รอยเตอร์/เอเจนซีส์ - คนร้าย 3 คนขับรถตู้คันหนึ่งด้วยความเร็วสูง พุ่งเข้าชนประชาชนคนเดินถนนที่บริเวณสะพานลอนดอนบริดจ์เมื่อคืนวันเสาร์ (3 มิ.ย.) ก่อนที่จะออกจากรถใช้มีดไล่แทงผู้คนซึ่งออกมาเที่ยวเตร่ที่ย่านชีวิตราตรียอดนิยมซึ่งอยู่ใกล้ๆ กัน สังหารเหยื่อไปทั้งหมดอย่างน้อย 7 ราย และบาดเจ็บอีกหลายสิบคน ต่อจากนั้นอีกไม่กี่นาทีต่อมา ตำรวจติดอาวุธก็เด็ดชีพกลุ่มคนที่ก่อเหตุเหล่านี้ทั้งหมด ด้านนายกรัฐมนตรีเทเรซา เมย์ ของอังกฤษ แถลงในวันอาทิตย์ (4) ระบุว่า นี่เป็นผลงานของพวกหัวรุนแรงอิสลามิสต์ซึ่งถือเป็นส่วนหนึ่งของ “แนวโน้มใหม่ของการก่อการร้าย” พร้อมกับประกาศว่า “มันถึงเวลาแล้วที่จะพูดว่าพอกันที”
มีผู้ได้รับบาดเจ็บอย่างน้อยที่สุด 48 คนจากเหตุโจมตีคราวนี้ซึ่งนับเป็นครั้งที่ 3 ในอังกฤษในรอบระยะเวลาไม่ถึง 3 เดือน และยังบังเกิดขึ้นไม่กี่วันก่อนหน้าการจัดการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรในวันพฤหัสบดี (8) ที่จะถึงนี้
ตำรวจได้ยิงสังหารคนร้ายที่เป็นชายล้วนทั้ง 3 คนในย่านโบโรห์มาร์เกต ใกล้ๆ กับสะพานลอนดอนบริดจ์ ภายในเวลา 8 นาทีนับตั้งแต่ที่ได้รับแจ้งเหตุฉุกเฉินครั้งแรก เมื่อเวลาหลัง 22.00 น.เล็กน้อย ตามเวลาท้องถิ่น
พยานผู้เห็นเหตุการณ์หลายรายเล่าว่า รถตู้สีขาวที่พวกคนร้ายใช้ก่อเหตุนั้นได้พุ่งเข้าไปและหักถอยออกมาจากบริเวณทางเดินเท้าของสะพาน โดยชนผู้คนไปตลอดทาง แล้วจากนั้นชายทั้ง 3 ก็วิ่งเข้าไปในย่านโบโรห์มาร์เกต และแทงใส่ผู้คนที่อยู่แถวนั้นแบบไม่เลือกหน้า
ผู้เห็นเหตุการณ์เล่าด้วยว่า พวกที่หลบหนีเข้าไปอยู่ในผับแห่งหนึ่งพยายามตั้งเครื่องกีดขวางเพื่อไม่ให้ผู้ก่อเหตุบุกเข้ามา ขณะเดียวกันก็มีคนอื่นๆ พยายามโยนโต๊ะและข้าวของอื่นๆ เพื่อขัดขวางคนร้าย
ในวันอาทิตย์ (4) ตำรวจนครบาลอังกฤษแถลงว่าได้จับกุมผู้ต้องสงสัยจำนวน 12 คนจากเขตบาร์กกิ้ง ทางด้านตะวันออกของกรุงลอนดอน เนื่องจากอาจเกี่ยวข้องพัวพันกับการโจมตีครั้งนี้ และการตรวจค้นในบริเวณดังกล่าวยังกำลังดำเนินอยู่
ทั้งนี้ ตำรวจบุกเข้าไปในอาคารหลังหนึ่งในเขตบาร์กกิ้ง ซึ่งทีวีสกายนิวส์รายงานว่าเป็นที่อยู่ของผู้ก่อเหตุรายหนึ่ง และพยานผู้หนึ่งบอกกับทีวีช่องนี้ว่า พวกผู้พักอาศัยในอาคารแห่งนี้ได้ยินเสียงระเบิดแบบที่มีการควบคุมเอาไว้อยู่หลายๆ ครั้งในเช้ามืดวันนั้น
ก่อนหน้านั้นในวันเดียวกัน นายกรัฐมนตรีเมย์ อ่านคำแถลงของเธอออกอากาศทางโทรทัศน์ จากบริเวณหน้าทำเนียบที่ทำการและที่พักของเธอบนถนนดาวนิ่ง ซึ่งธงชาติถูกลดลงอยู่ในระดับครึ่งเสาเพื่อเป็นการไว้อาลัยเหยื่อผู้เสียชีวิต โดยบอกว่า “เราเชื่อว่าเรากำลังประสบกับแนวโน้มใหม่ในภัยคุกคามที่เราเผชิญอยู่ จากการที่การก่อการร้ายบ่มเพาะการก่อการร้าย (ต่อๆ ไปอีก)”
“พวกผู้ก่อเหตุได้รับแรงบันดาลใจให้เข้าทำการโจมตี ไม่ใช่เพียงเฉพาะการอาศัยแผนร้ายกลอุบายต่างๆ ที่จัดวางขึ้นมาอย่างระมัดระวัง ... และไม่ใช่แม้กระทั่งเป็นผู้เข้าโจมตีเพียงคนเดียวที่ถูกกระตุ้นให้เกิดความคิดรุนแรงผ่านทางออนไลน์ หากแต่ก่อเหตุด้วยการก็อปปี้เอาอย่างซึ่งกันและกัน และบ่อยครั้งทีเดียวกำลังใช้วิธีการโจมตีซึ่งหยาบๆ ดิบๆ ที่สุด”
เธออธิบายว่า การโจมตีที่เกิดต่อเนื่องเป็นชุดเหล่านี้ไม่ได้มีการเชื่อมโยงกันในแง่ของการวางแผนหรือการดำเนินการ ทว่าต่างได้รับแรงบันดาลใจจากสิ่งที่เธอระบุว่าเป็น “อุดมการณ์อันชั่วร้ายหนึ่งเดียวของลัทธิสุดโต่งอิสลามิสต์” ซึ่งเป็นตัวแทนของความวิปริตนอกลู่นอกทางไปจากอิสลามและจากสัจธรรม เธอกล่าวว่าอุดมการณ์นี้จำเป็นที่จะถูกต่อต้านเผชิญหน้าทั้งจากภายในอังกฤษและจากต่างประเทศ
“ขณะที่เรามีความคืบหน้าไปอย่างสำคัญในระยะปีหลังๆ มานี้ แต่พูดกันอย่างตรงไปตรงมาแล้ว เรายังคงมีความอดทนอดกลั้นจนเกินไปมากต่อลัทธิสุดโต่งในประเทศของเรา” เธอกล่าว โดยที่มิได้อธิบายขยายความ
เมย์บอกด้วยว่า การโจมตีที่เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่องยังเป็นเครื่องชี้ให้เห็นว่ายุทธศาสตร์ในการต่อสู้การก่อการร้ายของอังกฤษจำเป็นที่จะต้องทบทวนเปลี่ยนแปลงกันใหม่ ทั้งนี้เธอพูดด้วยว่า “มันถึงเวลาแล้วที่จะพูดว่าพอกันที”
“เราไม่สามารถและต้องไม่แสร้างทำเป็นว่าสิ่งต่างๆ สามารถที่จะดำเนินไปอย่างที่เคยเป็นมา” เมย์กล่าว พร้อมกับเรียกร้องให้ใช้ยุทธศาสตร์การต่อต้านการก่อการร้ายซึ่งแข็งแกร่งยิ่งขึ้น โดยอาจรวมไปถึงการเพิ่มโทษจำคุกให้สูงขึ้นสำหรับผู้กระทำความผิดบางลักษณะ และกฎระเบียบใหม่ทางด้านไซเบอร์สเปซ
ทางด้านพรรคการเมืองใหญ่ๆ ส่วนใหญ่ รวมทั้งพรรคคอนเซอร์เวทีฟของเมย์ และพรรคเลเบอร์ ที่เป็นพรรคฝ่ายค้านสำคัญที่สุด ต่างประกาศระงับการรณรงค์หาเสียงระดับประเทศในวันอาทิตย์ (4) แต่นายกฯเมย์กล่าวว่า จะกลับมารณรงค์หาเสียงกันใหม่ในวันจันทร์ (5) และการเลือกตั้งก็ยังจะเดินหน้าต่อไปตามกำหนด
ลอนดอนบริดจ์ สถานที่คนร้ายเลือกใช้ก่อเหตุคราวนี้ เป็นศูนย์คมนาคมขนส่งแห่งสำคัญแห่งหนึ่ง และโบโรห์มาร์เกตที่อยู่ใกล้ๆ กันก็เป็นย่านศูนย์รวมบาร์และภัตตาคารร้านอาหารต่างๆ ซึ่งตั้งอยู่อย่างอัดแอไปตามตรอกซอยถนนแคบๆ จำนวนมาก และปกติแล้วมีผู้ไปสัญจรเที่ยวเตร่กันอย่างคับคั่งในช่วงคืนวันเสาร์
ในวันอาทิตย์ (4) บริเวณแถบนี้ยังคงถูกปิดกั้นไม่ให้ผู้ไม่เกี่ยวข้องเข้าไป ขณะที่มีตำรวจติดอาวุธและเจ้าหน้าที่ต่อต้านการก่อการร้ายออกตรวจการณ์ลาดตระเวน พวกสถานีรถไฟที่อยู่แถวนี้ยังคงถูกสั่งปิด และสามารถมองเห็นเจ้าหน้าที่ด้านนิติวิทยาศาสตร์กำลังทำงานที่บริเวณสะพาน ซึ่งยังคงมีรถโดยสารและรถแท็กซี่จอดนิ่งในสภาพถูกทิ้งไว้อยู่หลายคัน
ในเฉพาะหน้านี้ยังไม่มีกลุ่มใดออกมาอ้างความรับผิดชอบก่อเหตุโจมตีครั้งล่าสุดนี้
แต่เมื่อไม่ถึง 2 สัปดาห์ก่อน ได้มีมือระเบิดฆ่าตัวตายอิสลามิสต์ผู้หนึ่งจุดบึ้มขึ้นซึ่งสังหารผู้คนไป 22 คนรวมทั้งที่เป็นเด็กๆ ด้วยหลายคน ณ งานแสดงคอนเสิร์ตของนักร้องสาวอเมริกัน อเรียนา แกรนเด ในเมืองแมนเชสเตอร์ ซึ่งอยู่ทางตอนเหนือของอังกฤษ ก่อนหน้านั้นในเดือนมีนาคม ก็มีเหตุโจมตีคล้ายๆ กับที่เกิดขึ้นในวันเสาร์ (3) เมื่อชายผู้หนึ่งฆ่าผู้คนเสียชีวิตไป 5 คน ภายหลังขับรถพุ่งเข้าใส่คนเดินถนนบนสะพานเวสต์มินสเตอร์บริดจ์ ในเขตใจกลางกรุงลอนดอน
แกรนเดและศิลปินนักร้องคนอื่นๆ ประกาศจัดการแสดงคอนเสิร์ตการกุศลขึ้นที่สนามคริกเก็ต ของสนามโอลด์แทรฟฟอร์ด ในเมืองแมนเชสเตอร์ คืนวันอาทิตย์ (4) เพื่อระดมหาเงินทุนช่วยเหลือเหยื่อผู้เคราะห์ร้ายของเหตุระเบิดงานคอนเสิร์ตเมื่อปลายเดือนพฤษภาคมตลอดจนครอบครัวของพวกเขา ตำรวจแถลงว่างานนี้ยังจะเดินหน้าไปตามกำหนด ทว่าจะเพิ่มมาตรการรักษาความปลอดภัยเข้มงวดยิ่งขึ้น
คนร้าย 3 คนที่ก่อเหตุในลอนดอนคืนวันเสาร์ (3) ต่างสวมสิ่งที่ดูคล้ายกับเข็มขัดระเบิดฆ่าตัวตาย ทว่าได้รับการพิสูจน์ในเวลาต่อมาว่าเป็นของปลอม นายกฯเมย์ย้ำว่า จุดประสงค์ของผู้ก่อเหตุเหล่านี้คือสร้างความตื่นตระหนกหวาดผวา ขณะที่วิทยุโทรทัศน์บีบีซีแสดงภาพถ่ายภาพหนึ่งของบุคคลที่น่าจะเป็นผู้ก่อเหตุคราวนี้รวม 2 คน ในสภาพที่ถูกตำรวจยิง โดยที่คนหนึ่งมีหน้ากากกันไอพิษคาดเอาไว้กับตัว
รัฐมนตรีมหาดไทย อัมเบอร์ รุดด์ ของอังกฤษกล่าวว่า ยังไม่ปรากฏว่ามีความเชื่อมโยงเกี่ยวพันใดๆ ระหว่างผู้ก่อเหตุครั้งล่าสุดนี้กับเหตุระเบิดที่แมนเชสเตอร์
นอกเหนือจากเหตุ 3 ครั้งในอังกฤษแล้ว ในระยะเวลา 2 ปีที่ผ่านมา ยังมีพวกหัวรุนแรงอิสลามิสต์ก่อการโจมตีขึ้นในหลายๆ เมืองของยุโรป ทั้งที่เบอร์ลิน, นีซ, บรัสเซลส์ และปารีส
กลุ่ม “รัฐอิสลาม” ซึ่งกำลังสูญเสียดินแดนในซีเรียและอิรักไปเรื่อยๆ จากการรุกคืบหน้าของกองกำลังฝ่ายต่างๆ ซึ่งมีพันธมิตรที่นำโดยสหรัฐฯคอยให้ความสนับสนุน ก่อนหน้านี้ในวันเสาร์ (3)ได้ส่งข้อความผ่านทาง “เทเลแกรม” บริการส่งข้อความทันที เรียกร้องให้เหล่าสาวกของตนเปิดการโจมตีด้วยรถบรรทุก, มีด และปืน เพื่อเล่นงาน “พวกนักรบไม้กางเขน” ในระหว่างเดือนถือศีลอดของชาวมุสลิมที่กำลังดำเนินอยู่ในขณะนี้
ทางด้านประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐฯ ได้โพสต์ข้อความทางทวิตเตอร์เมื่อวันอาทิตย์ เรียกร้องให้ทั่วโลกยุติการวางตัวเอาแต่ “ความถูกต้องในทางการเมือง” และลงมือกระทำสิ่งต่างๆ เพื่อรับประกันให้เกิดความมั่นคงปลอดภัย
ก่อนหน้านี้ในวันเสาร์ (3) ทรัมป์ก็ได้ส่งข้อความทางทวิตเตอร์ เสนอให้ความช่วยเหลือของสหรัฐฯต่ออังกฤษ ขณะที่ทำเนียบขาวแถลงว่า ทรัมป์ยังได้พูดคุยทางโทรศัพท์กับเมย์ โดยร่วมแสดงความเสียใจ และเสนอ “ให้ความสนับสนุนอย่างเต็มที่” ในการสอบสวนและในการนำตัวผู้ก่อเหตุมาลงโทษ
สำหรับผู้นำของโลกคนอื่นๆ นั้น ประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน แห่งรัสเซีย ได้ร่วมแสดงความเสียใจในโทรเลขที่ส่งถึงเมย์
เช่นเดียวกับนายกรัฐมนตรีอังเกลา แมร์เคิล ของเยอรมนี ที่กล่าวว่า “วันนี้ พวกเราสามัคคีกันข้ามพรมแดนทั้งหลายทั้งปวง ในท่ามกลางความโหดร้ายและในความโศกเศร้า แต่ก็อยู่ในความมุ่งมั่นเด็ดเดี่ยวพอๆ กัน ดิฉันขอย้ำสำหรับเยอรมนีว่า ในการสู้รบต่อต้านการก่อการร้ายทุกรูปแบบ เรายืนหยัดอย่างมั่นคงและเด็ดเดี่ยวอยู่ข้างๆ สหราชอาณาจักร”
ประธานาธิบดีเอ็มมานูแอล มาครง ของฝรั่งเศส โพสต์ข้อความทางทวิตเตอร์ว่า “ฝรั่งเศสกำลังยืนหยัดอย่างมั่นคงยิ่งกว่าที่เคยเป็นมาอยู่เคียงข้างสหราชอาณาจักร”
ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ฝรั่งเศสรายงานว่ามีบุคคลสัญชาติฝรั่งเศส 4 คนอยู่ในกลุ่มผู้ที่ได้รับบาดเจ็บจากเหตุโจมตีที่ลอนดอนครั้งนี้ เวลาเดียวกัน ทางด้านออสเตรเลียแจ้งว่ามีพลเมืองของตนได้รับบาดเจ็บด้วย 2 คน โดยคนหนึ่งรักษาตัวอยู่ในโรงพยาบาล