xs
xsm
sm
md
lg

เตือนผู้ถือหุ้น “UPA” ใช้สิทธิในการอนุมัติลงทุนโรงไฟฟ้า

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online

ก.ล.ต.เตือนผู้ถือหุ้น “ยูไนเต็ด เพาเวอร์ ออฟ เอเชีย” ไปใช้สิทธิออกเสียงการให้สัตยาบันกรณีบริษัทย่อยทำสัญญาซื้อขายไฟฟ้า กับการไฟฟ้าแห่งสหภาพเมียนมา เหตุที่ปรึกษาการเงินอิสระมองไม่สมเหตุผล เนื่องจากข้อมูลโครงการโรงไฟฟ้าหลายส่วนไม่มีความชัดเจน และมีความเสี่ยงมาก อาจมีผลตอบแทนเป็นลบ และใช้เวลาคืนทุนนานถึง 11 ปี

สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ หรือ ก.ล.ต. เตือนให้ผู้ถือหุ้น บริษัท ยูไนเต็ด เพาเวอร์ ออฟ เอเชีย จำกัด (มหาชน) (UPA) ศึกษาข้อมูล และไปใช้สิทธิออกเสียงในการประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้น ในวันที่ 2 ธันวาคม 2559 เพื่อพิจารณาให้สัตยาบันในการลงนามในสัญญาซื้อขายไฟฟ้า ระหว่างบริษัท เมียนมา ยูพีเอ จำกัด (MUPA) ซึ่งเป็นบริษัทย่อยของ UPA กับการไฟฟ้าแห่งสหภาพเมียนมา (ปัจจุบัน คือ Electric PowerGeneration Enterprise - EPGE)
 
โดย UPA จะขออนุมัติผู้ถือหุ้นให้สัตยาบันในการทำสัญญาซื้อขายไฟฟ้าระหว่าง MUPA และ EPGE ในการประชุมวิสามัญ ในวันที่ 2 ธันวาคม 2559 เนื่องจากเป็นรายการได้มาซึ่งสินทรัพย์ที่มีขนาดของรายการ 337.92% ของสินทรัพย์รวมของ UPA ซึ่งตามเกณฑ์ หากรายการได้มาซึ่งสินทรัพย์ใดมีขนาดเกิน 50% ของสินทรัพย์รวม จะต้องได้รับอนุมัติด้วยคะแนนเสียงไม่น้อยกว่า 3 ใน 4 ของจำนวนเสียงทั้งหมดของผู้ถือหุ้นที่มาประชุม และมีสิทธิออกเสียงลงคะแนน โดยไม่นับส่วนของผู้ถือหุ้นที่มีส่วนได้เสีย นอกจากนี้ หากได้รับอนุมัติดังกล่าว UPA ยังมีหน้าที่ต้องยื่นคำขอให้ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยในการพิจารณารับหลักทรัพย์ใหม่ ซึ่งต้องมีการพิจารณาคุณสมบัติให้ครบถ้วนต่อไป

คณะกรรมการ และคณะกรรมการตรวจสอบของ UPA มีความเห็นสรุปได้ว่า รายการดังกล่าวมีความสมเหตุสมผล และทำให้ผู้ถือหุ้นได้รับประโยชน์ เนื่องจากเป็นการต่อยอด และขยายฐานธุรกิจหลักของบริษัทที่เกี่ยวข้องกับพลังงาน โดยจะสร้างความมั่นคง และผลตอบแทนในระยะยาวให้บริษัท โดยโครงการโรงไฟฟ้า เฟส 2 จะมีกำลังการผลิตกว่า 200 เมกะวัตต์ และมีระยะเวลาสัญญา 30 ปี

อย่างไรก็ดี ที่ปรึกษาทางการเงินอิสระมีความเห็นว่า การเข้าทำรายการดังกล่าวไม่สมเหตุสมผล เนื่องจากข้อมูล และปัจจัยต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับโครงการโรงไฟฟ้าหลายส่วนยังไม่มีความชัดเจน อีกทั้งโครงการดังกล่าวมีข้อด้อย และความเสี่ยงหลายประการ และเมื่อประเมินมูลค่าโครงการโดยใช้หลักความระมัดระวัง การลงทุนในโครงการโรงไฟฟ้าอาจมีผลตอบแทนเป็นลบ และมีระยะเวลาคืนทุนนานเกือบ 11 ปี
 
ดังนั้น ก.ล.ต. จึงขอให้ผู้ถือหุ้นศึกษาข้อมูลโดยละเอียด และใช้สิทธิของผู้ถือหุ้นในการรักษาประโยชน์ของตนเอง พร้อมกับซักถามผู้บริหารบริษัทถึงข้อมูลต่างๆ เพื่อให้มีข้อมูลครบถ้วนในการประกอบการตัดสินใจด้วย


กำลังโหลดความคิดเห็น