เอเจนซีส์ - ตำรวจระบุจับกุมผู้ต้องสงสัยได้อีกจำนวนหนึ่งในวันจันทร์ (5 มิ.ย.) หลังจากกลุ่ม “รัฐอิสลาม” (ไอเอส) ออกมาอ้างความรับผิดชอบว่า ผู้ก่อเหตุ 3 คนที่ขับรถชนและใช้มีดไล่แทงผู้คนในกรุงลอนดอนคืนวันเสาร์ (3) จนมีผู้เสียชีวิตไป 7 คนและบาดเจ็บอีกหลายสิบนั้นเป็นนักรบของตน ขณะที่นายกรัฐมนตรีเทเรซา เมย์ ของสหราชอาณาจักรหวนกลับมารณรงค์หาเสียงอีกครั้ง โดยที่เหลือเวลาเพียง 3 วันก็จะถึงวันเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ซึ่งโพลหยั่งเสียงต่างระบุว่า เธอต้องเผชิญการแข่งขันที่คู่คี่เฉียดฉิวยิ่งกว่าที่เคยทำนายกันไว้ก่อนหน้านี้มาก
เหตุโจมตีที่ชาย 3 คนสวมเสื้อกั๊กระเบิดปลอม ขับรถตู้ไล่ชนผู้คนบนสะพานลอนดอนบริดจ์ แล้วเมื่อรถไปต่อไม่ได้พวกเขาก็ลงจากรถใช้มีดวิ่งไล่แทงคนไม่เลือกบริเวณย่านโบโรมาร์เก็ตที่อยู่ใกล้เคียง ก่อนจะถูกตำรวจติดอาวุธสังหารด้วยการระดมยิงใส่ราว 50 นัดนั้น นับเป็นเหตุโจมตีนองเลือดครั้งที่ 3 ซึ่งเกิดขึ้นในอังกฤษในรอบเวลาไม่ถึง 3 เดือน และก็เกิดขึ้นไม่กี่วันก่อนการเลือกตั้งทั่วไปในวันพฤหัสบดี (8) นี้
ในวันจันทร์ (5) ตำรวจลอนดอนแถลงว่า จับกุมผู้ต้องสงสัยได้อีกจำนวนหนึ่ง เพิ่มเติมจากที่ควบคุมตัวไว้เมื่อวันอาทิตย์ (4) จากการบุกค้นสถานที่ 2 แห่งในย่านบาร์คกิ้ง ทางตะวันออกของลอนดอน ซึ่งมีการจับกุมผู้ที่อาจเกี่ยวข้องรวม 12 คนแล้วต่อมาปล่อยตัวไป 1 คน จึงเหลือกักตัวอยู่ 11 คน
เครสซิดา ดิ๊ก ผู้บัญชาการตำรวจนครบาลลอนดอน หรือ สกอตแลนด์ยาร์ด ให้สัมภาษณ์วิทยุโทรทัศน์บีบีซีว่า เป้าหมายสำคัญที่สุดคือการพยายามตรวจสอบว่า ผู้ก่อเหตุทั้ง 3 คนสมรู้ร่วมคิดกับบุคคลอื่นๆ หรือไม่ โดยที่ตำรวจเก็บหลักฐานทางนิติเวชจำนวนมากได้จากรถตู้สีขาวที่คนร้ายใช้ก่อเหตุ
ตำรวจลอนดอนบอกว่าสามารถระบุอัตลักษณ์ของคนร้ายเหล่านี้ได้แล้ว ทว่ายังไม่มีการนำออกมาเปิดเผยต่อสาธารณชน
ทางด้านกลุ่มไอเอส ได้อวดอ้างผ่านสำนักข่าวอามัคของตนเองว่า นักรบของพวกตนเป็นผู้รับผิดชอบก่อเหตุโจมตีกรุงลอนดอนครั้งล่าสุดนี้ ถึงแม้ทางการอังกฤษยังไม่พบความเชื่อมโยงอย่างชัดเจนระหว่างกลุ่มผู้ก่อเหตุเหล่านี้กับกลุ่มอิสลามิสต์สุดโต่งกลุ่มนี้ก็ตามที
ระหว่างการให้สัมภาษณ์บีบีซี ผู้บัญชาการตำรวจลอนดอนกล่าวว่า แม้เหตุโจมตีบางเหตุการณ์ในระยะหลังๆ นี้มีความเชื่อมโยงกับกลุ่มนอกประเทศ แต่ส่วนใหญ่จะเป็นการดำเนินการของพวกที่มีแนวคิดหัวรุนแรงสุดโต่งภายในประเทศ
ขณะที่นายกรัฐมนตรีเมย์ ก็กล่าวว่า การโจมตีทั้ง 3 ครั้งล่าสุดที่ทำให้มีผู้เสียชีวิตรวม 34 คนนั้น ไม่ได้มีความเกี่ยวข้องกัน แต่สำทับว่า อังกฤษกำลังถูกคุกคามจากกลุ่มหัวรุนแรงสายพันธุ์ใหม่ที่มุ่งก็อปปี้เลียนแบบการโจมตีจากกันและกัน โดยอาจไม่ได้มีการวางแผนอะไรกันอย่างซับซ้อน รวมทั้งไม่ใช่เป็นพวกกระทำการคนเดียวภายหลังเปลี่ยนเป็นผู้มีแนวความคิดรุนแรงจากการเสพลัทธิสุดโต่งทางออนไลน์
เมย์ประณามว่า การโจมตีที่เกิดขึ้นทั้งหมดได้แรงกระตุ้นจากลัทธิอิสลามิสต์ปีศาจร้าย ซึ่งตัวแทนของความวิปริตนอกลู่นอกทางไปจากอิสลามและจากสัจธรรม
ทั้งพรรคอนุรักษนิยมของเมย์ และพรรคแรงงาน ซึ่งเป็นพรรคฝ่ายค้านหลัก ได้กลับมาหาเสียงอีกครั้งในวันจันทร์ (5) หลังจากหยุดไป 1 วันเพื่อแสดงความเคารพต่อเหยื่อการโจมตีครั้งล่าสุด ซึ่งนอกจากผู้เสียชีวิต 7 คนแล้ว ยังผู้ได้รับบาดเจ็บ 48 คนที่รักษาตัวอยู่ในโรงพยาบาล โดย 21 คนในจำนวนนี้อาการเข้าขั้นวิกฤต
แม้ยังไม่เป็นที่ชัดเจนว่า เหตุโจมตีล่าสุดจะส่งผลต่อการเลือกตั้งของอังกฤษอย่างไร แต่ที่แน่ๆ ความมั่นคงกลายเป็นหนึ่งในประเด็นหลักในการหาเสียงครั้งนี้ และคะแนนนิยมของเมย์ที่เคยนำโด่งชนิดหายห่วงกลับหดแคบลงอย่างน่าใจหาย
ถึงแม้สำนักจัดทำโพลล์หลายแห่งทำนายว่า พรรคของเมย์ยังสามารถครองเสียงข้างมากในสภาได้ แต่ชนะแค่ไหนเป็นสิ่งที่แต่ละสำนักคาดหมายแตกต่างกันมาก บ้างเชื่อว่าพรรคอนุรักษนิยมจะกวาดชัยถล่มทลาย แต่บางแห่งคิดว่า น่าจะชนะแบบเฉียดฉิว กระทั่งบางแห่งทำนายว่าจะไม่มีพรรคใดครองเสียงข้างมากด้วยซ้ำ
หากเมย์นำพรรคอนุรักษนิยมชิงที่นั่งมาได้ไม่เท่ากับที่อดีตนายกรัฐมนตรีเดวิด คาเมรอนทำได้ในการเลือกตั้งปี 2015 นั่นคือ เกินกึ่งหนึ่งอยู่ 12 ที่นั่งแล้ว เ จะทำให้อำนาจของเธอคลอนแคลนทั้งภายในพรรค และในการเจรจาเพื่อถอนตัวจากอียูอย่างเป็นทางการที่จะเริ่มต้นในวันที่ 19 เดือนนี้
ทางด้านเจเรมี คอร์บิน หัวหน้าพรรคแรงงาน วิจารณ์เมย์เรื่องที่ลดจำนวนตำรวจลงทุกปีตลอดวาระการดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีมหาดไทยระหว่างปี 2010-2016 โดยจากข้อมูลระบุว่า ในเดือนมีนาคม 2016 อังกฤษและเวลส์มีตำรวจ 124,066 คน เทียบกับ 143,734 คนเมื่อเดือนมีนาคม 2010
คอร์บินยังให้สัญญาว่า จะเพิ่มกำลังตำรวจอีก 10,000 คน ซึ่งจะรวมถึงตำรวจติดอาวุธด้วย
ระหว่างให้สัมภาษณ์ทีวีสกายนิวส์ในวันจันทร์ (5) เมื่อถูกถามว่าเขาสนับสนุนเสียงเรียกร้องของคนอื่นๆ ที่ให้เมย์ลาออกหรือไม่ คอร์บินก็ตอบว่าเขาสนับสนุน เพราะเธอต้องแสดงความรับผิดชอบเรื่องการตัดลดกำลังตำรวจระหว่างที่เธอเป็นรัฐมนตรีมหาดไทย