“ทองคำ” ได้รับแรงสนับสนุนจากความผันผวนของสถานการณ์ทางการเมืองทั้งสหรัฐฯ และอังกฤษ กดดันยูโรอ่อนค่า เตือนที่ผ่านมา ราคาปรับขึ้นค่อนข้างมาก แต่หากผ่าน1,278 เหรียญ/ออนซ์ มีโอกาสปรับตัวเพิ่มขึ้นได้อีก
“วรุต รุ่งขำ” ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์ วายแอลจี บูลเลี่ยน แอนด์ ฟิวเจอร์ส กล่าวว่า ภาพรวมราคาทองคำมีการดีดตัวขึ้นแตะระดับสูงสุดในรอบ 5 สัปดาห์ แต่อย่างไรก็ตาม การขยับขึ้นของราคาทองคำค่อนข้างจำกัด ประกอบกับเมื่อราคามีการดีดตัวขึ้นคงมีแรงขายทำกำไรสลับออกมา ทั้งนี้ ราคาทองคำได้รับแรงหนุนในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัยจากสถานการณ์การเมืองในฝั่งยุโรปที่มีท่าทีตึงเครียดมากขึ้น รวมถึงการเลือกตั้งในฝั่งอังกฤษ ที่คะแนนนิยมในฝั่งนายกรัฐมนตรีลดลง สถานการณ์ดังกล่าวกระตุ้นทองคำในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัย แต่ปัจจัยดังกล่าวกลับไปกดดันในส่วนของทิศทางสกุลเงินยูโรให้อ่อนตัว ส่งผลให้ดอลลาร์สหรัฐมีการฟื้นตัวขึ้นกลับมาเป็นปัจจัยกดดันในส่วนของราคาทองคำเช่นกัน
ทั้งนี้ ข้อมูลเศรษฐกิจในฝั่งสหรัฐฯ ยังคงมีทิศทางที่แข็งแกร่งในช่วงปลายสัปดาห์ ประกอบกับการส่งสัญญาณของเจ้าหน้าที่ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ที่สนับสนุนการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยยังเป็นอีกปัจจัยหนึ่งที่กดดันให้ราคาทองคำมีแรงขายสลับออกมาในช่วงปลายสัปดาห์นี้เช่นกัน
สำหรับปัจจัยที่ยังคงต้องจับตา คือ สถานการณ์การเมืองในฝั่งสหรัฐฯ หลังจากทาง FBI มีการเรียกเจ้าหน้าที่ผู้เกี่ยวข้อง รวมถึงในส่วนของอดีตผู้อำนวยการของ FBI ที่มีการขู่จะเอาตำแหน่งจาก นายโดนัลด์ ทรัมป์ ซึ่งหากประเด็นในฝั่งการเมืองของสหรัฐฯ มีการร้อนแรงมากขึ้น หรือโอกาสที่ “ทรัมป์” จะถูกสอบสวนการเลือกตั้งในปี 2559 จะทวีความรุนแรง หรือตึงเครียดมากขึ้น ประเด็นดังกล่าวอาจจะกลับมาเป็นปัจจัยตัวหนึ่งในการกระตุ้นทองคำในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัยอีกครั้ง
นอกจากนี้ การเลือกตั้งนายกรัฐมนตรีอังกฤษ อาจจะต้องจับตาดูผลการเลือกตั้ง หากคะแนนเสียงของนายกรัฐมนตรี เทเรซา เมย์ ลดลงจากการที่มีการคาดการณ์เอาไว้ กรณี Brexit อาจจะทำได้ยากขึ้น และอาจจะเป็นปัจจัยตัวหนึ่งที่จะกลับมาส่งผลเชิงบวกต่อทองคำ ขณะเดียวกัน ในส่วนของทิศทางค่าเงินบาท จำเป็นที่จะต้องจับตาเพราะธนาคารกลางแห่งประเทศไทย (ธปท.) จะมีการแถลงข่าวเกี่ยวกับกฎระเบียบการปฏิรูป ควบคุมการแลกเปลี่ยนเงินตรา ซึ่งนักลงทุนอาจจะต้องจับตาดูว่ากฎระเบียบดังกล่าวจะมีการควบคุมทางด้านเงินทุนไหลเข้า ไหลออกอย่างไร ซึ่งจะส่งผลต่อการเคลื่อนไหวของค่าเงินบาท และส่งผลต่อการเคลื่อนไหวของราคาทองคำในประเทศเช่นกัน
ดังนั้น กลยุทธ์การลงทุนในช่วงที่ผ่านมา ราคาทองคำมีการขยับตัวขึ้นค่อนข้างมาก อย่างไรก็ตาม อาจจะต้องจับตาดูในส่วนของแนวต้านระดับ 1,278 เหรียญดอลลาร์/ออนซ์ อย่างใกล้ชิด ซึ่งหากราคาขึ้นไปเข้าใกล้ทดสอบแนวดังกล่าวแล้วไม่สามารถยืนได้อย่างแข็งแกร่ง ยังแนะนำให้นักลงทุนทยอยแบ่งทองคำออกขายเพื่อลดความเสี่ยง อย่างไรก็ตาม หากราคามีการปรับฐาน หรืออ่อนตัวลง อาจจับตาดูในส่วนของโซนแนวรับบริเวณ 1,245-1,236 เหรียญดอลลาร์/ออนซ์ หากยังยืนได้ถือว่าแรงซื้อค่อนข้างแข็งแกร่ง ราคามีโอกาสการดีดตัวขึ้นเพื่อทดสอบระดับสูงสุด หรือแนวต้านดังกล่าวอีกครั้ง โดยถ้าหากแรงซื้่อมากพอจนผ่านระดับ 1,278 เหรียญดอลลาร์/ออนซ์ ขึ้นไปได้ อาจมีโอกาสที่ราคาจะขึ้นทดสอบแนวต้านถัดไปบริเวณ 1,295 เหรียญดอลลาร์/ออนซ์