บลจ.กรุงไทยอยู่ระหว่างจำหน่ายตราสารหนี้ เอฟไอเอฟ 152 เสนอขายตั้งแต่วันนี้ถึงวันที่ 13 มิถุนายน 2560 อายุ 6 เดือน มูลค่าโครงการ 10,000 ล้านบาท คาดผู้ลงทุนได้รับผลตอบแทน 1.45% ต่อปี
นางชวินดา หาญรัตนกูล กรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน กรุงไทย จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า บริษัทอยู่ในระหว่างการเปิดจำหน่ายกองทุนเปิดกรุงไทยตราสารหนี้ เอฟไอเอฟ 152 (KTFF152) เสนอขายตั้งแต่วันนี้ถึงวันที่ 13 มิถุนายน 2560 อายุ 6 เดือน มูลค่าโครงการ 10,000 ล้านบาท เน้นลงทุนใน Bank of China, Agricultural Bank of China, China Construction Bank (Asia)Corp. Ltd, Abu Dhabi Commercial Bank PJSC, Industrial and Commercial Bank of China ในสัดส่วนสถาบันการเงินละ 17% ยกเว้นบัตรเงินฝาก Wing Lung Bank ลงทุนในสัดส่วน 15% ของมูลค่าทรัพย์สินสุทธิของกองทุน ผู้ลงทุนจะได้รับผลตอบแทนประมาณ 1.45% ต่อปี โดยกองทุนมีนโยบายป้องกันความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยนทั้งจำนวน และบุคคลธรรมดาไม่เสียภาษี
อัตราผลตอบแทนของตราสารหนี้ในประเทศมีการปรับตัวลดลงทุกช่วงอายุตามแรงซื้อโดยเฉพาะในตราสารอายุคงเหลือมากกว่า 2 ปีขึ้นไป เนื่องจากการคาดการณ์การขึ้นดอกเบี้ยของ Fed ในเดือนมิถุนายน และการทำ Bond Switching ของกระทรวงการคลังไปแล้วบางส่วน ในขณะที่ธนาคารแห่งประเทศไทยยังคงลดปริมาณการออกพันธบัตรระยะสั้นอย่างต่อเนื่อง นักลงทุนต่างชาติเป็นยอดขายสุทธิจำนวน 1,887 ล้านบาท โดยพันธบัตรอายุคงเหลือ 2 ปี อยู่ที่ 1.29% ต่อปี อายุคงเหลือ 5 ปี อยู่ที่ 1.72% ต่อปี และอายุคงเหลือ 10 ปี อยู่ที่ 2.16% ต่อปี ธนาคารแห่งประเทศไทยได้ประกาศเกี่ยวกับการผ่อนปรนนโยบายให้นักลงทุนหรือนิติบุคคลไทยออกไปลงทุนต่างประเทศง่ายขึ้น อย่างไรก็ตาม ไม่ได้มีมาตรการพิเศษในการควบคุมการไหลของเงินในตลาดอัตราแลกเปลี่ยน ส่วนตัวเลขการส่งออกเดือน เม.ย.ขยายตัว 5.9% ด้านอัตราเงินเฟ้อ -0.04% ในเดือน พ.ค.
ทั้งนี้ คาดว่าเฟดจะปรับอัตราดอกเบี้ยนโยบายในรอบการประชุมที่จะถึงนี้ ส่วนอัตราเงินเฟ้อของไทยนั้นมองทั้งปีที่ 1.0% และการอ่อนตัวเป็นเพียงปัจจัยชั่วคราว
ส่วนอัตราผลตอบแทนของพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอเมริกามีการปรับตัวลดลงเกือบทุกช่วงอายุเช่นกัน จากความต้องการลงทุนในสินทรัพย์ปลอดภัยท่ามกลางความกังวลเกี่ยวกับปัจจัยเสี่ยงทางการเมืองในสหรัฐอเมริกา ประกอบกับตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรที่ออกมาต่ำกว่าที่คาดไว้ โดยอัตราผลตอบแทนของตราสารหนี้อายุคงเหลือ 2 ปี อยู่ที่ 1.29% ต่อปี อายุคงเหลือ 5 ปี อยู่ที่ 1.72% ต่อปี และอายุคงเหลือ 10 ปี อยู่ที่ 2.16% ต่อปี