ตลท.เตือนผู้ถือหุ้น ADAM เข้าร่วมประชุมฯ 19 ส.ค. พร้อมศึกษาข้อมูลอย่างรอบคอบกรณี IFA แนะไม่ควรอนุมัติซื้อสิทธารมย์
ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) ขอให้ผู้ถือหุ้น บมจ.อาดามัส อินคอร์ปอเรชั่น (ADAM) ศึกษาข้อมูลอย่างรอบคอบต่อการซื้อหุ้นทั้งหมดของบริษัท สิทธารมย์ ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (สิทธารมย์) มูลค่ารวม 370 ล้านบาท ซึ่งเข้าข่ายเป็นการได้มาซึ่งสินทรัพย์ (ขนาดรายการ 253.57% ของสินทรัพย์รวมของบริษัท) และขอให้ผู้ถือหุ้นรักษาสิทธิของตนเอง โดยเข้าร่วมประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้นในวันที่ 19 ส.ค.นี้
หลังจากที่ปรึกษาทางการเงินอิสระ (IFA) เห็นว่า ผู้ถือหุ้นไม่ควรอนุมัติการซื้อหุ้นสิทธารมย์ เนื่องจากราคาซื้อที่ 370 ล้านบาทนั้น ไม่เหมาะสม เนื่องจากสูงกว่าราคายุติธรรม 96 ล้านบาท นอกจากนี้ ค่าความนิยมจากการซื้อหุ้นจะต้องถูกทดสอบด้อยค่าทุกๆ ปี ซึ่งหากค่าความนิยมด้อยค่าลง จะทำให้ผลกำไรสุทธิของบริษัท และผลตอบแทนของผู้ถือหุ้นลดลง
อย่างไรก็ตาม คณะกรรมการ และคณะกรรมการตรวจสอบของบริษัทมีความเห็นว่า แม้ราคาซื้อหุ้นสิทธารมย์ จะมีราคาสูงกว่าราคาประเมิน และ IFA เห็นว่า การเข้าซื้อหุ้นดังกล่าวไม่เหมาะสม แต่การซื้อหุ้นสิทธารมย์ จะเป็นไปตามแผนการ และเพื่อแก้ปัญหากรณีบริษัทเข้าข่ายเป็นบริษัทที่มีสินทรัพย์ทั้งหมด หรือเกือบทั้งหมดในรูปของเงินสด (Cash Company) ซึ่งเมื่อเข้าซื้อหุ้นสิทธารมย์แล้ว จะทำให้บริษัทเริ่มมีธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ต่อไป
ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) ขอให้ผู้ถือหุ้น บมจ.อาดามัส อินคอร์ปอเรชั่น (ADAM) ศึกษาข้อมูลอย่างรอบคอบต่อการซื้อหุ้นทั้งหมดของบริษัท สิทธารมย์ ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (สิทธารมย์) มูลค่ารวม 370 ล้านบาท ซึ่งเข้าข่ายเป็นการได้มาซึ่งสินทรัพย์ (ขนาดรายการ 253.57% ของสินทรัพย์รวมของบริษัท) และขอให้ผู้ถือหุ้นรักษาสิทธิของตนเอง โดยเข้าร่วมประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้นในวันที่ 19 ส.ค.นี้
หลังจากที่ปรึกษาทางการเงินอิสระ (IFA) เห็นว่า ผู้ถือหุ้นไม่ควรอนุมัติการซื้อหุ้นสิทธารมย์ เนื่องจากราคาซื้อที่ 370 ล้านบาทนั้น ไม่เหมาะสม เนื่องจากสูงกว่าราคายุติธรรม 96 ล้านบาท นอกจากนี้ ค่าความนิยมจากการซื้อหุ้นจะต้องถูกทดสอบด้อยค่าทุกๆ ปี ซึ่งหากค่าความนิยมด้อยค่าลง จะทำให้ผลกำไรสุทธิของบริษัท และผลตอบแทนของผู้ถือหุ้นลดลง
อย่างไรก็ตาม คณะกรรมการ และคณะกรรมการตรวจสอบของบริษัทมีความเห็นว่า แม้ราคาซื้อหุ้นสิทธารมย์ จะมีราคาสูงกว่าราคาประเมิน และ IFA เห็นว่า การเข้าซื้อหุ้นดังกล่าวไม่เหมาะสม แต่การซื้อหุ้นสิทธารมย์ จะเป็นไปตามแผนการ และเพื่อแก้ปัญหากรณีบริษัทเข้าข่ายเป็นบริษัทที่มีสินทรัพย์ทั้งหมด หรือเกือบทั้งหมดในรูปของเงินสด (Cash Company) ซึ่งเมื่อเข้าซื้อหุ้นสิทธารมย์แล้ว จะทำให้บริษัทเริ่มมีธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ต่อไป