แรงกดดันจากการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยสหรัฐฯ ยังทำให้ทองคำถูกลดบทบาท ประเมินแนวรับแข็งแกร่งอยู่ที่ 1,213 เหรียญ/ออนซ์ แต่ควรจับตาความเคลื่อนไหวของค่าเงินบาทอย่างใกล้ชิด
“วรุต รุ่งขำ” ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์ วายแอลจี บูลเลียน แอนด์ ฟิวเจอร์ส กล่าวถึงราคาทองคำที่ผ่านมา ต้องบอกว่าราคามีการผันผวนมากยิ่งขึ้น ทั้งนี้ ราคาทองคำยังคงโดนกดดันจากราคาพันธบัตรผลตอบแทนของสหรัฐฯ และประเทศอื่นๆ ที่มีการปรับตัวเพิ่มสูงขึ้น ซึ่งเป็นการบ่งชี้ หรือแสดงให้เห็นถึงทิศทางดอกเบี้ยที่ปรับตัวเพิ่มสูงขึ้น และยังคงกดดันผลตอบแทนราคาทองคำ อย่างไรก็ตาม พอราคามีการปรับฐาน หรืออ่อนตัวลง ยังคงมีแรงซื้อหนุนราคาทองคำให้มีการดีดตัวขึ้น หลังจากในส่วนของวุฒิสภาสหรัฐฯ มีการส่งสัญญาณปฎิเสธในการอนุมัติร่างกฎหมายประกันสุขภาพของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ สถานการณ์ดังกล่าวแสดงให้เห็นถึงการบริหารและการรวบรวมเสียงจากวุฒิสภา ในการผ่านร่างกฎหมายดังกล่าว และทำให้นักลงทุนคาดการณ์ว่า ร่างกฎหมายต่างๆ ที่ออกโดยรัฐบาลสหรัฐฯ อาจจะผ่านสภาค่อนข้างยาก
สำหรับปัจจัยที่ยังคงต้องจับตา อาจจะต้องจับตาการลงคะแนนเสียงในการผ่านร่างกฎหมายเกี่ยวกับประกันสุขภาพ ที่ถูกเลื่อนออกมา ซึ่งหากประเด็นดังกล่าวยังไม่สามารถผ่าน หรือได้รับการอนุมัติจากวุฒิสภา อาจจะกลับมาเป็นปัจจัยตัวหนึ่งที่ส่งผลเชิงบวกต่อราคาทองคำอีกทางหนึ่ง
ทั้งนี้ ตัวเลขเศรษฐกิจในฝั่้่งสหรัฐฯ ยังเป็นอีกปัจจัยตัวหนึ่งที่ยังคงขับเคลื่อนราคาทองคำ เพราะที่ผ่านมา จะเห็นได้ค่อนข้างชัดว่าตัวเลขเศรษฐกิจในฝั่้งสหรัฐฯ บางตัวชะลอตัวลง ทำให้ราคาทองคำมีการรีบราวนด์ หรือดีดตัวขึ้นในบางช่วง โดยจะมีการเปิดเผยตัวเลขการจ้างงานนอกภาคการเกษตร ซึ่งข้อมูลดังกล่าวจะทำให้นักลงทุนเห็นทิศทางภาคการตลาดแรงงานที่ชัดเจนมากยิ่งขึ้น รวมถึงจะมีการเปิดเผยรายงานการประชุมของคณะกรรมการ FOMC ซึ่งจะเห็นถึงการลงมติ หรือการดำเนินการถอดมาตราการกระตุ้นเศรษฐกิจของธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) อย่างไรแล้วอาจจะต้องจับตาการเคลื่อนไหวของทิศทางเงินบาทเพิ่มเติมด้วย
ทำให้กลยุทธ์การลงทุน จะเห็นว่าราคาทองคำยังคงมีแรงขายทำกำไรออกมาอย่างต่อเนื่อง และยังมีการย่อตัวปรับระดับต่ำสุดครั้งใหม่ ทั้งนี้ นักลงทุนอาจจับตาดูในส่วนของแนวรับ 1,236 เหรียญดอลลาร์/ออนซ์ หากราคาสามารถตั้งฐานได้ สามารถเข้าซื้อเพื่อทำกำไรระยะสั้นจากการดีดตัว แต่อย่างไรก็ตาม หากราคามีการรีบรานด์ให้จับตาดูในโซนแนวต้านระดับ 1,254-1,266 เหรียญดอลลาร์/ออนซ์ ว่าราคาจะยืนที่ระดับดังกล่าวได้แข็งแกร่งหรือไม่ หากยังยืนในระดับ 1,266 ไม่ได้ แนะนำให้แบ่งทองคำออกขายเพื่อลดความเสี่ยงแล้วรอการอ่อนตัวลงมาของราคาเพื่อทำการเข้าซื้อเพื่อทำกำไรระยะสั้นจากการดีดตัวอีกครั้ง
ขณะเดียวกัน หากราคามีการทำระดับต่ำสุดครั้งใหม่จนหลุดบริเวณ 1,236 เหรียญดอลลาร์/ออนซ์ หรือยืนเหนือระดับดังกล่าวไม่ได้ อาจจะต้องถอยระดับการเข้าซื้อไปยังโซนแนบรับระดับ 1,223-1,213 เหรียญดอลลาร์/ออนซ์ ซึ่งบริเวณ 1,213 เหรียญดอลลาร์/ออนซ์ ยังถือเป็นแนวรับที่่ค่อนข้างแข็งแกร่ง นักลงทุนสามารถเข้าสะสมทองคำเพิ่มเติมได้ นอกจากนี้ ควรจับตาดูความเคลื่อนไหวอย่างใกล้ชิด พร้อมการปรับพอร์ต หรือปรับกลยุทธ์ตามความเคลื่อนไหว
