ผลประชุมเฟดสร้างความผันผวนต่อราคาทองคำ ประเมินหากยืนเหนือ 1,295 เหรีญ/ออนซ์ไม่ได้ แนะนำ ทยอยแบ่งขายเพื่อลดความเสี่ยง หลังพบสัญญาณดอลลาร์สหรัฐอาจกลับมาแข็งค่าต่อ เมื่อน้ำหนักข้อมูลปลด “ทรัมป์” ไม่มีอะไรแปลกใหม่
“วรุต รุ่งขำ” ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์ วายแอลจี บูลเลี่ยน แอนด์ ฟิวเจอรส์ แสดงความเห็นถึงทิศทางราคาทองคำ ว่า ภาพรวมของราคาทองคำที่ผ่านมาค่อนข้างสดใส ราคามีการทะยานขึ้นไปแตะระดับสูงสุดในรอบ 7 เดือน สูงสุดบริเวณ 1,295 เหรียญดอลลาร์/ออนซ์ แต่อย่างไรก็ตาม ยังมีแรงขายทำกำไรสลับออกมา หลังจากมีความชัดเจนในหลายกรณีที่เป็นปัจจัยชี้นำราคาทองคำ
“ราคาทองคำถูกกดดันจากการประชุมของธนาคารกลางยุโรป (ECB) ที่มีมติดึงอัตราดอกเบี้ยตามนโยบายเอาไว้ตามเดิม และคงมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ ทำให้นักลงทุนขายเงินยูโร และราคาทองคำออกมา เนื่องจาก ECB ส่งสัญญาณว่าอาจจะมีมาตรการขยายการกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มในอนาคต ขณะที่ส่วนของการให้การต่อวุฒิสภาของอดีต ผอ.FBI ปัจจัยดังกล่าวไม่ได้มีข้อมูลใหม่ๆ ที่ส่งผลต่อการคาดการณ์ว่าจะทำให้ประธานาธิปดีของสหรัฐฯ นายโดนัลด์ ทรัมป์ ถูกถอดถอนออกจากตำแหน่งได้ ทองคำในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัยจึงขาดแรงสนับสนุัน แต่ราคาทองคำยังสามารถตั้งฐาน และพยุงตัวอยู่ได้ โดยได้รับแรงหนุนจากการเลือกตั้งในฝั่งอังกฤษ หลังจากนายกรัฐมนตรีเทเลซา เมย์ ขาดเสียงส่วนใหญ่ หรือผลการเลือกตั้งใหม่เธอไม่สามารถที่จะครองเสียงส่วนใหญ่ในสภาได้ สถานการณ์ดังกล่าวส่งผลให้เกิดความวิตกกังวลว่า นายกรัฐมนตรีอังกฤษ อาจประสบปัญหาในกรณีการเจรจาBrexit หรือการนำพาอังกฤษออกจากการเป็นสหภาพยุโรป”
สำหรับปัจจัยที่ยังคงต้องจับตา จะมีการประชุมของธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) ซึ่งนักลงทุนยังคงจับตาอย่างใกล้ชิดว่า เฟด จะมีการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบาย และส่งสัญญาณในลักษณะของการคุมเข้มนโยบายการเงิน หรือลดในส่วนของงบดุลของเฟดหรือเปล่า เพราะหากมีการส่งสัญญาณในลักษณะดังกล่าวจริง ในส่วนของทองคำอาจจะมีการถูกทยอยขายเพื่อทำกำไรออกมา และดอลลาร์อาจจะมีการฟื้นตัวขึ้นซึ่งอาจจะเป็นปัจจัยตัวหนึ่งที่นักลงทุนต้องจับตาดูอย่างใกล้ชิด
ขณะเดียวกัน ยังมีตัวเลขเศรษฐกิจระหว่างสัปดาห์ เช่น ดัชนีราคาผู้ผลิต หรือว่า PPI และดัชนีราคาผู้บริโภค หรือว่า CPI ซึ่งจะเป็นมาตรวัดเงินเฟ้อ และผลการประชุมของธนาคารกลางอังกฤษ หรือ BOE รวมถึงธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) ทำให้กลยุทธ์การลงทุนช่วงนี้ เนื่องจากมีเหตุการณ์สำคัญ ราคาทองคำอาจจะมีการแกว่งตัว หรือผันผวนสูงขึ้น ทั้งนี้ นักลงทุนอาจจะต้องลงทุนด้วยความระมัดระวัง อย่างไรก็ตาม เริ่มเห็นในส่วนของการลงทุนทำกำไรของตัวราคาทองคำ หลังจากมีการดีดตัวขึ้นทดสอบกรอบระดับ 1,295 เหรียญดอลลาร์/ออนซ์ โดยหากราคายังไม่สามารถผ่านในระดับดังกล่าว แนะนำให้นักลงทุนแบ่งราคาทองคำออกขายเพื่อลดความเสี่ยง และรอเข้าซื้ออีกครั้งเมื่อราคาอ่อนตัวลงไม่หลุดโซนแนวรับบริเวณ 1,261 เหรียญดอลลาร์/ออนซ์
“ระยะสั้นราคาอาจจะเป็นการแกว่งตัวอยู่ในกรอบเพื่อรอปัจจัยเข้ามาชี้นำ นักลงทุนที่มีการเข้าซื้ออาจมีการเฉลี่ยซื้อตามบริเวณแนวรับต่างๆ เพื่อเป็นการป้องกันความเสี่ยง ทั้งนี้ หากราคาสามารถผ่านบริเวณ 1,295 เหรียญดอลลาร์/ออนซ์ไปได้ ยังประเมินในส่วนของแนวรับถัดไปบริเวณ 1,318 เหรียญดอลลาร์/ออนซ์”