เอเจนซีส์ – ตำรวจอังกฤษระบุชื่อผู้ก่อเหตุโจมตีลอนดอนทั้ง 3 คน โดยหนึ่งในนั้นเป็นที่รู้จักของตำรวจและหน่วยงานความมั่นคง ข่าวนี้ยิ่งทำให้เมย์ถูกวิจารณ์หนักขึ้นเกี่ยวกับผลงานสมัยนั่งเก้าอี้รัฐมนตรีมหาดไทย โพลล์ล่าสุดยังระบุว่า คะแนนนิยมของพรรคอนุรักษ์นิยม ซึ่งเป็นพรรครัฐบาล นำพรรคแรงงานเพียงจุดเดียว
เมื่อค่ำวันจันทร์ (5 มิ.ย.) ตำรวจอังกฤษได้ระบุตัวตนผู้ที่ก่อร้ายบริเวณสะพานลอนดอนบริดจ์เมื่อวันเสาร์ (3) โดยที่ 2 ใน 3 คนร้ายคือ "คูรัม ชาซัด บัตต์" พลเมืองอังกฤษเชื้อสายปากีสถาน วัย 27 ปี และ "ราชิด เรโดอัน" วัย 30 ปี ทั้งคู่อาศัยอยู่ในย่านบาร์คกิงที่ตำรวจเคยบุกตรวจค้นและจับกุมผู้ต้องสงสัยก่อนหน้านี้
สำหรับคนร้ายรายที่ 3 นั้นมีชื่อว่า ยูสเซฟ ซักห์บา เป็นพลเมืองอิตาลีเชื้อสายโมร็อกโก โดยทางสื่ออิตาลีได้รายงานว่า ซักห์บาเคยถูกเจ้าหน้าที่สั่งให้หยุดเพื่อตรวจสอบที่สนามบินในอิตาลี เพราะคิดว่าจะเดินทางไปซีเรีย แถมเจ้าหน้าที่ของอิตาลียังเคยเตือนอังกฤษเกี่ยวกับชายคนนี้แล้วด้วย
เพื่อนบ้านคนหนึ่งบอกว่า ได้คุยกับบัตต์ก่อนเกิดเหตุโจมตีเมื่อวันเสาร์ไม่กี่ชั่วโมง และบัตต์ดูเหมือนมีความสุขมาก ทั้งยังบอกด้วยว่า โดยปกติแล้ว เขาดูเป็นคนมีอัธยาศัยดีและเป็นคนรักครอบครัว ขณะที่เพื่อนบ้านอีกคนบอกว่า บัตต์เริ่มไว้หนวดเครายาวและสวมชุดแบบอิสลามบ่อยขึ้นในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา แต่ดูไม่เหมือนมีแนวคิดสุดโต่ง
สำนักงานตำรวจนครบาลลอนดอนให้รายละเอียดว่า ตำรวจและหน่วยข่าวกรอง MI5 รู้จักบัตต์ แต่เนื่องจากต้องจัดสรรทรัพยากรในการติดตามผู้ต้องสงสัยที่เชื่อว่า กำลังวางแผนโจมตีหรือให้การสนับสนุนการโจมตีก่อน และบัตต์ไม่เข้าข่ายผู้ต้องสงสัยกลุ่มนี้ ตำรวจยังแถลงด้วยว่า ได้ปล่อยตัวผู้ต้องสงสัยที่ถูกจับกุมก่อนหน้านี้ทั้ง 12 คนโดยไม่มีการตั้งข้อหาใดๆ
การประกาศว่า หน่วยงานข่าวกรองรู้จักบัตต์เรียกเสียงวิจารณ์จากสาธารณชนทันที เนื่องจากการโจมตีสะพานลอนดอนบริดจ์เป็นเหตุก่อการร้ายครั้งที่ 3 ในช่วงเวลาไม่ถึง 3 เดือน ครั้งก่อนหน้านี้เพิ่งเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 22 เดือนที่ผ่านมา ด้วยฝีมือของ "ซัลมาน อาเบดี" มือระเบิดฆ่าตัวตายที่แมนเชสเตอร์ อารีนา ทำให้มีผู้เสียชีวิตถึง 22 คน ซึ่งอาเบดีก็เป็นที่รู้จักของหน่วยข่าวกรองอังกฤษเช่นเดียวกัน
สื่อมวลชนเมืองผู้ดียังรายงานว่า บัตต์เคยปรากฏตัวในสารคดี “เดอะ ญิฮาดดิส เน็กซ์ ดอร์” ของสถานีทีวีช่อง 4 เมื่อปีที่แล้ว ทำให้คนจำนวนมากไม่พอใจว่า เหตุใดรัฐบาลจึงปล่อยให้มีการนำเสนอญิฮาดออกทีวี
ขณะเดียวกัน การหาเสียงเลือกตั้งของอังกฤษที่จะมีขึ้นในวันพฤหัสบดี (8 มิ.ย.) ถูกครอบงำโดยประเด็นด้านความมั่นคงอย่างชัดเจน
ก่อนหน้านี้นายกรัฐมนตรี เทเรซา เมย์ ประกาศจะกำจัดเนื้อหาของลัทธิสุดโต่งที่เผยแพร่บนระบบออนไลน์ และเตือนว่า อังกฤษไม่สามารถปล่อยให้การก่อการร้ายเกิดขึ้นอีก แต่ต้องใช้มาตรการจัดการขั้นเด็ดขาด
อย่างไรก็ตาม เมย์กลับถูกวิจารณ์อย่างหนัก จากผลงานในอดีตสมัยเป็นรัฐมนตรีมหาดไทยระหว่างปี 2010-2016 ที่มีการปลดตำรวจต่อเนื่องทุกปีรวมแล้วเกือบ 20,000 นาย หรือ 14% ของจำนวนตำรวจทั้งหมด
ผลสำรวจของเซอร์เวชันที่จัดทำให้สถานีไอทีวีระบุว่า พรรคอนุรักษ์นิยมนำพรรคแรงงานอยู่เพียงจุดเดียว จาก 6 จุดเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว แม้สำนักจัดทำการสำรวจความคิดเห็นส่วนใหญ่ยังเชื่อว่า เมย์จะชนะการเลือกตั้งครั้งนี้ก็ตาม
รายงานระบุว่า เมย์ไม่ยอมตอบผู้สื่อข่าวที่จี้ถามเรื่องการปลดตำรวจ แต่บอกว่า รัฐบาลได้ปกป้องงบประมาณสำหรับการก่อการร้าย และตำรวจมีอำนาจดำเนินการตามที่ต้องการ
เจเรมี คอร์บิน ผู้นำพรรคฝ่ายแรงงานซึ่งเป็นพรรคฝ่ายค้าน ให้สัมภาษณ์สำนักข่าวไอทีวีว่า เขาสนับสนุนเสียงเรียกร้องให้เมย์ลาออก
คอร์บินยังให้คำมั่นว่า จะเปิดรับสมัครตำรวจเพิ่ม และยืนยันว่าการใช้แนวทางพื้นฐานสามารถกำจัดอาชญากรรมและการเผยแพร่ลัทธิสุดโต่งได้
เมย์ตอบโต้ว่า คอร์บินเองก็มีจุดอ่อนด้านการก่อการร้าย ซึ่งก่อนหน้านี้ก็เคยถูกวิจารณ์อย่างหนักจากการลงมติคัดค้านกฎหมายต่อต้านการก่อการร้าย มิหนำซ้ำยังแสดงความเห็นใจสมาชิกกลุ่มฮามาสในปาเลสไตน์, กลุ่มฮิสบอลเลาะห์ของเลบานอน และซิน เฟน อดีตปีกการเมืองของกองทัพสาธารณรัฐไอร์แลนด์ (ไออาร์เอ) ที่ก่อเหตุโจมตีในไอร์แลนด์เหนือนาน 30 ปี
ทั้งนี้ มีรายงานว่าประชาชนทั่วไปพึงพอใจกับมาตรการรับมืออย่างรวดเร็วของตำรวจติดอาวุธต่อเหตุการณ์เมื่อค่ำวันเสาร์ ที่มีชายสามคนสวมเสื้อกั๊กติดระเบิดปลอม ขับรถพุ่งชนคนที่ลอนดอนบริดจ์ ก่อนลงไปวิ่งไล่แทงคนในย่านโบโรห์มาร์เก็ตที่อยู่ใกล้เคียง และถูกตำรวจวิสามัญทั้งหมดภายใน 8 นาทีหลังได้รับแจ้งเหตุครั้งแรก เหตุการณ์นี้มีผู้เสียชีวิต 7 คน บาดเจ็บ 48 คน ซึ่งต่อมาในวันอาทิตย์ (4 มิ.ย.) สำนักข่าวอามัคของกลุ่มรัฐอิสลาม (ไอเอส) อวดอ้างว่า ผู้ก่อเหตุทั้งสามเป็นคนของกลุ่มไอเอส
