นางเทเรซา เมย์ นายกรัฐมนตรีอังกฤษ ได้สร้างความประหลาดใจในช่วงเดือนเมษายน ด้วยการประกาศจะจัดการเลือกตั้งก่อนกำหนดในวันที่ 8 มิ.ย. โดยนางเมย์ ให้เหตุผลว่า การเลือกตั้งในครั้งนี้จะช่วยยับยั้งเสียงคัดค้านที่พยายามทำลายแผน Brexit ของเธอ เนื่องจากผลสำรวจความเห็นประชาชนบ่งชี้ว่า ในขณะนั้นนางเมย์ ได้รับคะแนนนิยมสูงมาก หลากหลายสื่อต่างก็ออกมาฟันธงว่า “นางเมย์ จะชนะการเลือกตั้งอย่างถล่มทลาย” ซึ่งชัยชนะในการเลือกตั้งจะช่วยเพิ่มอำนาจให้แก่ นางเมย์ และทำให้การเจรจา Brexit ราบรื่นมากกว่าเดิม
อย่างไรก็ดี หลังจากเกิดเหตุระเบิดในเมืองแมนเชสเตอร์ ในงานคอนเสิร์ตของอาเรียนา แกรนเด ในช่วงโค้งสุดท้ายก่อนการเลือกตั้งของอังกฤษในอีก 2 สัปดาห์ครึ่ง ประกอบกับข้อเสนอด้านสวัสดิการสังคมของ นางเมย์ ซึ่งไม่ได้รับความนิยมจากประชาชน ส่งผลให้คะแนนนิยมของนางเมย์ ลดลงต่อเนื่อง ล่าสุด ยูกอฟ เปิดเผยโพลในหนังสือพิมพ์ไทมส์ ฉบับวันที่ 1 มิ.ย. โดยระบุว่า พรรคอนุรักษนิยมได้คะแนนนิยม 42% ส่วนพรรคแรงงานได้คะแนนนิยม 39% หรือต่ำกว่าพรรคอนุรักษนิยมเพียง 3% เท่านั้น โดยคะแนนนิยมของ 2 พรรคนี้ปรับเข้าใกล้กันมากขึ้นเรื่อยๆ นับตั้งแต่เริ่มมีการหาเสียง ยูกอฟ ระบุว่า คะแนนนิยมในพรรคอนุรักษนิยมลดลง 1% จากโพลสัปดาห์ก่อน ส่วนพรรคแรงงาน มีคะแนนนิยมเพิ่มขึ้น 3% จากสัปดาห์ก่อน
ในรัฐสภาอังกฤษ ประกอบด้วยที่นั่งทั้งหมด 650 ที่นั่ง ล่าสุด บริษัทยูกอฟ เปิดเผยผลสำรวจระบุว่า พรรคอนุรักษนิยม ของนายกรัฐมนตรีเมย์ อาจสูญเสียที่นั่ง 20 ที่นั่ง และจะครองที่นั่งได้เพียง 310 ที่นั่ง ซึ่งนั่นหมายความว่า พรรคอนุรักษนิยม จะสูญเสียเสียงข้างมาก 17 ที่นั่งในปัจจุบันไปด้วย ทางด้านพรรคแรงงาน ของนายเจเรมี คอร์บิน อาจครองที่นั่งได้ 257 ที่นั่งในการเลือกตั้งครั้งนี้ โดยพุ่งขึ้นจาก 232 ที่นั่งในการเลือกตั้งในปี 2015
ทั้งนี้ ถ้าหากผลเลือกตั้งออกมาตรงตามโพลยูกอฟ อาจทำให้พรรคอนุรักษนิยมก็จะไม่สามารถครองที่นั่งได้มากพอที่จะจัดตั้งรัฐบาลใหม่ได้ด้วยตนเอง ในขณะที่รัฐบาลใหม่มีภารกิจในการเจรจาต่อรองเรื่อง Brexit ที่มีความซับซ้อนสูง ทำให้นายกรัฐมนตรีเทเรซา เมย์ ของอังกฤษสูญเสียอำนาจควบคุมรัฐสภาอังกฤษในการเลือกตั้งในวันที่ 8 มิ.ย. ซึ่งอาจจะส่งผลให้เกิดภาวะปั่นป่วนวุ่นวายทางการเมืองตามมา โดยเฉพาะในกระบวนการเจรจาในเรื่องการถอนตัวออกจากอียู หรือ Brexit และปัจจัยนี้เองอาจเป็นปัจจัยหนุนราคาทองคำในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัย
อย่างไรก็ดี หลังจากเกิดเหตุระเบิดในเมืองแมนเชสเตอร์ ในงานคอนเสิร์ตของอาเรียนา แกรนเด ในช่วงโค้งสุดท้ายก่อนการเลือกตั้งของอังกฤษในอีก 2 สัปดาห์ครึ่ง ประกอบกับข้อเสนอด้านสวัสดิการสังคมของ นางเมย์ ซึ่งไม่ได้รับความนิยมจากประชาชน ส่งผลให้คะแนนนิยมของนางเมย์ ลดลงต่อเนื่อง ล่าสุด ยูกอฟ เปิดเผยโพลในหนังสือพิมพ์ไทมส์ ฉบับวันที่ 1 มิ.ย. โดยระบุว่า พรรคอนุรักษนิยมได้คะแนนนิยม 42% ส่วนพรรคแรงงานได้คะแนนนิยม 39% หรือต่ำกว่าพรรคอนุรักษนิยมเพียง 3% เท่านั้น โดยคะแนนนิยมของ 2 พรรคนี้ปรับเข้าใกล้กันมากขึ้นเรื่อยๆ นับตั้งแต่เริ่มมีการหาเสียง ยูกอฟ ระบุว่า คะแนนนิยมในพรรคอนุรักษนิยมลดลง 1% จากโพลสัปดาห์ก่อน ส่วนพรรคแรงงาน มีคะแนนนิยมเพิ่มขึ้น 3% จากสัปดาห์ก่อน
ในรัฐสภาอังกฤษ ประกอบด้วยที่นั่งทั้งหมด 650 ที่นั่ง ล่าสุด บริษัทยูกอฟ เปิดเผยผลสำรวจระบุว่า พรรคอนุรักษนิยม ของนายกรัฐมนตรีเมย์ อาจสูญเสียที่นั่ง 20 ที่นั่ง และจะครองที่นั่งได้เพียง 310 ที่นั่ง ซึ่งนั่นหมายความว่า พรรคอนุรักษนิยม จะสูญเสียเสียงข้างมาก 17 ที่นั่งในปัจจุบันไปด้วย ทางด้านพรรคแรงงาน ของนายเจเรมี คอร์บิน อาจครองที่นั่งได้ 257 ที่นั่งในการเลือกตั้งครั้งนี้ โดยพุ่งขึ้นจาก 232 ที่นั่งในการเลือกตั้งในปี 2015
ทั้งนี้ ถ้าหากผลเลือกตั้งออกมาตรงตามโพลยูกอฟ อาจทำให้พรรคอนุรักษนิยมก็จะไม่สามารถครองที่นั่งได้มากพอที่จะจัดตั้งรัฐบาลใหม่ได้ด้วยตนเอง ในขณะที่รัฐบาลใหม่มีภารกิจในการเจรจาต่อรองเรื่อง Brexit ที่มีความซับซ้อนสูง ทำให้นายกรัฐมนตรีเทเรซา เมย์ ของอังกฤษสูญเสียอำนาจควบคุมรัฐสภาอังกฤษในการเลือกตั้งในวันที่ 8 มิ.ย. ซึ่งอาจจะส่งผลให้เกิดภาวะปั่นป่วนวุ่นวายทางการเมืองตามมา โดยเฉพาะในกระบวนการเจรจาในเรื่องการถอนตัวออกจากอียู หรือ Brexit และปัจจัยนี้เองอาจเป็นปัจจัยหนุนราคาทองคำในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัย