xs
xsm
sm
md
lg

BGRIM เคาะราคา IPO สุดท้ายที่ 16 บาทต่อหุ้น เตรียมเข้าเทรด 19 ก.ค. นี้

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online


BGRIM เคาะราคา IPO สุดท้ายที่ 16 บาทต่อหุ้น เตรียมเข้าเทรดใน SET วันที่ 19 ก.ค. นี้ ภายใต้หมวดอุตสาหกรรมพลังงาน และสาธารณูปโภค

นางปรียนาถ สุนทรวาทะ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ. บี.กริม เพาเวอร์ (BGRIM) เปิดเผยว่า บริษัทฯ เคาะราคาเสนอขายสุดท้ายสำหรับหุ้นสามัญเพิ่มทุนที่เสนอขายต่อประชาชนทั่วไปเป็นครั้งแรก (IPO) ที่ 16 บาทต่อหุ้น โดยคาดว่าหุ้น BGRIM จะเริ่มซื้อขายบนตลาดหลักทรัพย์ (SET) วันแรก ภายใต้หมวดอุตสาหกรรมพลังงาน และสาธารณูปโภค ในวันที่ 19 ก.ค. 60

การเสนอขาย IPO ของ BGRIM ให้กับนักลงทุนในช่วงที่ผ่านมา ถือว่าได้รับการตอบรับที่ดีจากนักลงทุนสถาบันที่มีชื่อเสียงทั้งในและต่างประเทศ ซึ่งสะท้อนความเชื่อมั่นของนักลงทุนที่มีต่อบริษัท และศักยภาพของบริษัทในการขยายธุรกิจ และความแข็งแกร่งในอุตสาหกรรมผลิตไฟฟ้าในระดับภูมิภาค ทำให้บริษัทมองว่า ราคาขายสุดท้ายที่ 16 บาทต่อหุ้น เป็นราคาที่เหมาะสม เมื่อคำนึงถึงคุณภาพของนักลงทุนสถาบันที่แสดงความสนใจจองซื้อ ประกอบกับภาวะของตลาดหลักทรัพย์ และเสถียรภาพของราคาหุ้น หลังจากการจดทะเบียนใน SET

สำหรับนักลงทุนทั่วไปที่ทำการจองซื้อเข้ามาที่ราคา 16.50 บาทต่อหุ้น ผู้จัดจำหน่ายและรับประกันการจัดจำหน่ายจะดำเนินการคืนเงินส่วนต่างให้แก่ผู้จองซื้อทุกคนตามวิธีการที่ระบุไว้ในหนังสือชี้ชวน

“เรามีความสามารถที่จะขายในราคา 16.50 บาทต่อหุ้นอยู่แล้ว แต่เราเลือกที่จะไม่ขายราคานั้น เพราะเรามองในระยะยาวถึงนักลงทุนที่จะเข้ามาถือหุ้นกับเรา เราจึงหาราคาที่เป็นจุดเหมาะสมทั้งผู้ขายและผู้ซื้อ ขณะที่เรามีความต้องการว่า ภายหลัง IPO แล้ว เราอยากให้หุ้นมีเสถียรภาพในอนาคต” นางปรียานาถ กล่าว

ทั้งนี้ บริษัทฯ จะนำเงินที่ได้จากการะดมทุนในครั้งนี้ จำนวน 11,470 ล้านบาท ไปใช้คืนเงินกู้จากสถาบันทางการเงิน เพื่อลดหนี้สินต่อทุน (D/E) ให้เหลือไม่เกิน 2 เท่า และทยอยลดลงให้เหลือ 1.5 เท่าภายใน 3 ปีข้างหน้า จากปัจจุบันมี D/E อยู่ที่ 3.4 เท่า และใช้ลงทุนโครงการโรงไฟฟ้าที่อยู่ระหว่างการก่อสร้างและพัฒนาโครงการที่จะเกิดขึ้นในอนาคต และที่เหลือจะใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียน

ด้านผลการดำเนินงาน บริษัทฯ ตั้งเป้ารักษาระดับ EBITDA margin ไว้ที่ 27% ต่อปี เป็นไปตามการจำหน่ายไฟฟ้าเชิงพาณิชย์ (COD) ที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยปีนี้คาดว่าจะสามารถ COD โรงไฟฟ้าพลังงานน้ำขนาดเล็กที่ สปป.ลาว ขนาด 20 เมกะวัตต์ ได้เพิ่มภายในสิ้นเดือน ก.ค. นี้ ขณะที่ปีหน้ามีเป้าหมายการ COD โรงไฟฟ้าพลังงานความร้อนร่วมโคเจนเนอเรชันที่นิคมอุตสาหกรรมอมตะซิตี้ จ. ระยอง จำนวน 3 โรง ขนาด 130 เมกะวัตต์ต่อโรง และโรงไฟฟ้าพลังงานน้ำขนาดเล็ก สปป.ลาว ขนาด 15 เมกะวัตต์ จากปัจจุบัน บริษัทฯ มีการ COD โรงไฟฟ้าแล้ว จำนวน 28 แห่ง กำลังการผลิตรวม 1,626 เมกะวัตต์

ปัจจุบัน บริษัทฯ มีกำลังการผลิตไฟฟ้าในมือ (PPA) อยู่ที่ 2,400 เมกะวัตต์ จะสามารถ COD ได้ครบทั้งหมดในปี 63 ขณะที่ตั้งเป้าหมายกำลังการผลิตไฟฟ้าในมือเพิ่มขึ้นในปี 63 แตะ 5,000 เมกะวัตต์ ตามการขยายการลงทุนไปยังต่างประเทศ เช่น มาเลเซีย และกัมพูชา รวมถึงการลงทุนในประเทศไทยด้วย ประกอบกับขณะนี้บริษัทฯ อยู่ระหว่างเตรียมเข้าประมูลโรงไฟฟ้า SPP ภาครัฐ กำลังการผลิตรวม 300 เมกะวัตต์ ซึ่ง BGRIM ถือว่ามีศักยภาพสูง โดยมีที่ดินและสายส่งเข้าถึงรองรับไว้แล้ว

“บี.กริม เพาเวอร์ ขอบคุณนักลงทุนทุกท่านที่ได้ให้ความเชื่อมั่นในบริษัท เราจะมุ่งหน้าพัฒนาโครงการโรงไฟฟ้าให้แล้วเสร็จตามกำหนด และเดินหน้าขยายธุรกิจโดยการเพิ่มกำลังการผลิตไฟฟ้าของกลุ่มบริษัทอย่างต่อเนื่องทั้งในและต่างประเทศ” นางปรียนาถ กล่าว
กำลังโหลดความคิดเห็น