเพิ่มกำลังการผลิตที่เหลืออีกประมาณ 2,500 เมกะวัตต์ คาดว่าจะใช้งบลงทุนประมาณ 1 แสนล้านบาท หรือคิดเป็นเงินลงทุนเฉลี่ย 40-50 ล้านบาทต่อเมกะวัตต์”

ทั้งนี้ บมจ. บี. กริม เพาเวอร์ เป็นบริษัทเข้าลงทุนในบริษัทอื่นหรือ Holding Co. ในหมวดธุรกิจพลังงานและสาธารณูปโภค ที่ถือหุ้นในผู้ผลิตและจำหน่ายไฟฟ้า (จากพลังความร้อนร่วม แสงอาทิตย์ น้ำ ลม และเชื้อเพลิงน้ำมันดีเซล) ผลิตและจำหน่ายไอน้ำ และธุรกิจเกี่ยวข้องทั้งในและต่างประเทศ โดยจัดเป็นหนึ่งในผู้ผลิตไฟฟ้า SPP รายใหญ่ที่สุดของไทยด้วยโครงการที่ COD แล้วกว่า 1,625.7 MW โดยบริษัทมีแผนก่อสร้างโรงไฟฟ้าอีก 731.2 MW จาก 15 โครงการ (ทำสัญญาซื้อขายไฟฟ้าแล้ว 5 โครงการ หรือราว 46%) และกำลังผลิตไอน้ำอีก 500 ตันต่อ ชม. ภายใน ปี 64 (คิดเป็นสัดส่วนที่ BGRIM มีความเป็นเจ้าของที่ 595.9 MW และ 340.3 ตันต่อ ชม.)
กำลังโหลดความคิดเห็น